อย่าสับสนว่าที่ไหนนะ ใช่บ้านบางระจัน จ.สิงห์บุรี หรือเปล่า แต่ที่จะรีวิวคือ แก่งบางระจัน อ.บ้านหนองแม่นา จ.เพชรบูรณ์ค่ะ เพราะความบังเอิญ จะไปนอนชมทุ่งหญ้าสวันน่า ที่ ทุ่งแสลงหลวง โดยไม่จองล่วงหน้า เต็มสิคะ ไม่คิดเลยว่า อุทยานแห่งชาติจะเต็มในวันเสาร์- อาทิตย์ธรรมดา ไม่ใช่วันหยุดยาว เลยต้องหาที่เที่ยวใกล้ๆ ก็มีคนแนะนำว่า ให้ไปล่องแก่งบางระจันสิ ครั้งแรกฟังชื่อ ก็งงๆ ไม่เคยได้ยิน แต่ลองไปดู ไม่เสียหาย ไปแบบไม่รู้นี่แหละ สนุกดี เราขับเข้ามาตาม GPS และป้ายตามทาง ผ่านโค้งซุ้มไม้ไผ่ สวยงาม เข้ามาเจอ กลุ่มชาวบ้านต้อนรับอย่างดี แนะนำลงเรือล่อง 1 ชั่วโมง ราคา คนละ 200 บาท มีหมวกให้ด้วย เก๋ไก๋ ไปกันเลยจ๊ะ ระหว่างนั่งเรือ คุณลุงผู้ผ่านการเป็นทหารสมัยรบกับคอมมิวนิสต์ ถ่ายทอดเรื่องราวให้ฟัง ถูกใจสายป่า-เขา อย่างเราเลย ซักฟอกกันเพลิน คลองที่เราล่องเรียกว่าลำน้ำเข็ก ไม่มีบ้านอยู่อาศัย แต่มีพื้นที่การเกษตรอยู่เป็นแหล่งจัดสรรไว้ มีการหาปลาแบบ ตกเบ็ดให้เห็นยุ แต่ปลาหน้าวัดนี่สิ มหัศจรรย์มาก เราให้อาหาร มันเกาะตามติดเรือมาเลย พอพ้นเขตอภัยทานหน้าวัด หายจ้อย โห! รู้เขตแดนขนาดนั้นเชียว ไม่ต้องรังวัดพื้นที่ แต่รู้โดยสัญชาตญาณการอยู่รอด เพราะถ้าแกหลุดมา เสร็จเบ็ดที่รออยู่แน่ 555 ต้นไม้ที่เราเห็น คุณลุงก็บอก ภาษาท้องถิ่น จำไม่ได้สักต้น รู้แต่ว่ามีพระเจ้า 5 พระองค์ละ กะต้นไทรริมน้ำ ลุงบอกไทรเวลาเล็กๆ ก็อาศัยต้นไม้ใหญ่ แต่พอใหญ่ก็ฆ่าเขาตายหมด มองเพลินๆ ก็ถึงเนินผีเสื้อ กลางลำน้ำ ตอนแรกมองไม่เห็น คุณลุงไปสาดน้ำสักพัก บินมาเต็มเลย ทั้งผีเสื้อแผนที่ หลายชนิด ก็จำไม่ได้อีกเรา แฮะๆ จำแต่มีสีเขียว เหลือง ขาว ดำ เทา มากมายละกัน คล้ายๆ ตามโป่งที่มีเกลือแร่ให้มันมากินกันนะ ตามป่า-เขา ถ่ายรูปแต่ผีเสื้อ วนไปค่ะ ถ่ายรูปกันเพลิน จนเรือลำอื่นกลับละ เราจึงตามกลับ จริงๆ ที่นี่ยังมี แมงกะพรุนน้ำจืดอีกชนิดนึง ซึ่งจะปรากฏตัวประมาณ เดือน ก.พ-มี.ค ของทุกปี รอบนี้ไม่เจอ ไว้มาใหม่ละกัน พอกลับขึ้นฝั่ง คุณลุงก็ให้เขียนคำแนะนำในสมุด และมีสมุดบัญชีรายรับของชุมชนอยู่ด้วย เพื่อให้เห็นว่ามีการบริหารภายในชุมชนจริงๆ ขอบคุณที่ทำให้ชุมชนเข็มแข็ง และขอให้อยู่กับธรรมชาติไปแบบนี้นานๆ นะคะ