แม้ผ่านพ้นฤดูฝนมาได้สักระยะนึงแล้ว แต่ก็ยังมีฝนหลงฤดูที่ตกลงมาให้ชื่นฉ่ำบ้างชั่วครั้งชั่วคราว หลายคนไม่ชอบท่องเที่ยวในฤดูฝน เหตุผลแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน และอาจจะมีบางคนเช่นกัน ที่ชอบออกไปท่องเที่ยวใน ฤดูฝน ฉัน เป็นหนึ่งคนในนั้น ในวันหยุด วันหนึ่งของฤดูฝน ฉันเริ่มต้นเดินทางออกจากบ้าน ตั้งแต่ 4 ทุ่มกว่า มุ่งสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้นที่ ' จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ ' จุดหมายแรกของการเดินทาง แต่สิ่งที่คิดและสิ่งที่ปรากฎตรงหน้า ไม่ตรงกันเสมอไป ฉันคิดจินตนาการถึงทะเลหมอกที่แสนอลังการ ขาวโพลน คลอเคลียยอดเขา ก่อนพระอาทิตย์ดวงโต จะโผล่พ้นขอบฟ้า แต่ความจริงก็คือ สายลมที่พัดค่อนข้างแรงในวันนี้ ตีหมอกหาย กระจายอย่างรวดเร็วตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง และท้องฟ้าที่ครึ้มไปด้วยกลุ่มก้อนเมฆ ทำให้ ตะเคียนโง๊ะ ในจินตนาการของฉัน ผิดไปมาก แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย เพราะในนั้นมีความงามอื่นแฝงอยู่ อกหักจาก ตะเคียนโง๊ะ ก็เดินทางต่อ สู่จุดหมายที่วางไว้ ของทริปนี้ คือ ' ทุ่งแสลงหลวง ' ส่วนตัวฉันนั้น สมัยเรียนประมาณชั้นมัธยมศึกษา ชอบไปนั่งอ่าน หนังสือ อ.ส.ท. ในห้องสมุด เพราะเทคโนโลยี สมัยก่อน ยังไม่พัฒนาเท่าปัจจุบัน จำได้ว่าถ้าอยากดู อยากรู้จัก สถานท่องเที่ยวสวยๆ ให้อ่าน อนุสาร อ.ส.ท. และเมื่อเห็นจากในหนังสือ ก็จำได้ติดตา ว่าทุ่งแสลงหลวง สวยงามขนาดไหน วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสมาเยือน และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อเลี้ยวรถเข้าไปภายในอุทยาน ภาพตรงหน้าถึงกับทำให้ ร้องว้าว กันเลยทีเดียว ทุ่งหญ้าเขียวขจี กว้างสุดลูกหูลูกตา มีทิวเขาเป็นฉากหลัง สายหมอกลอยเคล้าเคลียยอดไม้และแนวเขา ดังภาพในจินตนาการ ฉันและคณะตัดสินใจเช่ารถโฟวิล พร้อมเจ้าหน้าที่ของอุทยาน เพื่อเข้าไปชม ' ทุ่งนางพญา ' ไฮไลท์ แห่งทุ่งแสลงหลวง ระยะทางจากจุดบริการนักท่องเที่ยวหนองแม่นา เข้าไปยังทุ่งนางพญา มีระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร ระหว่างทางจะผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจี ตัดกับสีแดงของถนนลูกรัง มองเห็นทิวทัศน์ สุดลูกหูลูกตา เจ้าหน้าที่จอดให้เราถ่ายรูปและชมวิวกันที่จุดแรก คือ ศาลา ดุสิตา จุดชมวิวอีกแห่ง ที่สวยงามไม่แพ้ใคร มองไกลๆจะเห็นเทือกเขา คล้ายภูเขาไฟฟูจิ ฉันคงคิดถูกแล้ว ที่เลือกมาเที่ยวป่าหน้าฝน เพราะมองไปทางไหนก็เขียวสดชื่น ดีงามแท้ หลังจากอิ่มเอิบกับทิวทัศน์ ณ ศาลา ดุสิตา ก็ได้เวลาเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป ระหว่างทางที่เข้าไป ให้ภาพบรรยาย และแล้วเราก็มาถึง ' ทุ่งนางพญา ' ชื่อเต็มๆ ตามป้ายที่ติดไว้ก็คือ ' ทุ่งนางพญาเมืองเลน ' เป็นทุ่งหญ้าแบบสวันนา ผสมกับป่าสนสองใบ ในฤดูหนาว จะมีนักท่องเที่ยวนิยมมากลางเต็นท์ ณ จุดนี้ ฉันและคณะก็ไม่พลาดกับการถ่ายรูป เช็คอิน กันอย่างชิคๆ จนเต็มอิ่มกับความงดงามของ ทุ่งหญ้าและป่าสน ระหว่างทางกลับแวะอีกจุดที่ ศาลาสรัสจันทร เพื่อชมทุ่งสุดท้าย จบทริปอย่างประทับใจ ทริปนี้เป็นทริปที่ คาดหวังว่าจะเห็นทะเลหมอกจาก ตะเคียนโง๊ะ แต่กลับผิดหวัง แต่สิ่งที่ไม่คาดหวัง คือความสวยงามของ ทุ่งแสลงหลวง ไม่เคยคิดว่าจะสวยงามขนาดนี้ ลบภาพที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อได้มาสัมผัสด้วยตนเอง เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจ ต้องการพักผ่อนแบบสงบเงียบ แนะนำที่นี่ค่ะ โดยในฤดูหนาว สามารถขับรถส่วนตัวเข้าไปพักกางเต็นท์ ที่ทุ่งนางพญาได้ แต่ต้องทำเรื่องขออนุญาติจากเจ้าหน้าที่ก่อนค่ะ โดยสามารถติดต่อได้ที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ที่ สล.8 (หนองแม่นา)