ก้าวเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเป็นทางการ อากาศเย็นเเบบนี้ ทำให้นึกถึงธรรมชาติที่เเสนสดชื่นขึ้นมาเลย คนเมืองอย่างเราก็มีเเต่ ภูเขา ต้นไม้ ลำธาร ที่บำบัดใจให้เราคลายหายเหนื่อยได้ "เออว่าเเต่ว่าที่ไหนดีละ" ว่าเเล้วลองเสิร์ชหาสิ!!! จะพอมีที่ไหนบ้าง เเล้วก็มาพบกับสถานที่ที่ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งเเรกของที่นี่เลยกับระยะทางกว่า 10 ชั่วโมง ที่ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลกในเช้ามืดอีกวัน เเละเช้านี้ไม่รอช้าที่จะรีบตั้งกล้องเพื่อรอชมหมอกที่เคลื่อนผ่านภูเขาที่อยู่เบื้องหน้าฉัน ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากจากในเมืองมาก เป็นช่วงเวลาคุ้มค่าสำหรับการรอคอยจริงๆ ^^ หลังเมฆหมอกค่อยๆจาง ฉันก็ยังเดินเก็บภาพโดยรอบไปเรื่อยๆ เดินถ่ายภาพได้สักพัก ฉันก็เดินกลับบ้านพักที่อยู่ไม่ไกลนัก จึงหยุดนั่งพักที่โต๊ะม้าหินหน้าบ้านพร้อมเครื่องดื่มร้อนๆ จิบพรางมองวิวทิวทัศน์ไปด้วย ได้บรรยากาศดีมากเลย ระหว่างนั่งเพลินๆอยู่ได้ครึ่งวัน ก็มีคำชักชวนจากชาวบ้านในหมู่บ้าน ชวนพี่ๆเเละทุกคนออกไปเที่ยวด้านหลังเขาของหมู่บ้าน "เดี๋ยวจะพาเราทุกคนไปชมเทือกเขาเอเวอร์เรสต์ ที่เเรกของเมืองไทย นับว่าเป็นเเลนด์มาร์คของหมู่บ้านเราเลยก็ว่าได้ " ฉันนี่รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเลยรีบตอบตกลงทันที เเละกระโดดขึ้นรถอย่างไว เมื่อสมาชิกทุกคนพร้อมกันเเล้ว ก็ออกเดินทางกันเลย !!! ซึ่งจากหมู่บ้านมาถึงจุดที่เข้าชมเทือกเขานั้น ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้เเละภูเขาล้อมรอบ มาถึงจุดนี้ก่อนถึงจุดเข้าชมเทือกเขา เราก็มาเจอกับเเคมป์หมาป่าใจดี ที่เป็นบ้านพักที่มีไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเเละผู้ที่สนใจ เข้ามาเที่ยวชมทะเลดาวยามค่ำคืน ซึ่งชาวบ้านเเถวนี้การันตรีว่าทะเลดาวที่นี่สวยจริงๆ ไว้มีโอกาสสักครั้ง ฉันจะไม่พลาดมาเก็บภาพที่นี่เลย จากเเคมป์หมาป่าใจดี ขับรถเข้ามาอีกประมาประมาณ 500 เมตร ก็เริ่มใกล้กับเทือกเขาที่พวกเราทุกคนตั้งใจรอกันเเล้ว เเละเเล้วก็มาถึง "เทือกเขาเอเวอร์เรสต์ " มองจากด้านนี้ใกล้ๆเลย หู้วว..สวยมากจริงๆ พักจอดรถให้ถ่ายภาพในสวนไร่ข้าวโพด ส่วนที่นี่คือจุดชมธรรมชาติอีกเเห่งหนึ่ง พื้นที่ไร่สวนข้าวโพดเเละพืชเกษตรกรอื่นๆอีกมากมายของชาวบ้าน พื้นที่เเถบนี้จึงเป็นเเหล่งอาหารให้กับคนในหมู่บ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากเที่ยวชมธรรมชาติ ได้สัก 4-5 ชั่วโมง ก็ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกลับกันเเล้ว เพราะในช่วงเย็นนี้ได้ยินมาว่า จะมีค้างคาวน้อยออกจากถ้ำ ที่ชาวบ้านเรียกอีกชื่อว่า "อิเกีย " เป็นจุดที่พวกเรา เเละนักท่องเที่ยวต่างสนใจรอรับชม เเละก็มาถึงหมู่บ้านได้ทันเวลา เราทุกคนต่างเเหงนขึ้นมองฟ้าดูฝูงค้างคาวนับเเสนตัว ซึ่งค้างคาวที่นี่ได้ชื่อว่าตัวเล็กที่สุดในโลก เวลานี้ที่เราเห็นนอกออกมาจากถ้ำก็เป็นเวลาที่น้องค้างคาวฝูงนี้ออกหากิน เเละถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม เค้าก็จะทยอยกันกลับถ้ำวันนี้ วันนี้นับเป็นวันที่คุ้มค่ามากที่สุดเต็มอิ่มกับธรรมชาติ ได้รับความน่ารัก ความมีน้ำใจของชาวบ้าน หลังจากที่ได้ร่วมเดินทางด้วยกันมาทั้งวัน จนมาถึงเวลานี้ที่เราต้องโบกมือลาธรรมชาติกันเเล้ว กลับไปสู่เมืองหลวงเช่นเดิม เเต่ความประทับใจในครั้งนี้จะหาโอกาสกับมาอีกเเน่นอน สวัสดีคะ ไอเปี๊ยกก..อินดี้