อย่าเสียงดังไป เราจะพาไปบุกเขานางยักษ์ UNSEEN ในชะอำ-เพชรบุรี ตามหากระจกนางยักษ์ บ่อชุบตัวพระสังข์ ชมวิวทะเลชะอำที่คอกช้าง และชมความงามของทุ่งเศรษฐี กันเวลาขับรถมาถึงทางแยกเข้าชะอำ เราจะพบเขานางยักษ์นอนอยู่ รู้สึกตื่นตาตื่นใจทุกครั้ง และมองนางจนลับสายตาเลย เหมือนนางยักษ์จริง ๆบอกได้อย่างไม่อายเลยล่ะ จำมาโดยตลอดว่าพระอภัยมณีเป่าปี่ จนนางยักษ์อกแตกตายกลายเป็นภูเขา ก็คิดว่าเขาลูกนี้ล่ะมาถึงบางอ้อ ว่าเขานี้ชื่อ เขานางพันธุรัต นางพันธุรัต นี่อยู่ในเรื่องสังข์ทองนะ ไม่ใช่พระอภัยมณี เออ .. เรียนมางง จริง ๆ เพื่อนยังถามต่อว่าเรื่องนี้นางสิบสองใช่ไหม ไม่ใช่นะ สังข์ทองคู่กับนางรจนา ต่างหาก เออ..เรียนวรรณคดีจน งง ล่ะให้เครดิตนางพันธุรัตหน่อย นางอยู่ในเรื่องสังข์ทอง และนางเป็นยักษ์ที่ดี เก็บสังข์ทองมาเลี้ยงเป็นลูก นางก็จะแปลงร่างเป็นสาวสวย เวลาจะแปลงร่างนางต้องมาส่องกระจกก่อน เช็คความเรียบร้อยไม่มีคราบความเป็นยักษ์นะ วันหนึ่งพระสังข์รู้ว่าเป็นนางยักษ์ เลยแอบไปในเขตหวงห้าม ลงไปชุบตัวในบ่อทอง แอบเอาชุดเจ้าเงาะและหนีไปนางพันธุรัตกลับมาไม่พบ เลยออกตามหา และอ้อนวอนให้พระสังข์กลับแต่ไม่ได้ผล นางพันธุรัตเสียใจมาก จนอกแตกตาย พระสังข์ก็จัดทำศพ ร่างของนางก็กลายเป็นภูเขามาจนถึงทุกวันนี้ (เรื่องสังข์ทองเป็นบทพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศล้านภาลัย รัชกาลที่2)วนอุทยานเขานางพันธุรัต อยู่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นเขาที่มีรูปร่างคล้ายผู้หญิงนอน เป็นแหล่งท่องเที่ยว เขาปรับปรุงดูแลสวนเรียบร้อยสะอาดตาเลย ช่วงหน้าหนาวเขาจะมีกิจกรรมกางเต็นท์ เดินเขาดูนก กันด้วยนะ ลองเข้าไปติดตามในเว็บของอุทยานดูนะ ช่วงไม่มีกิจกรรมเราก็เข้าไปเดินชมเขาได้ตามสะดวก เข้าไปก็จะมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อน (ในช่วง Covid ระบาด) และนับจำนวนคนเข้า ไม่เสียค่าเข้าจ้า เข้าไปมีที่จอดรถ และห้องน้ำสะดวกมาก มีมุมร้านกาแฟ และอาหารเบา ๆก่อนเดินขึ้นเขาก็ถ่ายรูปแผนที่ไว้หน่อย เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่พาขึ้น พกขวดน้ำขึ้นไปขวดหนึ่งนะ ช่วยกันนะ...