บอกเล่าวันนี้ แวะมาเล่าเรื่องเบาหวานกันบ้างค่ะ ก่อนหน้านี้เคยบอกเล่าในเรื่องออฟฟิศ ซินโดมกันไปแล้ว ถ้าพูดถึงเบาหวาน คงคุ้นกันดีสำหรับโรคที่หันไปทางไหนก็มีแต่คนเป็นโรคนี้กัน และดูเหมือนว่าจะไม่เลิกฮิตกันเสียที โรคเบาหวาน หรือ DM เป็นโรคในกลุ่ม NCD โรคไม่ติดต่อเรื้อรังค่ะ เป็นโรคที่คนทั่วโลกเป็นกัน และนับวันยิ่งเป็นปัญหาหลักๆ ที่เกิดจากพฤติกรรมการกิน และพฤติกรรมทางกายที่ไม่เหมาะสมค่ะ วันนี้ เลยจะหยิบยกพฤติกรรมการกินที่ส่งเสริมโรคนี้ในวัยทำงานกันค่ะ เมื่องานที่อยู่ตรงหน้าต้องรับผิดชอบ จนลืมไปว่าพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงร่วมด้วยเหล่านี้ ไม่ว่าจะดื่มน้ำน้อย อยากกินอาหารที่สดชื่น และขาดไม่ได้กับน้ำหวานวันละ 2-3 แก้ว เพื่อรีเฟรช ร่างกายให้ทำงานให้หมดวันกันไปเลย จากการสังเกตแล้ว วัยทำงานเป็นวัยที่เสี่ยงมากต่อการเกิดโรคนี้ไม่แพ้วัยเด็ก ที่ปัจจุบันมีเด็กเริ่มเป็นเบาหวานมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะสังเกตพฤติกรรมของคนที่เป็นเบาหวานได้ในเบื้องต้นคือ ปัสสาวะบ่อยขึ้น กระหายน้ำบ่อย อ่อนเพลีย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตรวจสุขภาพประจำปี และได้ยามารับประทานเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ อย่าหลงคิดว่าเบาหวานเป็นโรคของคนแก่อีกต่อไปนะคะ เพราะว่าปัจจุบันเด็กเล็กๆ รวมถึงวัยรุ่นก็เป็นกันแล้ว พฤติกรรมหลักๆ ที่ส่งเสริมให้เกิดโรคนี้ ที่สังเกตแล้วแบ่งเป็นข้อๆ ตามนี้ค่ะ 1. รับประทานอาหารที่หวานจัด ชอบทานของหวาน ขนม ติดรสหวาน ชานมไข่มุกวันละ 3 แก้วอะไรประมาณนี้ 2. ไม่ออกกกำลังกาย หรือไม่ชอบเคลื่อนที่ไปไหน ขี้เกียจนั่นเองค่ะ 3. อ้วน น้ำหนักเกิน ก็น่าจะมาจากพฤติกรรมจากข้อ 1 และ 2 ค่ะ 4. พันธุกรรมค่ะ ข้อนี้ถ้ามีคนในครอบครัวมีคนเป็นโรคนี้ก็เฝ้าระวังกันไว้ ป้องกันดีกว่ารักษาค่ะ 5. เชื้อชาติ อายุ ปัจจัยเหล่านี้เป็นเพียงปัจจัยเสี่ยงค่ะ 6. สำคัญคือ เบาหวานจะมีเพื่อซี้คือ ไขมัน และความดัน เค้าเรียกกันว่าสามสหายค่ะ ถ้าควบคุม ป้องกันได้เป็นการดีค่ะ ดังนั้นภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือเบาหวาน เราก็ควรที่จะรับประทานอาหารที่เหมาะสม ออกกำลังกาย ควบคุมปริมาณให้เหมาะสมค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะลดหวานไปเลยนะคะ เติมหวานบ้างแต่ก็ไม่มากเกินไป ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.naturebiotec.com/ สัญญาณเตือน โรคเบาหวาน ลองสำรวจตัวเองดูนะคะ อีกอย่างถึงไม่อ้วนก็เป็นได้นะคะ อ่อนเพลียง่าย ผอมลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ หิวน้ำมากกว่าปกติ เพราะปัสสาวะบ่อย ตาพร่ามัวลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ปวดขา ปวดเข่า ปวดเนื้อตัว ผิวหนังแห้ง และมีอาการคัน อาจจะคันตามตัว หรือคันบริเวณปากช่องคลอด เป็นฝีตามตัวบ่อยๆ อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย แผลหายช้า รูปภาพจาก เว็บไซต์ smeleader ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว ก็หันมาดูแลสุขภาพกันนะคะ เปลี่ยนชานมไข่มุกในมือเป็นน้ำผลไม้คั้นสด หรือน้ำเปล่าสะอาดๆ วันละ 1-2 ลิตร เปลี่ยนการให้รางวัลตัวเองจากทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์จากการกินเยอะๆ เป็นเข้าฟิตเนสเรียกเหงื่อ ชานมเดือนละแก้ว ขนมหวานๆ อร่อยๆ ชื่นใจก็เอามาแบ่งกันกินทั้งออฟฟิศ คนละชิ้นสองชิ้นแก้แม่น้ำลาย แถมเพิ่มสัมพันธมิตรในที่ทำงานได้ด้วยนะคะ "สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องมีวินัยค่ะ" ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.hc-hospital.com/