สวัสดีเช้าวันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2563 หลังหยุดยาวไปนาน ณ ตอนนี้ เรากลับมาทำงานกันครับ ซึ่งแน่นอนว่า บรรดาแฟนคลับสโมสรฟุตบอลหงส์แดง (Liverpool) หรือ The Kop คงมีความสุขชื่นมื่นกันทั่วหน้าหลังทีมรักสามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 19 มาครองได้เป็นผลสำเร็จ และรับถ้วยแชมป์ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา สิ้นสุด 30 ปี แห่งการรอคอย วันนี้ผมจะพาทุกคนไปย้อนดูก่อนและหลังเกมกันครับว่ามีอะไรให้พูดถึงเมื่อคืนที่วันนั้นผ่านมาบ้าง ผมจะพาทุกคนนั่งดูไปด้วย และถ่ายภาพไปด้วย ราวกับทุกคนเสมือนนั่งหน้าจอทีวีชมบรรยากาศไปพร้อมๆ กันเมื่อคืนวันนั้นที่ผ่านมานี้ครับ (ปล.ใจจริงอยากให้โพสต์ขึ้นเช้าวันถัดไป เพื่อให้คนที่พลาดแมตซ์คืนนั้นได้อ่านกันตอนเช้าเลยแบบเรียลๆ แต่บทความโดนแก้ไขบางส่วน ก็ไม่เป็นไร ผมจึงต้องพยายามปรับให้ทันปัจจุบันมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้) เป็นที่ทราบกันดีว่า นับตั้งแต่ Manchester City แพ้ Chelsea ไป 2-1 ตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2563 ส่งผลให้หงส์แดง ได้แชมป์ไปครอง ทั้งที่เหลือ 7 เกม นับเป็นสถิติที่เร็วที่สุดใน Premier League ด้วย แต่เมื่อคืนวันนั้นที่ผ่านมา (23 ก.ค. 63) เวลาประมาณตี 2 ก็เป็นเกมที่มีความหมาย เนื่องจากหลังจบเกมที่ 37 นี้ จะมีพิธีการมอบเหรียญและถ้วยแชมป์อย่างเป็นทางการ โดยมี Sir Kenneth Mathieson Dalglish ตำนานของ Liverpool ผู้ที่พา Liverpool เถลิงแชมป์ลีกสุดสูงไปครองคนล่าสุด เมื่อฤดูกาล 1989/90 เป็นผู้มอบรางวัล และรอต้อนรับบรรดานักเตะ รวมถึงทีมงานของ Liverpool ที่ถูกประกาศชื่อและขึ้นเวทีไปทีละคน ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น มีการแซวเล็กน้อยจากทางฝั่ง Chelsea โดยนำคลิปเหตุการณ์ที่ Gerrard ลื่น โดนผู้เล่น Chelsea ฉกไปยิงประตูได้ และเกมนั้น Liverpool พ่ายคาบ้าน 2-0 ในฤดูกาล 2013/14 หล่นจากบัลลังก์จ่าฝูงนัดที่ 36 และโดน Manchester City ปาดแชมป์ไปในท้ายที่สุด ทำให้เกิดความไม่พอใจของ The Kop ถึงขนาดที่เพจ Official Chelsea ที่เอาคลิปนี้มาแชร์ ต้องลบออกไปเช่นกัน ดังนั้นในเกมนี้ Liverpool หมายหมั้นปั้นมือจะเอาชนะให้ได้ โดยมีแรงผลักใหญ่ๆ มากมาย ซึ่งอาจจะเพราะเกมสุดท้ายในบ้านของฤดูกาล อาจจะเพราะแค้นที่โดน Chelsea ล้อเลียน หรือ อาจจะเพราะจะได้รับแชมป์หลังเกมนี้ พวกเขามีแรงกระตุ้นอย่างมาก The Kop บางส่วน มารอต้อนรับนักเตะตั้งแต่รถบัสเข้ามาเลยก็มี เกมนี้ก็เป็นอีกเกมอย่างเช่นเคย ที่มีนักเตะมายืนขนาบข้างสองฝั่ง คอยปรบมือต้อนรับการเดินเข้ามาของเหล่าแข้งทีมแชมป์ นับว่าเป็นบรรยากาศที่ดีเลยสำหรับเหล่าพลพรรค Liverpool โดยนัดนี้ Liverpool ของ Juergen Klopp จัดเต็มในระบบ 4-3-3 ตัวหลักมาเต็ม ขาดเพียงกัปตันทีมคนเก่งอย่าง Jordan Henderson เท่านั้นที่ต้องนั่งชมเพื่อนๆ จากบนอัฒจันทร์ส่วนทีมเยือนของ Frank Lampard มาในระบบ 3-4-3 เกมเริ่มมา เหมือนจะเข้าทาง Liverpool