อาหารทะเล เป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบ เพราะมีรสชาติความอร่อยที่แตกต่างไปจากเนื้อหมู เนื้อไก่ และมีกลิ่นหอมเฉพาะในตนเอง ซึ่งอาหารทะเลปราศจากไขมันจำนวนมาก อีกทั้งยังได้รับความนิยมในการนำมาปรุงอาหารในเมนูที่หลากหลาย รวมถึงการจัดอาหารในงานสำคัญก็เลือกใช้อาหารทะเลในการปรุงรส ที่เป็นแบบนั้นเพราะสีสันอันสวยงาม และลักษณะที่แตกต่างกันออกไปของอาหารทะเลแต่ละชนิด และหากพูดถึงอาหารทะเลทุกคนต้องนึกถึง กุ้ง ปลาหมึก ปลา หอย ปู กั้ง เนื่องจากเป็นอาหารทะเลพื้นฐานในหลาย ๆ พื้นที่ แต่วันนี้ผู้เขียนจะพาทุกคนไปฟินกับอาหารทะเลที่มีรสชาติอร่อย เคี้ยวหนึบ รับประทานแบบเพลิน ๆ นั่นคือ แมงดาทะเล แมงดาทะเล เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง มีรูปร่างคล้ายชาม หรือจานแบบวางคว่ำลง มีหางแหลมยาวในส่วนท้ายของตัวซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการขุดตัวฝังดินในทะเล ซึ่งแมงดาตัวผู้จะเกาะอยู่บนหลังแมงดาตัวเมียเสมอ โดยมีตัวเมียเป็นผู้วางไข่ และตัวผู้เป็นผู้ปล่อยน้ำเชื้อแล้วใช้ดินกลบจนฝักไข่ได้ครบเวลา 14 วัน โดยแมงดาทะเลแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะตามรูปร่าง คือ แมงดาถ้วย (มีขนาดเล็กคล้ายถ้วย และมีไข่เม็ดเล็ก แต่แน่นทั้งตัว) กับแมงดาจาน (มีขนาดใหญ่คล้ายจาน และมีไข่เม็ดใหญ่ตามตัว) แต่ความอร่อยยังคงโดดเด่นทุกครั้งที่ได้รับประทาน วันนี้ผู้เขียนนำเมนูอาหารที่มีแมงดาทะเลเป็นวัตถุดิบหลักมาแบ่งปันทุกคน เป็นเมนูรับประทานเพลินยามบ่าย หรือจะรับประทานในมื้อเย็นบรรยากาศริมทะเลก็ฟินไปอีกแบบ ซึ่งแมงดาทะเลสามารถรับประทานได้ 3 ส่วน คือ ไข่แมงดา เนื้อแมงดา และส่วนขาแมงดา ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มีความอร่อยแตกต่างกันออกไป แต่เมื่อรับประทานแล้วจะได้รับทั้งความมันจากไข่แมงดา ความหวานจากเนื้อแมงดา และความกลมกล่อมจากขาแมงดา โดยเมนูที่เรียกความอร่อยอย่างลงตัวนี้ผู้เขียนขอนำเสนอเมนู ยำไข่แมงดา เมนูนี้ผู้เขียนปรุงรสเอง และลงมือแบ่งสัดส่วนแมงดาเองเลยนะคะ ซึ่งเคล็ดลับในการทำแมงดาอยู่ที่การนำจุดสำคัญออกจากตัวแมงดา เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการมึนเมาได้ จุดนั้นคือ ขี้แมงดา (อยู่ด้านในระหว่างช่องว่างในตัว เป็นแท่งยาว ๆ สีเขียว หาง่ายค่ะ) ซึ่งต้องตัดออก แล้วจึงนำช้อนตักไข่ออกมา ตามด้วยนำไกรกรรตัดส่วนออกมาแบ่งเป็นชิ้น ๆ ส่วนเนื้อแมงดามีไม่มาก อยู่ในช่องที่นำขี้ออกมานั่นแหละค่ะ สามารถรับประทานได้ รสชาติหวาน อร่อย เมื่อได้แมงดาครบทุกส่วนแล้ว ไปยำกันเลย วิธีการยำไม่ยาก แต่ต้องได้รสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานนิด ๆ กำลังน่ารับประทาน ผักที่นำมาใส่ต้องเลือกใช้ผักที่ดับความคาว และเพิ่มความหอมให้กับยำนะคะ ผู้เขียนเลือกใช้ผักชีล้อม แครอท หัวหอมแดง พริกสด โรยหน้าด้วยมะม่วงเปรี้ยวไม่มาก จากนั้นก็ยำได้เลือกค่ะ รสชาติยำเลือกได้ตามความชอบเลย แต่เผ็ด ๆ หน่อยจะอร่อยมาก ๆ เมื่อน้ำยำได้ที่ใส่ขา และเนื้อแมงดาลงไปก่อนเพื่อให้รสน้ำยำเข้าไปในเนื้อ จากนั้นจึงใส่ไข่แมงดาตามลงไป ยำอีกนิดหน่อยก็ตักใส่จานพร้อมรับประทาน แมงดาทะเลให้ทั้งความอร่อย และประโยชน์ดีดีต่อร่างกาย ซึ่งเลือดของแมงดาทะเลนำมาสกัดเป็นยาในการต้านเชื้อแบคทีเรียได้ และมีโปรตีนที่สำคัญในการตรวจสอบการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียในการผลิตสารเคมีในทางการแพทย์ ซึ่งการรับประทานไข่แมงดาสาว ๆ ทุกคนไม่ต้องกลัวอ้วนนะคะ อีกทั้งยังได้ลิ้มรสความอร่อยของอาหารทะเลที่หารับประทานยาก เคี้ยวหนึบ เคี้ยวเพลินของไข่แมงดาทะเลเท่านั้น ซึ่งจังหวัดเพชรบุรีมีการพบแมงดาทะเลจำนวนมากทั้งชาวประมง และคนหาหอยในทะเล ฉะนั้นถ้าทุกคนต้องการรับประทานเชิญชวนมาจังหวัดเพชรบุรีได้เลย แต่ในจังหวัดอื่น ๆ ทางภาคใต้ก็ยังพบว่ามีแมงดาทะเลอยู่ ซึ่งหากเลือกรับประทานต้องระวังความปลอดภัยด้วยนะคะทุกคน อาจจะเจอแมงดาไฟที่ไม่สามารถรับประทานได้ (ตัวสีน้ำตาลแดง) ด้วยความหวังดีในสุขภาพ และความอร่อยในมื้ออาหารจากผู้เขียน เครดิตภาพถ่ายทั้งหมด โดยผู้เขียน Facebook : OOEUY