สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยเรากำลังพบกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เราต้องร่วมใจกันอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งอาจทำให้หลาย ๆ คนเครียด ไม่ต้องเครียดนะคะอยู่บ้านก็เที่ยวได้ วันนี้เราจะชวนทุกท่าน Tour From Home @Phu Thap Berk ซึ่งภูทับเบิกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของหลาย ๆ คนที่มักจะถามว่าที่นี่มีดีอะไรทำไมถึงต้องไปและถ้าไปจะคุ้มค่าไหม ทริปนี้เราไปกัน 4 คน ออกเดินทางจากอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าเพื่อให้ทันดูทะเลหมอก การเดินทางไป ภูทับเบิกสามารถเดินทางได้หลายเส้นทางแต่ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นเพชรบูรณ์หล่มเก่าเนื่องจากกำลังซ่อมแซมถนนและมีบ้างช่วงเวลาที่ปิดใช้ช่องทาง 100% ซึ่งน่าจะซ่อมแซมเสร็จในปลายปี 2563 หากมาจากกรุงเทพขอแนะนำให้ใช้เส้นทางถนนสาย 21 (สระบุรี - หล่มสัก) วิ่งถึงแยกพ่อขุนผาเมือง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ แยกซ้ายใช้ถนนสาย 12 ถึงแยกบ้านแยงเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางสาย 2013 ถึงแยกหนองกะท้าว อำเภอนครไทย เลี้ยวขวาเข้าสาย 2331 ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าซึ่งมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยาน ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็กคนละ 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่คนละ 400 บาท เด็กคนละ 200 บาท แล้วจึงเดินทางสู่ทับเบิก วันนี้เราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวซึ่งวิวสองข้างทางสวยจนอดใจไม่ไหวต้องขอจอดรถถ่ายภาพกัน ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน เมื่อขับรถมาถึงหลักกิโลเมตรที่ 18 จะมีป้ายเข้าหมู่บ้านบ้านทับเบิก ภูทับเบิกเป็นชื่อของหมู่บ้านชาวเผ่าม้งที่อาศัยอยู่บนยอดเขาสูงที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 100 กิโลเมตร อาชีพของชาวบ้านที่นี่คือปลูกกะหล่ำปลีบนยอดเขาซึ่งถ้าเราไปเที่ยวในฤดูฝนจะพบไร่กะหล่ำปลีเป็นพัน ๆ ไร่ เสียดายที่ครั้งนี้เราไปในฤดูหนาวจึงไม่เห็นไร่กะหล่ำปลีแต่พวกเราก็ตื่นเต้นกับไร่สตรอว์เบอร์รี่และดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่บานให้เห็นทั่วทั้งภูทับเบิกโดยเฉพาะบริเวณลานกางเต้นท์ของนักท่องเที่ยวจะมีมากกว่าที่อื่น ๆ ทำให้เราหลับตานึกว่าถ้าเรามานอนกางเต้นท์บริเวณนี้ลืมตาตื่นขึ้นมาคงเหมือนไปชมดอกซากุระที่ญี่ปุ่นเลยที่เดียว ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดย ผู้เขียน ขับรถต่อไปอีก 2 กิโลเมตร จะถึงจุดที่เรามาชมทะเลหมอกกันคือจุดที่สูงที่สุดของภูทับเบิกเราเรียกจุดนี้ว่าจุดชมวิว ทางขึ้นจุดชมวิวค่อนข้างจะขึ้นยากสักหน่อยเพราะทางแคบถ้าเป็นมือใหม่หัดขับก็ต้องระวังรถคันข้างหน้าซึ่งอาจจะไหลลงมาและต้องระวังรถที่สวนทางลงมาด้วย