ทั้งหมด เมื่อครองเกมเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังออกนำไปก่อนถึง 3-0 ใน 43 นาทีแรก จาก Keita Arnold และ Wijnaldum แต่ก็มาโดนตีไข่แตกช่วงทดเจ็บครึ่งแรกจาก Giroud และเมื่อเริ่มครึ่งหลังมา 10 นาที ก็นำห่าง 4-1 จาก Firmino นับเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในบ้านด้วย ซึ่งทั้งหมดดูจะเข้าทางลูกทีมของ Klopp ยังไงก็น่าจะชนะไม่ยาก แต่แล้วการแก้เกมของ Lampard จัดการเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 59 พร้อมกันถึงสามตัว และสองในสาม คือ Abraham กับ Pulisic ก็มายิงคนละลูกนาทีที่ 61 และ 73 ไล่มาเป็น 4-3 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ใน Season 2020/21 Klopp จำเป็นต้องหาคนมาช่วยแบ่งเบาภาระ Van Djik จริงๆ แต่ในที่สุด ด้วยความุ่งมั่นหรืออาจจะแรงผลักใหญ่ๆ ดังกล่าว จึงฮึดกลับมายิงได้นาทีที่ 84 จาก Chamberlain นำห่าง 5-3 และจบลงด้วยสกอร์นี้ และแล้วเวลาแห่งการรับแชมป์ก็มาถึง วินาทีแห่งการรับแชมป์และถ้วยแชมป์ คนแรกที่นำทีมมา คือ กุนซือคนเก่ง ที่พา Liverpool คว้าแชมป์ลีกสุดสมัยที่ 19 และ แชมป์ Premier League สมัยแรกอย่าง Juergen Klopp และตามมาด้วยนักเตะและทีมงาน จนคนสุดท้ายคือกัปตันทีมอย่าง Henderson ท่ามกลางความปลื้มปิติของนักเตะ โค้ช สต๊าฟโค้ช และเหล่าตำนานผู้ชมที่ได้เข้ามาชมเกม แสงสีเสียงจัดเต็มเป็นอย่างมาก อาจจะขาดก็แค่บรรยากาศแฟนบอลที่เคยเต็มสนาม วันนี้อาจไม่มี ดูจากทางบ้านแทนก็ไม่เป็นไร สุดท้ายแล้วด้วยผลงานดังกล่าว ส่งผลให้ Juergen Klopp คว้ารางวัล คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้จัดการทีมลีกอาชีพ ประจำปี 2020 ไปครอง (LMA Manager of the Year 2020) ตอนนี้ พิสูจน์ได้แล้วว่า Juergen Klopp เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ และนักเตะของเขาก็เชื่อใจเขาและพร้อมที่จะกลับมาระเบิดฟอร์มเช่นเดิม นัดที่ 38 นัดสุดท้าย ไปเยือน Newcastle United ก็เหลือเพียงลุ้นทำแต้มแซงแต้มของพวกเขาในฤดูกาล 2018/19 (97 แต้ม) เพราะตอนนี้มีแล้ว 96 แต้มในมือ (และทุกท่านคงทราบกันแล้วว่า สุดท้ายก็บุกไปคว้าได้ถึง 3-1 เก็บแต้มได้รวม 99 แต้ม มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร Liverpool) เรื่องนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก ดื่มด่ำกับความสุขให้เต็มที่ และคงจะเป็นที่พูดถึงของเหล่า The Kop ทั่วทุกมุมของโลกอย่างยิ่งใหญ่ไปอีกนานแสนนาน เพราะชัยชนะนัดสุดท้ายในบ้านที่ไม่ธรรมดาไงล่ะ ปล.รูปอาจเบลอไปบ้างในบางภาพ เนื่องจากถ่ายเองกับมือทางโทรทัศน์ช่วงที่ดูถ่ายทอดสด เพื่อให้ผู้อ่านเข้าถึงบรรยาศราวกับได้ดูเอง โดยใช้กล่องมือถือถ่ายจากทีวี แต่ถ้าใครอยากดู Hilight เกมนี้เต็มๆ สามารถดูได้ทาง https://www.youtube.com/watch?v=icQDRgz_H1c นี้นะครับ ส่วนทีมงานบรรณาธิการแนะนำมาว่าใครอยากดูพิธีฉลองแชมป์ไปดูกันได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ https://www.youtube.com/watch?v=zDyXbl5PB88