“กาแฟ” เป็นสิ่งที่คนวัยทำงานอย่างเราขาดไม่ได้เลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนรุ่นใหม่วัยหนุ่มสาวทำงานสมัยนี้ที่หันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น ก็ใครจะปฏิเสธได้ล่ะว่า การมีสุขภาพที่ดีและการมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีนั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น และกาแฟคือหนึ่งในเครื่องดื่มสำคัญที่ขับเคลื่อนการทำงานของคนทำงานทั่วโลกมาอย่างยาวนาน บ้างก็ซื้อตามร้านรถเข็ญข้างออฟฟิศ บ้างก็ซื้อตามร้านค็อฟฟี่ช็อป แต่น้อยร้านมาก ๆ เลยที่จะไม่พบกับ “น้ำตาล” และ “ครีมเทียม” แต่ถ้าเรารักจะมาสายสุขภาพกันแล้ว แนะนำให้ใจแข็ง ตัดใจจากจากสิ่งเหล่านั้นไปให้หมด เพราะมีโทษต่อคนรักสุขภาพอย่างมากเลยล่ะ น้ำตาล : หากบริโภคมากเกินไปก็จะเกิดการเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย (น้ำตาลนั้นรวมถึงไซรัปและนมข้นด้วยนะจ๊ะ) แม้ว่า WHO จะกำหนดให้ร่างกายเราไม่ควรรับน้ำตาลมากเกินวันละ 6 ช้อนชา แต่โดยปกติในทุกมื้ออาหาร เราก็มักได้รับน้ำตาลและสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต”ทางอ้อม”จากอาหารจำพวก ผัก, ผลไม้, ธัญพืช, นม, กันอยู่เป็นปกติโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นไม่เติมเพิ่มเข้าไปจะดีที่สุด ครีมเทียม: มีความเสี่ยงที่จะมี”ไขมันทรานส์”ปะปน ซึ่งไขมันชนิดนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพสุด ๆ เพราะเป็นไขมันที่กำจัดออกไปจากร่างกายได้ยากมาก หรือแทบจะไม่ได้เลย เพราะงั้นหากรับเข้าไปมีแต่จะไปสะสมในร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อสะสมมาก ๆ ก็ย่อมจะทำให้เรามีความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ในอนาคตแน่นอนค่ะ ดังนั้น ไม่ว่าใครก็ควรเลี่ยงไม่นำไขมันชนิดนี้เข้าไปในร่างกายอย่างเด็ดขาดเลยนะคะ! เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สายสุขภาพอย่างเรา ๆ ก็ควรหันมาชงกาแฟดื่มเองเพื่อความชัวร์ดีกว่าเนอะ โจทย์ง่าย ๆ แค่เลี่ยงน้ำตาลและครีมเทียม มาดูกันดีกว่าว่าจะมีเมนูอะไรให้เราทำออกมาได้บ้าง ผู้เขียนจะมาขอแนะนำเป็นเมนูและส่วนผสมต่าง ๆ ไว้ให้เป็นไอเดีย ซึ่งจะแบ่งเป็นสาย”คลีน”และ “คีโต” สัดส่วนของส่วนผสมก็ปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเลยนะคะ สามเมนูแรกขอเป็นเมนูคุ้นเคยที่มีชื่ออยู่ในร้านกาแฟกันกันก่อนนะ เริ่ม! 1.