การท่องไปคนเดียวใน "พิษณุโลก" ของผม ประกอบด้วยสองช่วงสองเวลา คือ ระหว่างการเดินทางจากลพบุรีไปยังสุโขทัย และระหว่างการเดินทางกลับจากสุโขทัยมายังพิษณุโลก ซึ่งช่วงเวลาแรกนั้นนับเป็นเวลาอันสั้นในเช้ามืด การได้นอนบนเก้าอี้ริมทางรถไฟพิษณุโลกเป็นระยะเวลากว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะโดยสารรถสามล้อถีบไปยังสถานีขนส่งพิษณุโลกเพื่อขึ้นรถเมล์สายพิษณุโลก - สุโขทัยนั้นเป็นความท้าทายใหม่ของชีวิตที่แทบหาไม่ได้จากจากไหน ส่วนช่วงที่สอง ผมเดินทางกลับจากสุโขทัยในตอนเช้า ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงพิษณุโลก ซึ่งยังมีเวลาอีกนานกว่ารถไฟฟรีจากเชียงใหม่-กรุงเทพ ฯ จะแล่นมาถึงสถานีรถไฟพิษณุโลก จึงเหมาะแก่การใช้เวลาว่างเดินเท้าท่องไปคนเดียวในพิษณุโลก โดยสถานที่แรกซึ่งผมเลือกเดินทางไป คือ วัดจันทร์ตะวันออก ที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระสุพรรณกัลยา และหากเดินข้ามแม่น้ำน่านโดยผ่านสะพานสุพรรณกัลยาก็จะพบกับวัดจันทร์ตะวันตก ซึ่งวัดทั้งสองแห่งนี้เคยใช้เป็นที่ตั้งทัพของพม่าเมื่อครั้งยกทัพเข้ามาประชิดเมืองพิษณุโลกในสมัยอยุธยา (หรือแม้กระทั่งสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น) จากนั้นเดินเลียบริมฝั่งแม่น้ำน่านไปตามทางของถนนวังจันทน์เป็นระยะทางกว่า 3.5 กิโลเมตร ก็จะพบกับศาลหลักเมืองพิษณุโลก และหากเดินต่อไปอีก 500 เมตร จะพบวัดร้าง ได้แก่ วัดวิหารทอง และวัดศรีสุคต ก่อนจะเข้าสู่เขตพื้นที่ของพระราชวังจันทน์ ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) แห่งสุโขทัย ต่อมาในสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงย้ายราชธานีมาอยู่ที่เมืองพิษณุโลก จนกระทั่งหลังสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็ไม่ปรากฏว่ากษัตริย์พระองค์ใดทรงเสด็จมาประทับอีกเลย เมื่อเดินชมในพระราชวังจันทน์เสร็จแล้ว จำต้องเดินย้อนกลับทางเดิม เพื่อมุ่งหน้าไปสู่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ แม้จะมองเห็นวัดจากริมฝั่งแม่น้ำน่านที่ผมยืนอย่างชัดเจน แต่จะให้ว่ายน้ำหรือกระโดดข้ามไปคงไม่ใช่เรื่องง่าย วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์ใหญ่ ภายในพระวิหารหลวงที่มีความประณีตทางด้านสถาปัตยกรรมและจิตรกรรม ตลอดจนมีพระปรางค์องค์ใหญ่ ล้อมรอบด้วยวิหารคด และพระอัฏฐารส ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ สูงประมาณ 10 เมตร ประดิษฐานอยู่ทางด้านทิศตะวันออก จากนั้นเดินออกมายังวัดนางพญา ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องพระเครื่อง “พระนางพญา” ข้ามถนนสิงหวัฒน์ลงมาทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็จะพบวัดราชบูรณะ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานเจดีย์หลวง รูปทรงแปดเหลี่ยมเรียงซ้อนขึ้นไปถึง 12 ชั้น ก่อนจะปรากฏเจดีย์ทรงลังกาอยู่บนลานประทักษิณ ถัดมาไม่ใกล้ไม่ไกลเป็นที่ตั้งของอุโบสถอันงดงามด้วยเสากลม พระพุทธรูปประธาน ปางมารวิชัย และภาพจิตรกรรมฝาผนัง นับว่าเป็นวัดที่มีความน่าสนใจทางด้านศิลปกรรมเป็นอย่างยิ่ง และแล้วก็ได้เวลาเดินเลียบริมฝั่งแม่น้ำน่านกลับไปรอรถไฟฟรี ณ สถานีรถไฟพิษณุโลก ด้วยระยะทางกว่า 1.5 กิโลเมตร พร้อมความสุข และประสบการณ์ เพื่อ Go to กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยามหาดิลก ภพนพรัตน์ ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์ มหาสถาน อมรพิมาน อวตารสถิต สักกะทัตติยะ วิษณุกรรมประสิทธิ์ ในลำดับต่อไป #ขอเป้หนึ่งใบสะพายไปในพิษณุโลก