อื่นๆ

สาวปริศนาในห้องแถวหมายเลข 13

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
สาวปริศนาในห้องแถวหมายเลข 13

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจากชีวิตเราเอง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อ ปี 2559 ตอนนั้นเรากับแฟนตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาเพื่อมาทำอาชีพค้าขายเต็มตัว จนวันหนึ่งพวกเราก็ได้ไปเจอห้องแถวชั้นเดียวให้เช่าที่ตลาดแห่งหนึ่ง พวกเราสนใจห้องแถวนี้มาก เพราะทำเลดี มีคนพลุกพล่าน เหมาะกับการค้าขายมาก และอีกอย่าง ห้องแถวนี้เป็นเลขที่ 13 ซึ่งเราคิดว่ามันคือ Lucky Number เราสองคนน่าจะโชคดีแน่นอน เราจึงตัดสินใจนัดเจ้าของห้องแถวที่ว่างนี้เพื่อตกลงทำสัญญาเช่าทันที โดยไม่สนใจว่าทำเลดีขนาดนี้ ทำไมถึงเป็นห้องว่าง

เช้าวันรุ่งขึ้น เรา และแฟนได้ไปทำสัญญาเช่ากับเจ้าของห้องแถวตามที่นัดหมาย พอไปถึง เจ้าของห้องก็เปิดห้องแถวนั้นให้พวกเราดูทันที เมื่อเจ้าของห้องเปิดประตูเหล็กเลื่อนจนสุด เราสองคนถึงกับผงะ เพราะสภาพห้องนั้นเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยขี้ไก่ ณ ตอนนั้นเราได้ใจความว่า คนเช่าห้องคนก่อนหน้านี้เขาขายไข่ไก่ที่มาจากฟาร์ม แล้วต้องคัดแยกขนาดไข่เป็นเบอร์ต่างๆ เลยทำให้ห้องมีแต่ขี้ไก่ที่แห้งเกรอะกรังตามพื้นเต็มไปหมด เรากับแฟนก็เดินสำรวจในห้องนั้นอย่างละเอียด พอเราสองคนเดินไปช่วงท้ายของห้องแถวนั้นก็เห็นว่า ในนั้นมีห้องเล็กๆ ลักษณะเหมือนห้องเก็บของขนาดประมาณ 3 x 4 เมตร อยู่ด้านหลังสุด ในตอนที่เราเดินเข้าไปดูความเรียบร้อยในห้องนั้น เราก็รู้สึกถึงความวังเวงมากพอสมควร แต่สุดท้ายตอนนั้นในใจก็ได้แต่คิดว่า เอาวะ! ทำเลดีขนาดนี้ จะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง เรากับแฟนเลยตกลงกันว่าจะเช่าห้องแถวนี้ จึงตัดสินใจตกลงทำสัญญาเช่ากับเจ้าของห้องทันที พอเสร็จเรียบร้อยทางเจ้าของห้องก็แยกตัวกลับไป ส่วนเรากับแฟนก็เดินดูรอบห้องอีกครั้งเพื่อเช็คว่าจะต้องปรับปรุง หรือตกแต่งอะไรบ้าง ทันใดนั้นเอง เรากับแฟนก็ได้กลิ่นธูปลอยมา แต่ตอนนั้นเราทั้งสองคนก็ไม่ได้คิดอะไร

Advertisement

Advertisement

จนถึงก่อนวันกำหนดเปิดร้าน 1 วัน ในวันนั้นเรากับแฟนช่วยกันทำร้านกันจนถึงประมาณเที่ยงคืนกว่า ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่ได้อันเชิญพระพุทธรูปขึ้นหิ้ง และในตอนนั้นเอง อยู่ดีๆ ก็มีกลิ่นธูปลอยมาเหมือนวันแรกที่เราทำสัญญาเช่า เลยทำให้เราต้องรีบติดตั้งหิ้งพระ เพื่ออันเชิญพระพุทธรูปขึ้นหิ้งทันที แล้วจากนั้นกลิ่นธูปก็หายไป

