ร้อนร้อนแบบนี้ถ้าให้ผู้อ่านนึกถึงอาหารคลายร้อนคุณจะนึกถึงอาหารอะไรเป็นอันดับต้นต้นคะ ใช่แล้วค่ะ"ข้าวแช่"ถ้าจะหม่ำข้าวแช่เราก็ต้องนึกถึงจังหวัดเพชรบุรี ร้านที่ผู้เขียนถ้าไปเยือนเมืองเพชรต้องแวะไปชื่อร้าน"ข้าวแช่ป้าแอ๊ด"อยู่หน้าร้านอาทิตย์คัลเล่อร์แล๊ป ข้าวแช่ดั้งเดิมเป็นอาหารของชาวมอญเรียกว่า"เปิงด๊าดจ์"เปิงหมายถึงข้าวด๊าดจ์หมายถึงน้ำเปิงด๊าดจ์ก็คือข้าวน้ำนั่นเองนิยมทำขึ้นในช่วงสงกรานต์เป็นเครื่องเซ่นไหว้ต่อเทพเจ้าและนำไปไหว้ผู้แก่ผู้เฒ่าที่เคารพนับถือเครื่องหรือกับข้าวแช่มีข้าวขัดแช่น้ำลอยดอกมะลิ ลูกกะปิ พริกหยวก ปลายี่สกหวาน เนื้อเค็มฝอย ไชโป๊วหวานวิธีการกินห้ามนำกับข้าวลงไปแช่ในน้ำข้าวแช่นะคะจะทำให้เสียรสชาติของกับข้าวและจะทำลายกลิ่นหอมของน้ำลอยดอกมะลิซะเปล่าเปล่าตักกับข้าวเริ่มจากลูกกะปิเข้าไปก่อนแล้วค่อยตักข้าวเข้าไปตามโอ้ยชื่นใจอย่างบอกไม่ถูกเชียวค่ะ ร้านข้าวแช่ป้าแอ๊ดมีกับข้าวอยู่สามอย่างมีลูกกะปิ ปลาหวาน ไชโป๊วหวานปลาหวานของป้าแอ๊ดไม่เละและไม่หวานจนเกินไปเวลาเสิร์ฟจะจับเป็นแผ่นพอดีคำ ไชโป๊วเส้นใสนุ่มละมุนไม่หวานจนเกินไปค่ะถึงเครื่องจะไม่ครบตามรูปแบบของข้าวแช่ชาววังแต่รับรองความหอมความอร่อยความสดชื่นไม่น้อยกว่าใครเลยค่ะราคาเพียงชุดละ20บาทเวลาผู้เขียนไปสั่งจะสั่งพิเศษกับค่ะ25บาทเพราะชอบปลาหวานของป้าแอ๊ดมากค่ะ ใครจะเลียนแบบก็ไม่ว่ากันนะคะ ข้าวแช่เมืองเพชรจะเสิร์ฟด้วยภาชนะเซรามิกและช้อนทองเหลืองเวลาตักจะอมความเย็นไว้และยังแอบให้ความรู้สึกชาววังกลายกลายอีกด้วยค่ะ น้ำดื่มจะใส่ขันลายไทยใบน้อยน้อยเป็นน้ำลอยดอกมะลิเหมือนกันกับน้ำข้าวแช่นั่นแหล่ะค่ะหอมชื่นใจเป็นที่สุด พออิ่มกันเรียบร้อยผู้เขียนเองมักจะซื้อกับข้าวและน้ำลอยดอกมะลิกลับบ้านแต่ไม่เอาข้าวค่ะเผื่อแวะเที่ยวที่อื่นข้าวจะบูดเสียเปล่าเปล่ากลับไปใส่ข้าวที่บ้านเอา เพชรบุรีดินแดนสุขีของนักชิมจริงจริงค่ะมีอาหารหลายอย่างที่เมืองเพชรอร่อยขึ้นชื่อแล้วยังไงวันหน้าวันหลังผู้เขียนจะนำมาฝากกันอีกนะคะ เครดิตภาพโดยผู้เขียนค่ะ