อเมริกาโน่ ส่วนผสม : เอสเพรสโซ่/ กาแฟเกล็ด + น้ำเปล่า (คลีน,คีโต) Photo by Mayur on Unsplash ปฎิเสธไม่ได้เลยกับเมนูนี้ เชื่อว่าครองใจสายสุขภาพทุกคนไม่ว่าจะเป็นสายคลีนหรือคีโตก็สามารถดื่มกาแฟเมนูนี้ได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งทำง่าย ได้รสกาแฟแท้ ๆ บ้างอาจเรียกเมนูนี้ว่ากาแฟดำ แรก ๆ อาจจะต้องใช้การฝึกฝนกับความขมหน่อย แต่กินไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกชิน อาจจะติดใจจนกลับไปดื่มกาแฟที่ใส่นมและน้ำตาลไม่ได้อีกเลยก็ได้นะ เป็นเมนูที่ดื่มแล้วรู้สึกสบายตัวสบายใจไร้กังวล เพราะไม่มีแครอรี่ ดื่มตอนไหน ก็ลีนตอนนั้น! 2.ม็อคค่า ส่วนผสม : เอสเพรสโซ่/ กาแฟเกล็ด + ดาร์คช็อคโกแล็ต70% + นม (คลีน) เอสเพรสโซ่/ กาแฟเกล็ด + ดาร์คช็อคโกแล็ต70% + นมอัลมอนด์ (คีโต) Tips : สำหรับสาย”คีโต”สามารถเพิ่มวิปครีมได้ ใช้ผงโกโก้แทนดาร์คช็อคโกแล็ต70%ได้ Photo by Şahin Yeşilyaprak on Unsplash ใครที่เป็นแฟนช็อคโกแล็ตหรือโกโก้ก็สามารถเอ็นจอยกับกาแฟเมนูโปรดเมนูนี้ได้ทั้งสายคลีน และสายคีโต เพียงแค่เปลี่ยนจากไซรัปกลิ่นช็อคโกแล็ตที่เราคุ้นเคย เป็นดาร์คช็อคโกแล็ตแท้ความเข้มข้น70%ขึ้นไป หรือโกโก้ ตัดความขมด้วยความนุ่มนวลของนมที่มีความหวานตามธรรมชาติจากน้ำตาลแล็คโตส สำหรับสายคลีนอาจไม่ต้องใส่สารให้ความหวานใด ๆ เพิ่มก็พอจะเอ็นจอยกับรสชาติได้สบาย ๆ แต่สำหรับสายคีโตที่ไม่สามารถทานน้ำตาลชนิดใดได้เลยรวมทั้งน้ำตาลแล็คโตสจากนม ก็ให้ใช้นมอัลมอด์แทน ซึ่งน้องจะมีรสเฉพาะตัวอาจไม่ให้ผลทางรสชาติมากนัก ก็อนุโลมให้ใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ที่ไม่กระตุ้นอินสุลินเพิ่มได้นิดหน่อยค่ะ ก็เมนูช็อคโกแล็ตนี่นาถ้ามีรสหวานบ้างมันฟินอ่ะเนอะ! แถมพิเศษสำหรับชาวคีโตสามารถโปะวิปครีมเพิ่มความนัวได้นะ ถือว่าทดแทนที่ใส่นมไม่ได้แล้วกัน 3.คาปูชิโน่, ลาเต้ ส่วนผสม : เอสเพรสโซ่/ กาแฟเกล็ด + นม (คลีน) เอสเพรสโซ่/ กาแฟเกล็ด + นมพิสตาชิโอ (คีโต) Photo by Jeanie de Klerk on Unsplash อีกสองเมนูเบสิคที่ใคร ๆ ต่างก็หลงรักทั่วโลก อย่างคาปูชิโน่และลาเต้ ผู้เขียนขอจัดอยู่ในข้อเดียวกัน เนื่องจากส่วนผสมของทั้งสองเมนูนั้นมีเพียงกาแฟและนมเหมือนกัน ต่างกันที่ปริมาณของนม โดยคาปูชิโน่จะมีน้ำนมน้อยกว่าแต่ฟองนมมากกว่าลาเต้ ส่วนลาเต้จะมีน้ำนมมากกว่า แต่ฟองนมน้อยกว่าคาปูชิโน่ ถ้าหากใครเป็นสายคลีนอยู่แล้ว คุณสามารถเดินเข้าไปในค็อฟฟี่ช็อปร้านโปรดเพื่อสั่งเมนูเหล่านี้ได้เลย