หลังจากที่เปิดร้านมา 1 เดือน เราก็รับสมัครพนักงานมาขายหน้าร้านเพิ่ม 1 คน น้องคนนี้เป็นคนที่นิสัยร่าเริง อัธยาศัยดี แต่มีอยู่วันหนึ่ง น้องพนักงานกลับมีทีท่าเงียบขรึม ซึ่งเราสังเกตุแล้วก็รู้สึกว่าผิดปกติ เราก็เลยถามน้องว่า “เฮ้ย! เป็นไร ทำไมวันนี้ไม่ยิ้มเลยอ่ะ?” น้องหันมาหาเราพร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด แล้วก็เล่าให้เราฟังว่า “เมื่อเช้าตอนที่หนูมาเปิดร้านอ่ะพี่ หนูเห็นเหมือนใครไม่รู้มายืนชะโงกดูหนูอยู่ในห้องเก็บของด้านหลังร้าน เป็นผู้หญิงผมยาวๆ ใส่ชุดสีขาว นี่หนูเลยไม่กล้าเดินไปหลังร้านเลยอ่ะ หนูกลัว” พอเราได้ฟังที่น้องเล่าตอนนั้นก็เริ่มสงสัย แต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติ ขายของต่อไปจนจบวัน

Advertisement

Advertisement

และในคืนวันนั้นเอง เราก็ฝันว่า ... เราไปอยู่ในไซด์งานก่อสร้างอาคารอะไรสักอย่างที่ยังทำไม่เสร็จ สภาพอาคารห้องแถวยังเป็นโครงเสาปูน ไม่มีผนังกั้น รอบข้างมีแต่ป่าหญ้ารกทึบ บรรยากาศในความฝันตอนนั้นมันมืดมาก เงียบสงัดจนวังเวง แต่แล้วเราก็หันไปเห็นภาพผู้ชายคนหนึ่งใช้มีดกำลังหั่นศพผู้หญิงผมยาวอยู่มุมเสา เลือดสีแดงสดของหญิงสาวคนนั้นไหลออกมาเป็นทาง เลอะเทอะเต็มพื้นไปหมด เราเห็นภาพตอนนั้นเราก็ตกใจมากจนทำให้เราสะดุ้งตื่น พอเราตื่นขึ้นมา เราก็รู้สึกเหมือนกับว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นจริง เราจำเหตุการณ์ได้ทั้งหมด จำได้แม้กระทั่งวิธีการหั่นศพของผู้ชายคนนั้น

