ร้านหนังสือดี..ไม่มีวันตาย "เสียงทิพย์บุ๊คเซ็นเตอร์"ในวันที่ใครๆพากันพูดว่า "ร้านหนังสือตายแล้ว" ท่ามกลางสถานการณ์การทยอยปิดตัวของนิตยสาร และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมทั้งร้านหนังสือขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ที่น่าตกใจณ ใจกลางเมืองพิษณุโลก ..เรากลับพบอาณาจักรหนังสือที่อบอุ่น เป็นมิตร และยืนหยัดต่อสู้กับกระแสการพัดพาของสื่อดิจิตอลได้อย่างน่ามหัศจรรย์“เสียงทิพย์บุ๊คเซ็นเตอร์” ตั้งอยู่บนถนนเอกาทศรฐ ใกล้กับแยกบ้านแขก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จะนับว่าเป็นร้านหนังสือเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของพิษณุโลกก็ว่าได้ เพราะเปิดร้านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 โดยเริ่มจากการเป็นร้านหนังสือให้เช่า แล้วค่อยๆขยับขยายกิจการมาเป็นร้านหนังสือเต็มรูปแบบเช่นในปัจจุบัน“คุณนิติพันธ์ ตั้งนพรัตน์” เจ้าของร้านรุ่นที่สอง คือ ผู้สานต่อความฝันของคุณพ่อในการพัฒนาร้านหนังสือแบบดั้งเดิม มาเป็นร้านหนังสือรูปแบบใหม่ที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยด้วยประสบการณ์ของอาชีพสถาปนิก คุณนิติพันธ์ได้ออกแบบการตกแต่งร้านใหม่ ให้มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัย ภายในใช้โทนสีสว่าง สดใส และเสริมบรรยากาศด้วยร้านกาแฟ S Café – READ’S MORE by Siangthip Book Center เพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นเสียงทิพย์บุ๊คเซ็นเตอร์ เป็นร้านที่มีพื้นที่นั่งสำหรับบริการลูกค้าหลากหลายมาก ทั้งโต๊ะริมหน้าต่าง สำหรับปลดปล่อยอารมณ์ชมวิวถนนดูคนเดินผ่านไปมา ด้านในมีโต๊ะไม้ตัวใหญ่ที่ออกแบบได้อย่างเก๋ไก๋ มีปลั๊กไฟและ Wi-fi บริการพร้อม สำหรับนั่งประชุมหรือคุยงานได้สบายๆ หรือโซนที่เป็นโต๊ะสูงสำหรับนั่งทำงานแบบเงียบสงบโซนด้านหน้าของร้าน จะเป็นหนังสือทั่วไป เช่น ฮาวทู นวนิยาย การ์ตูน วรรณกรรม หนังสือขายดีต่างๆ ส่วนด้านหลัง จะเป็นโซนหนังสือเด็ก หนังสือเรียน วิชาการ คู่มือต่างๆ ที่ยังคงมีกลิ่นอายร้านหนังสือแบบดั้งเดิมให้เราได้รู้สึกอุ่นใจในบรรยากาศที่คุ้นเคยสิ่งสำคัญที่เสียงทิพย์บุ๊คเซ็นเตอร์ ครองใจฉัน และชาวเมืองพิษณุโลกได้ไม่ยาก ไม่ใช่แค่เพียงความเก๋ไก๋ของการตกแต่งร้านหรือกาแฟและเครื่องดื่มรสชาติดีเท่านั้น แต่ฉันมองเห็นหัวใจอันอบอุ่นที่แสนจะเป็นมิตรของร้านหนังสือแห่งนี้ในช่วงเช้าตรู่..เราพบคนเฒ่าคนแก่ของชุมชน ที่เดินเปิดประตูเข้ามาเพียงเพื่อจะหยิบหนังสือพิมพ์มานั่งอ่าน แม้จะไม่ซื้อไม่หากัน แต่ทางร้านก็ยินดีที่จะให้บริการลูกค้าเก่าแก่กลุ่มนี้อย่างเต็มใจยามสาย-บ่าย จะเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป กลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน ที่นิยมมาดื่มกาแฟ หรือมานั่งทำงานกัน สลับกันเดินเข้าออกเป็นระยะส่วนช่วงเย็น เป็นช่วงที่ฉันชอบที่สุด เพราะได้เห็นภาพกลุ่มเด็กนักเรียนเข้ามาใช้พื้นที่นั่งทำการบ้าน อ่านหนังสือ หรือแม้แต่มากับเพื่อนๆเพื่อนั่งเล่นพูดคุยกันก่อนกลับบ้าน โดยไม่จดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือบางครั้งก็เป็นภาพที่ผู้ปกครองพาลูกหลานมาแวะซื้อหนังสือเรียนบางคราวก็เห็นคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายที่ไปรับหลานกลับบ้าน แต่ขอมาแวะนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ก่อนสักนิด โดยปล่อยให้หลานตัวน้อยนั่งดูยูทูบไปข้างๆกันทุกคนในร้าน ไม่มีใครเคลื่อนไหวด้วยความเร่งรีบ รุ่มร้อนกลุ่มลูกค้าในร้านเสียงทิพย์ เป็นเสมือนภาพฉายช้าๆของชีวิตชุมชนที่มีร้านหนังสือเป็นศูนย์กลาง อย่างที่ฉันเคยฝันจะเห็น เคยคิดจะสร้างและทำให้มันเป็น แต่ยังไม่เคยมีโอกาสและภาพเหล่านี้..คือสิ่งที่หาได้ยากยิ่งจากร้านหนังสือแฟรนไชส์ทั่วไปในปัจจุบัน ที่เน้นขายแต่สินค้า จนลืมเลือนจิตวิญญาณของชุมชนถ้าถามว่า ครั้งหน้าที่ไปพิษณุโลก ฉันจะเริ่มต้นที่ไหนก่อน..สิ่งแรกที่ฉันจะทำ..คือ เดินออกมาจากสถานีรถไฟ ไปนั่งผ่อนคลายให้หายร้อน พร้อมจิบกาแฟดีๆที่เสียงทิพย์..และเก็บภาพดีๆให้หัวใจอุ่น ก่อนที่จะไปตะลุยเที่ยวต่ออย่างมีความสุขในวันต่อๆไป..