โดยไม่ต้องใส่น้ำตาลหรือไซรัปเพิ่ม ก็จะได้กาแฟหอมกรุ่น นุ่มนวล หวานมันจากนมซึ่งมีน้ำตาลแล็คโตสตามธรรมชาติ แต่สำหรับชาวคีโตที่ต้องอะแด็พเป็นนมพิสตาชิโอหรือนมอัลมอนด์ซึ่งมีรสชาติเฉพาะตัว (แต่แนะนำว่านมพิสตาชิโอจะให้รสมันกว่านมอัลมอนด์นิดหน่อย) ต้องทำการฝึกรับประทานสักนิด รสชาติอาจไม่หอมมันเท่ากับใส่นม แต่ถ้าใจเราแน่วแน่ เราจะสามารถเอ็นจอยไปกับรสชาติเฉพาะตัวนี้ได้เอง แต่ถ้าไม่โอเคจริง ๆ ก็ใส่สารให้ความหวานที่ไม่กระตุ้นอินสุลินนิดหน่อยได้ ค่อย ๆ ฝึกไปค่ะ สำหรับสามเมนูแรก เพื่อน ๆ อาจจะรู้สึกว่าเบสิคเกินไปหรือเปล่า เอาเป็นว่าหลังจากนี้ จะเริ่มเป็นเมนูสร้างสรรค์แอดวานส์ยิ่งขึ้น หาชื่อเมนูตามร้านค็อฟฟี่ช็อปไม่ได้แน่นอนค่ะ ต้องชงเองเท่านั้น! 4.กาแฟน้ำหอม ส่วนผสม : เอสเพรสโซ่/ กาแฟเกล็ด + น้ำมะพร้าวน้ำหอม + น้ำแข็ง (คลีน) Photo by Blake Wisz on Unsplash เมนูนี้สำหรับสายคลีนโดนเฉพาะ ชงง่าย แถมยังอร่อยมาก ๆ ความเข้มข้นของกาแฟ รวมกับความหอมหวานของน้ำมะพร้าวน้ำหอม รับประกันได้เลยว่าไม่มีคำว่าผิดหวัง แนะนำว่าดื่มแบบเย็นจะอร่อยที่สุด หอมหวานชื่นใจเหมาะเป็นเมนูดับร้อนได้เป็นอย่างดี 5.bulletproof coffee (คีโต) ส่วนผสม : เอสเพรสโซ่1-2 ช็อต/กาแฟเกล็ด 3 ช้อนชา รวมน้ำ(กาแฟผสมน้ำ)250ml + น้ำมันมะพร้าว 1-2 ช้อนโต๊ะ + เนย 1-2 ช้อนโต๊ะ อุปกรณ์ : เครื่องปั่นไฟฟ้า (นำส่วนผสมทั้งหมดด้านบนปั่นรวมกัน 1 นาที) Tips : เพิ่มกลิ่นชินนาม่อนไปหน่อยจะเข้ากันมาก ๆ เพิ่มความนุ่มนวลด้วยกะทิหรือนมอัลมอนด์/พิสตาชิโอได้ 1 ช้อนโต๊ะ Photo by Fauzan on Unsplash มาถึงกันแล้วสำหรับเมนูกาแฟเอาใจสายคีโตที่ดูส่วนผสมแล้วอาจขมวดคิ้ว เห็นอย่างนี้แต่น้องอร่อยมาก ๆ เลยล่ะ หอมมันได้ใจ เหมาะเป็นเมนูโหลดไขมันเข้าร่างกายได้เป็นอย่างดี จริง ๆ แล้วเมนูนี้เป็นเมนูกาแฟที่โด่งดังไปทั่วโลกสำหรับชาวคีโต และมีขายกันตามร้านค็อฟฟี่ช็อปบางประเทศโดยทั่วไปด้วยนะ สำหรับเมนูนี้ พิเศษหน่อยที่ผู้เขียนขอลงรายละเอียดสัดส่วนของส่วนผสมไว้ด้วย เนื่องจากเมนูนี้ค่อนข้างมีข้อจำกัด หากเติมส่วนผสมใดมากหรือน้อยเกินไปอาจเลี่ยนจนเสียรสชาติได้ แต่รับร้องสูตรนี้อร่อย นุ่ม นัว กำลังดีไม่มีเลี่ยน เมนูนี้อาจต้องใช้อุปกรณ์ช่วยอย่างเครื่องปั่นไฟฟ้า เนื่องจากวัตถุดิบอย่างเนยและน้ำมันต้องมารวมเข้ากับน้ำกาแฟ ถ้าไม่ใช้วิธีปั่นรวมกันล่ะก็น้ำมันจะออกมาเป็นดวง ๆ ลอยอยู่บนนำ้กาแฟ ซึ่งจะออกมาไม่น่ารับประทานสักเท่าไหร่ค่ะ 6.Dalgona Coffee ส่วนผสมฟองกาแฟ(1) : กาแฟเกล็ด 2 ช้อนโต๊ะ + น้ำตาลอิริทริทอล 4 ช้อนโต๊ะ + น้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ + เกลือเล็กน้อย(คลีน,คีโต) อุปกรณ์ : เครื่องตีผสมอาหารไฟฟ้า (นำส่วนผสมทั้งหมดด้านบนตีรวมกัน 5-7 นาที หรือจนขึ้นเป็นฟองโฟม) ส่วนผสมฐาน(2) : นมสด(คลีน) หรือ นมอัลมอนด์/พิสตาชิโอ(คีโต) 200 ml + น้ำแข็ง วิธีทำ : เทนม(2)ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว จากนั้นนำฟองกาแฟที่ตีได้จาก(1) วางโปะลงไปด้านบน ภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=MOiMXRxLRaM เมนูกาแฟสุดคิวท์และฮิตมาก ๆ แห่งปี 2020 เรียกได้ว่าถ้าไม่ทำอาจตกเทนรนด์ได้เลยทีเดียวกับ Dalgona Coffee กาแฟฟองที่น่าตื่นตาตื่นใจ สามารถอะแด๊พเป็นได้ทั้งเมนูคลีนและเมนูคีโตได้เพียงแค่เลือกใส่นมชนิดที่เหมาะสมลงไป ส่วนสารให้ความหวานแนะนำให้ใช้เป็นอิริทริทอล เพราะเมนูกาแฟนี้ดัดแปลงมาจากสูตรปกติที่ต้องใส่น้ำตาลทรายเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยในการขึ้นฟองฟู เมื่อปรับเป็นสูตรสุขภาพจึงเลือกใช้เป็นอีริทริทอลเพราะแม้ใส่เยอะแต่ให้ความหวานเพียง 60-70% ของน้ำตาลทราย จึงตีออกมาได้สวยงาม ขึ้นรูป และไม่หวานจนเกินไปค่ะ ถ้าหากใครชอบความแปลกใหม่ล่ะก็ ต้องไม่พลาดที่จะลองทำเมนูนี้นะคะ 7.กาแฟไข่ (คีโต) ส่วนผสมฟองไข่(1) : ไข่แดงสด 2 ฟอง + น้ำตาลอิริทริทอล 1-2 ช้อนชา + วิปปิ้งครีม 1 ช้อนโต๊ะ + เกลือเล็กน้อย + กลิ่นวนิลาเล็กน้อย อุปกรณ์ : เครื่องตีผสมอาหารไฟฟ้า (นำส่วนผสมทั้งหมดด้านบนตีรวมกัน 5-7 นาที หรือจนขึ้นเป็นฟองโฟม) ส่วนผสมฐาน(2) : เอสเพรสโซ่ 1-2 ช็อต/ กาแฟเกล็ด 2-3 ช้อนชา รวมน้ำ(กาแฟผสมน้ำ) 200 ml วิธีทำ : เตรียมน้ำกาแฟ(2)ใส่แก้ว จากนั้นนำฟองไข่ที่ตีได้จาก(1) วางโปะลงไปด้านบน ภาพถ่ายโดย ผู้เขียนเอง (ccozy_warm_night) ปิดท้ายกันด้วยเมนูกาแฟเอาใจสายคีโตกันอีกสักเมนู กับเมนูกาแฟไข่สไตล์เวียดนามที่สุดแสนอร่อย แวบแรกต้องขมวดคิ้วกับส่วนผสมกันอีกแล้ว ก็ใครจะเชื่อว่าไข่แดงจะเป็นตัวเพิ่มรสชาติกาแฟให้ออกมาหวานมันเสมือนทำหน้าที่แทนนมสดได้ด้วย! ซึ่งผู้เขียนขอบอกเลยว่า เป็นส่วนผสมที่ออกมาลงตัวตัวสุด ๆ ความมันของไข่แดง ตัดกับกาแฟเข้ม ๆ นั้นไม่น้อยหน้านมสดหรือครีมเลยนะคะ เป็นเมนูที่ท้าทายและน่าลองทำมากเลยล่ะค่ะ และที่สำคัญอร่อยสุด ๆ ไม่ต้องไปหาดื่มไกลถึงเวียดนามทำเองได้ง่าย ๆ เลย