ขวดเปล่านำกลับลงมาทิ้งข้างล่างนะจ๊ะ พกไม้เท้าไปด้วยก็ดีนะ ถ้าไม่มีหาได้ตามกิ่งไม้หัก ๆ ข้างทางได้ ช่วงเพิ่งหมดฝนไป ยุงจะชุมเอาสเปรย์กันยุงไปด้วยนะการเดินชม มีทั้งหมด 2 ช่วงช่วงแรก ใช้เวลาเดินประมาณ 20-30 นาที ก็ครบ เป็นการเดินขึ้นบันได บันไดดีแข็งแรง สะดวก ระยะทางประมาณ 80 เมตร มีจุดนั่งพักระหว่างทาง เด็ก ๆ ขึ้นได้ ให้ระวังระเบียง ช่องค่อนข้างกว้างจุดที่ 1 ไปชมศาลนางพันธุรัต จุดที่ 2 เมรุนางพันธุรัต - ถ่ายไม่ค่อยเห็น เพราะต้นไม้ขึ้นเยอะ บังเขาหินอีกด้านค่ะจุดที่ 3 กระจกนางพันธุรัต ขึ้นมาถึงตรงนี้ก็สวย ชื่นใจช่วงที่สอง สำหรับคนที่มีเวลามากกว่า 3 ชั่วโมง และมีร่างกายแข็งแรงหน่อย เพราะเดินไปบันไดเริ่มหาย และกลายเป็นทางหินธรรมชาติจุดที่ 4 บ่อชุบตัวพระสังข์ (มาทราบจากเจ้าหน้าที่ตอนลงมาแล้วว่า บ่อนี้เป็นบ่อจำลอง บ่อจริงอยู่ข้างบนลึกเข้าไปอีก แต่ไม่ได้เลี้ยวไป)ไปต่อนะคะ ทางเริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ก็มีก้อนหินวางเป็นแนวให้ เราก็เดินตามทางไป เรื่อย ๆ ช้า ๆ ไม่ต้องรีบ มีหอบเหมือนกัน ก็หยุดพักถ่ายรูปกันไป บางคนมาถึงจุดนี้ก็เลี้ยวกลับแล้วค่ะ อ้อ มีลิงบ้างเล็กน้อย อย่าถืออาหาร ของกิน ให้เขาเห็นนะ ขวดน้ำใส่กระเป๋าไว้ ลิงจะเข้ามาแย่ง ถ้าแย่งจริงก็ให้เขาไป จุดที่ 5 เป็นลานเกือกแก้ว เขาว่าลานนี้เหมือนรองเท้าของผู้หญิง ช่วงนี้เพิ่งหมดฝนไป ต้นไม้ขึ้นรก เลยไม่ค่อยเห็นเป็นลานรองเท้าเท่าไรนักยิ่งเดินขึ้นสูงทางก็เป็นหินขรุขระ เห็นป้ายบ่อชุบตัวพระสังข์อีก แต่ไม่ได้ไปทางนี้ ทางนี้ทางค่อนข้างไปยากหน่อยแล้วต้องเดินไปอีก 3 กิโล เลยเลี้ยวไปทางคอกช้างคะจุดที่ 6 ชมวิว คอกช้าง ทางขึ้นต้องมีปีนกันบ้าง ไม่ได้ลำบากเกินไปไปกันต่อ ทางเดินบางช่วงจะเป็นหินแหลมบ้าง พื้นไม่เรียบ ใส่รองเท้าที่เหมาะสมกันนะจะได้ไม่บาดเจ็บจุดที่ 7 ทุ่งเศรษฐี เห็นระเบียงชมวิวอยู่ลิบ ๆ ดีใจ ต้องปีนป่ายกันหน่อยค่ะ ระมัดระวังกันนะครบแล้วค่ะ ส่วนถ้ำมะยมก็หาอยู่ค่ะ ไม่เจอ เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้ำมันปิดไปแล้ว เพราะค้างคาวเยอะมาก เหม็นขี้ค้างคาวมาก ตอนเดินกลับก็ชื่นชมกับธรรมชาติไป มีเดินขึ้น เดินขึ้นลงสลับกันไป เหนื่อยก็พักดื่มน้ำ ลงมาถึงก็ชื่นใจแล้ว ลมหนาวมา คงจะได้กลับไปเยี่ยมนางยักษ์อีก วันลาเหลือใช่ไหมหรืออยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !