สถานที่ถ่ายพลุ (โลเคชั่น) ผมพึ่งมาถ่ายภาพพลุที่ เขาวัง เป็นครั้งแรก ด้วยจะต้องเดินทางไปถ่ายงานวิ่ง บีกินนี่ ที่ชะอำ ออกเดินทาง วันที่ 13 มี.ค.63 จาก กทม. เพื่อไปชะอำ พอรู้ว่ามีงานพลุที่เขาวัง ก็เลยแวะเขาวัง จ.เพชรบุรี ก่อน จังหวะพอดีเลยครับ เมื่อตัดสินใจที่จะถ่ายพลุ สิ่งแรกที่ควรหาก็คือ สถานที่ถ่ายพลุ ควรเป็นที่ไหน โทรถามน้องๆๆที่สนิทกัน แนะนำว่าควรไปถ่ายที่ ศาลเจ้าแม่กวนอิม วัดวิหารโบสถ์ (https://goo.gl/maps/yoLKEifMV5kxAZmT6) ระยะห่างจากเขาวังประมาณ 5 กม. เมื่อเดินทางถึงศาลเจ้าแม่กวนอิม ประมาณ 17.00 น. พอไปถึงรู้สึกวังเวง เพราะยังไม่มีช่างภาพมาเลย และต้องเดินขึ้นบันไดเพื่อขึ้นเขาไปอีก บวกกับความวังเวง อิอิ เกิดอาการหวั่นๆๆ เพราะผมมีคนเดียว ที่ไปถึงก่อน แต่หากท่านใด ไปเป็นกลุ่มหลายคน ก็จะดีนะครับ เพราะจะได้มีเพื่อน ส่วนตัวผมนึกวังเวง ทั้งแอบกลัว จึงตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่ใหม่เป็น วัดบันไดอิฐ (https://goo.gl/maps/qXBsYTW9JxFFGPNA8) ระยะทางห่างจากเขาวังแค่ 2 กม. ใกล้ว่าหลายกิโลเมตร นับว่าไม่พลาดที่เปลี่ยนสถานที่ตอนขับขึ้นเจอน้องผู้หญิง ขับมอเตอร์ไซค์ตามหลังผมมา ผมจึงชะลอรถ แล้วถามน้องว่าจุดถ่ายภาพพลุตรงไหนดี โชคดี น้องสาวคนนี้ กำลังจะไปถ่ายพลุ พอดี ทำให้ได้มุมภาพ ที่ดี โดยไม่ต้องเสียเวลามาก จอดรถข้างทาง ตรงไหล่เขาได้พอดีและมีน้องผู้ชาย จอดรถอยู่ก่อน ก็เลยจอดตามน้องเขา ทำให้มีเพื่อนร่วมถ่ายภาพด้วย ได้มุมกล้องก็ค่อนข้างดี และใกล้มาก ห่างจากเขาวังแค่ 2 กม.เท่านั้น ท่านใดที่ต้องการถ่ายภาพพลุ เวลาและสถานที่สำคัญมากๆ ควรมาถึงให้เร็ว ก่อนมืด เพื่อหามุมกล้อง เผื่อคนมาเยอะ จะได้ไม่ต้องแย่งมุมกับคนอื่นขาตั้งกล้อง เมื่อได้มุมกล้องแล้ว สิ่งสำคัญของการถ่ายพลุนั้น ก็คือ ขาตั้งกล้อง ภาพพลุ ที่เราต้องการถ่ายนั้น จะต้องตั้งขาตั้งกล้อง เพื่อให้ได้มุมกล้องที่ได้ระดับไม่เอียงและไม่สั่น เพราะหากเราถึอกล้องด้วยมือนอกจากจะทำให้ภาพเอียงแล้ว ยังทำให้ภาพเบลอ เพราะต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำมากๆ จึงจำเป็นต้องเตรียมขาตั้งกล้อง และขาตั้งกล้องควรเป็นขาที่มีความแข็งแรง ไม่เบาบางมากเกิน พอเวลาตั้งกล้อง ด้วยน้ำหนักกล้องและลมที่พัด จะทำให้ขาตั้งกล้องสั่น ซึ่งจะทำให้ภาพเบลอเช่นกัน ฉะนั้น การซื้อขาตั้งกล้อง ก็ควรเลือกขาที่มีความแข็งแรง และเหมาะสำหรับรุ่นกล้อง และเลนส์ทื่จะเลือกใช้ ยิ่งถ้าสถานที่ๆเราจะตั้งกล้องห่างจากสถานที่ๆเราจะถ่าย ก็ต้องใช้เลนส์ ที่มีช่วงเลนส์ ซูมเทเล เช่น 70-200 มม. เป็นต้น ภาพที่ใช้ขาตั้งกล้องจะทำให้ภาพไม่เอียง และได้ภาพคมชัด ดังภาพข้างบน ช่วงเลนส์ที่เลือกใช้ การเลือกช่วงเลนส์ก็มีความสำคัญมาก หากเราไม่เคยไปถ่ายสถานที่นั้นเลย ทำให้ไม่รู้ว่าจะต้องเอาเลนส์ช่วงไหนไปถ่ายดี แนะนำให้เอาเลนส์ไปทุกช่วงที่เรามี หากไม่มีปัญหาเรื่องการขน ส่วนตัวของผม เอาเลนส์ไปทุกช่วงเลย ผมเลือกใช้เลนส์ 2 ตัว ตัวแรกจะเป็นเลนส์ นิคอนนาโน 24-70 มม เป็นเลนส์มุมกว้าง ถ่ายที่ ช่วง 24 มม.ทำให้ถ่ายภาพได้กว้างๆ ตัวอย่างภาพที่ใช้เลนส์มุมกว้าง ผมอยู่ห่างจากเขาวัง 2 กม. จุดถ่ายไม่เปลี่ยน ตั้งขาตั้งที่เดิมตลอดภาพมุมกว้าง ใช้เลนส์ 24-70 มม.