จากบทความ "ถ้าวิ่งตามเขาแล้วท้อ มาวิ่งขึ้นเขาค้อกันเถอะ" ที่ผมเคยเขียนชวนร่วมงานวิ่ง เขาค้อ มินิฮาล์ฟ - มาราธอน ครั้งที่ 2 (Run Foe Health at Khaokao2020) เพื่อหารายได้สมทบทุนต่อเติมอาคารผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้เข้ารับบริการทั่วไปของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเหล่าหญ้า อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งจัดกิจกรรมไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2563 ที่ผ่านมานั้น ผมเองก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวเช่นกันซึ่งถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของการวิ่ง จากปกติที่เคยวิ่งในพื้นราบ งานนั้นเป็นครั้งแรกที่วิ่งมาราธอนไปตามเส้นทางในภูมิประเทศที่เป็นภูเขา ท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขา หมอก และแสงแห่งรุ่งอรุณ แม้ว่าจะเคยมีประสบการณ์ในการเดิน หรือปีนขึ้นภูเขา หรือพื้นที่ที่มีภูมิประเทศที่มีความสูง ลาดชันมาบ้าง อันพอจะใช้เป็นพื้นฐานในการปรับสภาพร่างกายให้สามารถรับมือกับกิจกรรมนี้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับตัว โดยใช้ทักษะเฉพาะ ในการทำกิจกรรมวิ่งขึ้นเขาค้อในครั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น 1. การปรับจังหวะการหายใจ เนื่องจากยิ่งขึ้นไปสู่พื้นที่สูง มวลอากาศเบาบาง ความกดอากาศเพิ่มขึ้น ในขณะที่ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น ทำให้ต้องการออกซิเจนมากกว่าเดิม ผมสังเกตว่าถ้าปล่อยลมหายใจไปตามจังหวะธรรมชาติ ที่ยิ่งเหนื่อยหอบยิ่งมีจังหวะหายใจสั้น จะรู้สึกว่าหายใจไม่อิ่ม จึงต้องปรับจังหวะโดยสูดลมหายใจให้ยาวขึ้น และอัดอากาศเข้าไปให้เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย 2. การปรับจังหวะและน้ำหนักในการก้าวเท้า เนื่องจากเส้นทางวิ่งเป็นพื้นที่ลาดชัน โดยในขาขึ้นต้องออกแรงในการก้าวมากขึ้น เพื่อดึงน้ำหนักตัวให้ขึ้นสู่ที่สูง ในขณะที่ขาลง ในแต่ละจังหวะก้าวต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลก และมีความเสี่ยงต่อการล้มคะมำ จึงต้องระมัดระวังในการก้าวโดยถ่ายน้ำหนักเท้าลงพื้นให้มั่นคง 3. การใช้ทักษะและความคล่องตัวในการพาตัวเองไปตามเส้นทางบนเขาที่มีความคดเคี้ยว อีกทั้งมีความลาดชัน ที่จำต้องรักษาการทรงตัวให้สมดุล เพื่อป้องกันการเสียหลักในระหว่างการวิ่ง แม้จะดูเหมือนเป็นหลักการพื้น ๆ ที่ใคร ๆ ก็รู้ แต่ในทางปฏิบัติจริง ก็เหมือนกับทักษะทั่วไปที่ต้องอาศัยการฝึกฝนให้คุ้นชินและเกิดความคล่องแคล่วชำนิชำนาญ ผมเองที่คิดว่าตนเคยคุ้นกับการวิ่งระยะไกลบนพื้นราบ แต่นาน ๆ ทีพอมาวิ่งในอีกมิติหนึ่ง คือ วิ่งขึ้นที่สูงลาดชันที่ตนไม่เคยคุ้นแบบนี้ ก็เป็นความรู้สึกและสภาวะที่แปลกออกไป แต่ก็ถือว่าเป็นการแสวงหาประสบการณ์ใหม่ และเพิ่มเติมทักษะในการวิ่งอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะชีวิตยังมีอะไรให้เรียนรู้และฝึกฝนอีกมากมาย ขอแค่เปิดใจและยอมก้าวให้พ้นความจำเจที่เคยพบเจอ ภาพประกอบและภาพปกบทความโดย 31singha