จังหวัดพิษณุโลกถือเป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศไทยที่มีความเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานนับตั้งแต่ยุคอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ร่องรอยจารึกทางประวัติศาสตร์ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ในจังหวัดแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานและวัดวาอารามต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายซึ่งล้วนมีความเก่าแก่และสำคัญยิ่งต่อประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยหนึ่งในนั้นคือ "วัดราชบูรณะ" ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพิษณุโลก ถือเป็นวัดที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์รวมถึงการพินิจพิจารณาถึงลักษณะทางสถาปัตยกรรมของวัดซึ่งมีความโดดเด่นและสวยงามเป็นอย่างมากตามข้อมูลประวัติที่ปรากฏภายในบริเวณวัดทราบว่า วัดราชบูรณะแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรสุโขทัย กระทั่งได้รับการบูรณะเป็นครั้งแรกในสมัยพระยาลิไทย พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์พระร่วงแห่งอาณาจักรสุโขทัย จึงได้กลายเป็นที่มาของชื่อวัดว่า "ราชบูรณะ" หรือการบูรณะปฏิสังขรณ์โดยพระมหากษัตริย์นั่นเอง ความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมของวัดราชบูรณะแห่งนี้คือ ลักณะของหลังคา โดยเฉพาะบริเวณของใบระกาที่ปรากฏลักษณะของนาค 3 เศียรซึ่งมีความงดงาม อ่อนช้อยและแตกต่างจากงานสถาปัตยกรรมของวัดวาอารามทั่วไปเป็นอันมาก นอกจากนี้ภายในพระอุโบสถมีการประดิษฐานพระประธานซึ่งเป็นศิลปะสมัยสุโขทัย รวมทั้งยังมีพระพุทธรูปโบราณอีกมากมายให้สักการะบูชา ความโดดเด่นภายในพระอุโบสถอีกประการก็คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่อง"รามเกียรติ์" ที่มีความสวยงามตระการตา และมีความเก่าแก่แห่งหนึ่งในประเทศไทยเนื่องจากวาดขึ้นตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ หรือหลายร้อยปีล่วงมาแล้ว แม้ภาพบางส่วนจะชำรุดเสียหายหรือถูกลบเลือนไปตามกาลเวลาไปบ้างแล้วแต่ยังคงร่องรอยความงดงามไว้ได้พอสมควร ซึ่งชวนให้นึกจินตนาการย้อนไปว่าในยุคสมัยนั้นภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้จะงดงามเพียงใดความโดดเด่นที่น่าสนใจอีกประการของวัดราชบูรณะแห่งนี้คือ องค์เจดีย์หลวง ซึ่งเป็นเจดีย์ศิลปะสุโขทัยที่มีรูปทรงทางสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างดูแปลกตาและมีเอกลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง ฐานของเจดีย์เป็นรูปทรงแปดเหลี่ยม มีลักษณะสูงใหญ่เรียงซ้อนกันขึ้นไปจึงถึงชั้นของระเบียงรอบ ซึ่งจะปรากฏเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ หรือเจดีย์ทรงลังกาตั้งโดดเด่นอยู่ตรงกลางบริเวณด้านบน โดยมีเจดีย์องค์เล็กล้อมรอบจำนวน 8 องค์ ปัจจุบันองค์เจดีย์หลวงของวัดราชบูรณะแห่งนี้ถือเป็นเจดีย์ที่ขนาดใหญ่และสูงที่สุดในจังหวัดพิษณุโลก นอกจากนี้ภายในวัดบูรณะยังมีหอไตรที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมเป็นอย่างยิ่ง โดยฐานของหอไตรเป็นเสากลมตั้งรับกับตัวหอไตรซึ่งในอดีตตั้งอยู่กลางสระน้ำ แต่ทว่ากาลเวลาผ่านไปหลายร้อยปีทำให้กำแพงสระน้ำที่เคยล้อมรอบพลังทลายเสียหายไปมากปัจจุบันจึงเหลือเพียงซากปรักหักพัง โดยในส่วนของลักษณะภาพรวมทางสถาปัตยกรรมของตัวหอไตรนั้นมีความร้อยเรียงสอดประสานกันอย่างลงตัวตามหลักของการออกแบบ รูปทรงมีความสมมาตรกันอย่างกลมกลืน โดยบริเวณหลังคามีการประดับประดาด้วยงานสถาปัตยกรรมแบบจตุรมุข 4 ทิศ บริเวณหน้าบรรณปรากฏลวดลายปูนปั้นและการแกะสลักลายไม้ที่อ่อนช้อย ผสมผสานกับช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ครบมุมทั้ง 8 มุม ยิ่งเสริมความสมบูรณ์แบบและความงดงามให้แก่หอไตร ในส่วนของบริเวณโดยรอบหอไตรนั้นยังเต็มไปด้วยงานปูนปั้นโบราณมากมาย โดยปัจจุบันหอไตรแห่งนี้ยังคงทำหน้าที่เก็บรักษาพระคัมภีร์ต่าง ๆ ที่มีความสำคัญทางพระพุทธศาสนาตั้งแต่ในยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนรู้แหล่งอารยธรรมไทยในยุคอดีตตลอดจนโบราณสถาน วัดวาอาราม โดยเฉพาะในยุคสุโขทัย ก็สามารถมาเที่ยวชมได้ที่วัดราชบูรณะ จังหวัดพิษณุโลกแห่งนี้ได้ทุกวัน ซึ่งนอกจากจะได้องค์ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์แล้ว ยังได้ชื่นชมกับความงดงามของวัดโดยเฉพาะงานสถาปัตยกรรม พระพุทธรูปล้ำค่า โบราณวัตถุในยุคสุโขทัย รวมทั้งงานศิลปะ ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีความวิจิตรและทรงคุณค่ายิ่ง พิกัดที่ตั้ง วัดราชบูรณะภาพถ่ายโดยผู้เขียน