ซูมที่ 24 มม. เลนส์ตัวที่สอง เป็นเลนส์ 60-600 มม. ของ Sigma ถ่ายที่ช่วง 500 มม. เป็นเลนส์มุมแคบ จุดตั้งขาตั้งกล้องที่เดิม เพียงแต่เปลี่ยนช่วงเลนส์ เราจะสังเกตุว่าภาพจะเข้ามาใกล้มาก และมุมภาพจะแคบลงทำให้ได้ภาพที่ใกล้เราเข้ามาอีก ภาพมุมกว้าง ใช้เลนส์ 60-600 มม.ซูมที่ 500 มม. ปรับกล้องและเลนส์เป็นโหมด Manual การปรับกล้องและเลนส์ ควรเป็นกล้องที่สามารถปรับแบบแมนนวลได้ หรือปรับด้วยตัวเราเอง เพื่อเราจะได้ควบคุมกล้องและเลนส์ได้ตัวเลนส์ ควรปรับโฟกัสไปที่โหมดแมนนวล เวลาเราจะโฟกัสให้เราหาจุดที่มีจุดตัดและมีความสว่างพอที่จะโฟกัสได้เช่น ตัววัด ผมใช้วัดเป็นที่วัดโฟกัส ปรับโฟกัสไปที่แมนนวล และหมุนโฟกัสด้วยมือที่ตัวเลนส์ ในตัวกล้องเวลาเรามองในช่องมองจะมี สัญญาลักษณ์เป็นวงกลม ให้เราหมุนวงแหวนปรับโฟกัสจนกระทั่งเห็นวงกลมในกล้องโชว์ ซึ่งจะเป็นจุดวงกลมเล็กๆ อยู่ตามแนวขอบช่องมอง ให้ลองสังเกตุ เพราะกล้องแต่ล่ะยี่ห้อ ตำแหน่งวงกลมอยู่ไม่เหมือนกัน เมื่อเราหมุนวงแหวนโฟกัสเป็นวงกลมแล้ว (สำหรับท่านใดไม่มีปัญหาด้านสายตาสั้น หรือยาว ก็อาจใช้การมองภาพว่าชัดหรือไม่ แต่ไม่ค่อยแนะนำ หากมีปัญาหาสายตา อาจทำให้ภาพมัวได้) รูปรับแสงเราจะเปิดที่ 8-13 ดูตามสภาพแสงพลุ แต่ขั้นต่ำต้องเปิด รูรับแสง 8 ห้ามเปิดรูรับแสงกว้าง เพราะจะทำให้ ความคมชัดไม่ทั่วทั้งภาพ คือ ชัดตื้น ภาพพลุ ควรถ่ายภาพให้ชัดลึก หรือความคมภาพ จะชัดทั้งหมด วัตถุ พื้นหลังและฉากหน้า ควรชัดทั้งหมด ตัวกล้อง ควรตั้งแบบแมนนวล และปรับ ISO100 ป้องการเกิด noise การปรับความเร็วชัตเตอร์ ควรปรับแบบแมนนวล การถ่ายภาพพลุ จะต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำมากๆ เพื่อเก็บภาพพลุให้เป็นแนวเส้น เราจึงจำเป็นต้องปรับกล้องแบบความเร็วชัตเตอร์แบบแมนนวล เราควรปรับความเร็วชัตเตอร์ไปที่ B สิ่งจำเป็นที่ควรมีคือ สายลั่นชัตเตอร์ จะใช้ในเวลากดชัตเตอร์ ระยะเวลาในการกดชัตเตอร์ ขึ้นอยู่ว่าพลุสว่างมากหรือน้อย ต้องดูภาพจากการถ่าย ณ ตอนนั้น เวลาโดยประมาณ 1-10 วินาที อยู่ที่ความสว่างของพลุในขณะถ่าย ให้ดูและปรับเลยตามสภาพแสงตอนนั้นครับสรุป ปรับกล้องไปที่ชัตเตอร์ B พร้อมใส่สายลั่นชัตเตอร์ด้วย และที่ตัวเลนส์ ให้ปรับรูรับแสง ไปที่ 8-13 (ลองทดลองถ่ายดู) ให้กดชัตเตอร์ ตรงสายลั่นชัตเตอร์ เริ่มกด ตอนเสียงพลุเริ่มดัง หรือมองดูจุดที่พลุเริ่มจุดให้กดสายลั่นชัตเตอร์เลย และเลิกกดชัตเตอร์ ตอนพลุเริ่มดับ จะได้เก็บภาพพลุ ได้เป็นสายยาว หางไม่ขาด จะดูสวย พลุลูกแรก ช่างภาพควรสังเกตุว่า จุดที่จุดพลุ อยู่ตรงไหน ความสูงของพลุเมื่อจุด ความสว่างของพลุ ควัน และอื่นๆ เพื่อเราจะได้ปรับแก้ไขในลูกที่สอง สำคัญ มากในช่วงลูกที่สอง ควรจับภาพให้ได้ทัน สวยที่สุด เพราะหากเป็นพลุลูกหลังๆ จะเจอปัญหา ควันสะสม ทำให้มีควันมาก ถ่ายแล้วไม่ค่อยสวยภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ nikon nano 24-70 มม. f 2.8 ใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ 4.8 วินาที, รูรับแสงที่ 13, iso 100 ซูมที่ 24 มม. หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ กับทุกท่านที่ต้องการจะถ่ายภาพพลุ นะครับ ขอให้ทุกคนสนุกกับการถ่ายภาพครับ