ทางขึ้นจุดชมวิวมีที่จอดรถน้อยมากแต่วันที่เราขึ้นไปเที่ยวเป็นวันธรรมดาจึงไม่มีปัญหาในเรื่องของที่จอดรถ แค่เปิดประตูรถลงมาเราก็สัมผัสกับอากาศอันหนาวเย็น ซึ่งที่นี้อากาศเย็นตลอดทั้งปี จึงขอแนะนำผู้ที่จะมาเที่ยวว่า ไม่ว่าจะมาเที่ยวภูทับเบิกในฤดูใดก็ตามควรมีเสื้อกันหนาวมาด้วย พวกเราลงจากรถแล้วก็พากันเดินขึ้นไปบนจุดชมวิวซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่จอดรถประมาณ 500 เมตร ระยะทางไม่เป็นปัญหากับเราเลยเพราะสองข้างทางระหว่างที่เราเดินขึ้นไปมีร้านค้าพื้นเมืองหรือตลาดม้งที่ชาวบ้านนำสินค้ามาให้เราได้เลือกซื้อเลือกชมมากมาย เช่นเสื้อผ้าชาวเขาเผ่าต่าง ๆ สมุนไพร ผักและผลไม้เมืองหนาวตามฤดูกาล แม่ค้าซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองเรียกเราซื้อสินค้าด้วยภาษาไทยสำเนียงชาวเขาน่ารักมาก เราอุดหนุนมันเผาของชาวบ้าน 1 กอง มี 3 หัว ราคา 20 บาท เป็นมันเผาที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมาเราเดินกินมันเผากันไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดชมวิว ภาพโดยผู้เขียน วันนี้มีหมอกมาทักทายให้เราได้เห็นบ้างแต่ไม่มากนักเพราะลมแรง อากาศเย็นสบายฟินมากเสียดายจังที่เราไม่ได้พักที่ภูทับเบิก เราเห็นเต้นท์นักท่องเที่ยวกางเรียงรายเต็มไปหมดโอกาสหน้าไม่พลาดแน่ จากจุดชมวิวซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดมองลงไปข้างล่างจากจุดที่เรายืนอยู่จะเห็นถนน 111 โค้งที่สวยงามมาก อดนึกไม่ได้ว่าเราขับรถขึ้นมาได้อย่างไร เราเดินต่อจากจุดชมวิวขึ้นไปที่อาคารหอดูดาวและที่วัดอุณภูมิ ทำให้เรารู้ว่าที่นี้มีความสูง 1,768 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาด ภาพโดยผู้เขียน ภูทับเบิกไม่ได้มีเพียงแต่ภูเขาให้เราได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติเท่านั้นแต่ยังมีสถานที่เที่ยวใกล้ ๆ อีกมากมาย เช่น วัดป่าภูทับเบิกภายในมีเจดีย์เพชร 37 ชั้น ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือถ้ามีเวลามากหน่อยเราสามารถไปชมลานหินปุ่ม ผาชูธง โรงเรียนการเมืองทหาร ภูลมโลที่ภูหินร่องกล้าได้ หรือจะเลยไปเที่ยววัดสวยวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วไหว้พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ท่ามกลางเทือกเขาที่เขาค้อซึ่งอยู่ห่างจากภูทับเบิกเพียง 60 กิโลเมตร เท่านั้น ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน หลังจากที่พวกเราถ่ายรูปกันอย่างจุใจเพื่อเก็บความทรงจำดี ๆ นี้ไว้ ขากลับแวะเช็คอินตลาดม้งริมทางอีกครั้งและเลือกซื้อสินค้าเพื่อเป็นของฝากกลับบ้าน แม้ทริปนี้เราจะมีเวลาไม่มากนักแต่ทุกครั้งที่เราออกเดินทางนอกจากเราจะได้ความสุขแล้วเรายังได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้พบปะผู้คนได้พบเพื่อนร่วมทางทำให้เรารู้ว่าสิ่งดี ๆ มีอยู่รอบตัวเราขอเพียงแต่ให้เรากล้าที่จะออกเดินทาง ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน