วันนี้เราจะพาเดินทางไปภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ กันคะ โดยเริ่มเดินทางจากกรุงเทพมหานคร เวลา 08.00 น. ระยะทางประมาณ 450 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมายก็เวลา 15.00 น. เรียกว่าขับรถจนเมื่อยกันเลยคะ ภูทับเบิกถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ขึ้นชื่อมากอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย สำหรับการเดินทางมาไม่ยากเลยละคะ เพียงใช้สมาร์ทโฟนกดค้นหาคำว่า ภูทับเบิก ในแอปแผนที่ ก็จะขึ้นมาให้เรากดเริ่มเดินทางกันได้เลย ก่อนอื่นต้องบอกผู้ที่ยังไม่เคยมาภูทับเบิกนะคะว่าเส้นทางค่อนข้างจะคดเคี้ยวพอสมควรสำหรับใครที่ขับรถมาเองต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะนอกจากถนนจะคดเคี้ยวแล้วยังมีหมอกปกคลุมเกือบตลอดเส้นทางระหว่างขึ้นเขาอีกต่างหาก เรียกได้ว่าหายใจแทบไม่ทั่วท้องเลยละในระหว่างที่เราเดินทางขึ้นภูทับเบิกจะสังเกตเห็นได้ว่าทั้งสองข้างทางที่หมอกปกคลุมเกือบมิดนั้น จะมีกะหล่ำปลีหัวเล็กหัวใหญ่ให้เราได้มองตลอดทาง เป็นบรรยากาศที่ตื่นตาตื่นใจทีเดียวคะ พอได้เห็นหมอกปกคลุมทุ่งกะหล่ำปลีแล้วมันก็ทำให้อดใจไม่ไหวจริง ๆ เลยต้องหามุมที่ปลอดภัยแวะลงยืดเส้นยืดสาย และก็ถ่ายภาพกันสักหน่อย ขนาดเป็นเวลาช่วงบ่ายแต่อากาศข้างนอกกลับค่อนข้างเย็นมากแนะนำให้เตรียมเสื้อกันหนาวสวย ๆ มาใส่ถ่ายรูปกันด้วยนะคะในครั้งนี้ที่เราเดินทางมาภูทับเบิกก็น่าจะครั้งที่สี่แล้ว ซึ่งเราไม่ค่อยกังวลเรื่องการจองที่พักเท่าไรเพราะชอบมาหาเอาข้างหน้ามากกว่า ซึ่งที่พักบนภูทับเบิกก็มีให้เลือกหลากหลายจริงๆ ทั้งกางเต๊นท์ หรือเลือกนอนรีสอร์ทก็ได้แล้วแต่เรา สำหรับในวันนี้เนื่องจากเราเอาน้องหมามาด้วยก็เลยต้องหาที่พักที่อนุญาตให้น้องหมาพักด้วยได้ เราก็เลยได้พักที่วิมานเมฆรีสอร์ท โซนที่เป็นบ้านสไตล์ฮอบบิท ราคาคืนละ 3,000 บาท บวกค่าพักของน้องหมาอีก 250 บาท บรรยากาศโดยรวมที่พักค่อนข้างดีเพราะอยู่ติดหน้าผาทำให้มองเห็นวิวกะหล่ำปลีและหมอกที่ปกคลุม มีที่จอดรถสะดวกสบายกางเต๊นท์ได้และยังอนุญาตให้ทำอาหารได้อีกด้วย ทริปนี้เราตั้งใจกันว่าจะทำอาหารทานเอง ก็เลยขับรถออกมาด้านนอกรีสอร์ทซึ่งอยู่ห่างประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีชาวม้งนั่งขายผักผลไม้อยู่หลายอย่าง เช่น กะหล่ำปลี แครอท ยอดฝักแม้ว อะโวคาโด เป็นต้น ราคาก็ไม่แพงเท่าไรก็เลยกะว่าตอนเดินทางกลับจะแวะซื้อเป็นของฝาก เอาละได้เวลาทำอาหารกันแล้ว เมนูง่าย ๆ ที่จะทำทานกันในเย็นนี้ก็จะมี ส้มตำปูปลาร้า กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ยำวุ้นเส้น ลาบหมู แล้วก็ผัดยอดฝักแม้ว สำหรับอุปกรณ์และเครื่องปรุงเราเตรียมมาเองหมดทุกอย่างคะทางรีสอร์ทไม่มีให้นะคะ เสร็จเรียบร้อยคะอาหารเย็นของเราก็จะได้หน้าตาประมาณนี้ หลังจากที่เราทานอาหารเย็นแล้วก็นั่งชมบรรยากาศยามค่ำคืน ก่อนจะเข้านอนและในวันพรุ่งนี้เราจะตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปถ่ายภาพบรรยากาศบนภูทับเบิกกันคะ เช้าวันนี้เรารีบตื่นอาบน้ำแต่งตัวกันแต่เช้าเพื่อที่จะออกไปหาจุดถ่ายภาพสวย ๆ กับกะหล่ำปลี ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลยละเพราะนอกจากจะได้ถ่ายภาพกับดอกกะหล่ำปลีแล้วก็ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าและลมพัดเย็นสบายทำให้ถ่ายรูปกันสนุกสนานเพลิดเพลินแทบไม่อยากกลับกันเลย บริเวณจุดชมวิวบนภูทับเบิกก็จะมีสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้กางเต้นท์ ซึ่งตรงบริเวณนี้ก็จะมีอาหารและของฝากจำหน่ายค่อนข้างเยอะแยะมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อติดมือกลับกัน สำหรับความประทับใจที่ได้มาเที่ยวภูทับเบิกแล้วทำให้เราต้องกลับมาเที่ยวอีกหลายต่อหลายครั้ง นั่นก็เพราะบรรยากาศที่นี่ดีมาก ๆ ไม่ว่าจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่ผิดหวัง มีหมอกตลอดปี ยิ่งช่วงหน้าฝนหมอกยิ่งหนา ทำให้รู้สึกเหมือนเรายืนอยู่เหนือก้อนเมฆเลยทีเดียว ภูทับเบิกจังหวัดเพชรบูรณ์จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากแนะนำให้คนที่หาสถานที่พักผ่อนแบบธรรมชาติและสูดอากาศสดชื่น ๆ ได้ลองแวะมาเที่ยวกันนะคะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน : Big bunny