พอเรามาถึงร้านในตอนเช้า ด้วยความสงสัยของเรา เราเลยลองไปถามกับพี่ที่เขาเปิดร้านขายของชำห้องติดกันว่า “เมื่อก่อนที่นี่เคยมีข่าวฆ่าหั่นศพไหมพี่?” พี่คนขายของชำได้ยินตอนนั้นก็ทำหน้าตกใจมาก เขาก็เลยเล่าให้ฟังว่า “เมื่อก่อนที่นี่มีข่าวฆ่าหั่นศพนั่นแหละน้อง เป็นผัวเมียคนงานก่อสร้างต่างด้าวที่มาทำตลาดน่ะ แต่เพราะอะไรไม่รู้นะผู้ชายมันถึงฆ่าผู้หญิง แล้วหั่นศพเป็นชิ้นๆ” แล้วพี่เขาก็เล่าต่อว่า “เมื่อก่อนแถวนี้มันเป็นป่า ตอนที่เกิดเรื่องน่ะ ตำรวจเขาไปเจอช่วงหัวของผู้หญิงไปอยู่แถวๆ หลังตลาด และเค้าว่า ช่วงตัวก็อยู่แถวๆ นี้นี่แหละนะ แต่คนที่นี่เขาปิดข่าวกัน เพราะว่าตอนนั้นตลาดกำลังสร้าง เขาก็เลยไม่อยากให้เป็นข่าวครึกโครม กลัวไม่มีคนมาขาย กลัวลูกค้าไม่กล้ามาซื้อของกันน่ะ” เราตั้งใจฟังที่พี่เขาเล่าด้วยความจริงจังจนเราเริ่มสงสัยอีก เราก็เลยถามพี่เขาว่า “แล้วมีใครเคยเจออะไรบ้างไหมพี่?” พี่เขาทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เขาก็เลยเล่าให้เราฟังต่อว่า “เอ้อ! พี่จำได้ละ เมื่อก่อนคนที่เช่าห้องเรา เขาก็นอนที่ห้องที่เราเช่านะ เขานอนในห้องเล็กๆ ที่อยู่หลังร้านน่ะ เท่าที่พี่เคยได้ยินคนในตลาดมาพูดให้ฟังนะ เขาเล่าว่า ... มีอยู่คืนหนึ่ง คนเช่าห้องเราคนเก่าน่ะ เขาเห็นผู้หญิงผมยาวๆ ใส่ชุดสีขาวๆ เสื้อผ้านี่เปื้อนเลือดไปหมด มายืนอยู่ปลายฟูกที่นอนเขา เขาตกใจกลัวมาก แล้วไม่นานเขาก็ย้ายออกไป” พอเราได้ยินตอนนั้นเราก็ตกใจมาก และพยายามนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง เลยเริ่มปะติดปะต่อได้ว่า ผู้หญิงคนที่เราฝันเห็นว่ากำลังโดนหั่นศพ ผู้หญิงคนที่น้องพนักงานเห็น และผู้หญิงที่คนเช่าคนเก่าเจอที่ทั้งหมดอยู่ในห้องเล็กๆ หลังร้าน บวกกับกลิ่นธูปที่ลอยมาให้เราได้กลิ่นนั้น น่าจะเป็นคนเดียวกันทั้งหมด เราจึงกลับมาเล่าเรื่องที่เราฝัน และเรื่องที่เราไปคุยกับพี่ร้านขายของชำให้แฟนเราฟัง เมื่อเล่าเสร็จเรากับแฟนก็คิดตรงกันว่า การที่เราสองคนถูกชะตาที่นี่ ทั้งๆ ที่ห้องสกปรกมาก และสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นเขาพยายามสื่อสารกับเราในรูปแบบต่างๆ มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพียงเพราะว่าเขาต้องการขอความช่วยเหลือจากใครสักคนแน่ๆ สุดท้ายเราสองคนก็เลยตกลงกันว่าเราจะไปทำบุญให้ผู้หญิงคนนั้น

Advertisement

Advertisement

พอมาถึงวันหยุดร้าน ตอนเช้าเรากับแฟนก็ไปวัดทำบุญถวายสังฆทานอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้หญิงคนนั้น และพอตกกลางคืนมา เราก็ฝันว่า ห้องแถวที่เราเช่าขายของนั้นกลับกลายเป็นห้องว่างเปล่าที่สะอาดตา ไม่มีข้าวของเครื่องใช้ที่ไว้ขายของอยู่เลย แต่ในห้องนั้นกลับตกแต่งไปด้วยดอกชบาสีแดงเต็มไปหมด พอเราเดินเข้าไปในห้องแถวนั้นก็พบว่า มีศพของผู้หญิงคนหนึ่งตั้งอยู่กลางร้าน ซึ่งสภาพศพของหญิงสาวนั้นดูสดใส สะอาดตา ใบหน้าผ่องนวลสวยงาม แต่ในมือที่ถูกมัดตราสังข์จากที่เป็นธูปเทียน และดอกบัวเหมือนทั่วไป ก็กลายเป็นธูปเทียน และดอกชบาสีแดงแทน พอเรารู้สึกตัวเราก็ตื่น แล้วเราก็เล่าให้แฟนฟังทันที เราสองคนก็เลยตีความกันว่า ดอกชบาสีแดง เป็นดอกไม้สีสันสวยงามที่หญิงสาวที่อยู่ตามต่างจังหวัดชื่นชอบ และน่าจะเป็นดอกไม้ที่ผู้หญิงคนนั้นชื่นชอบด้วยเช่นกัน เขาเลยจัดงานศพของเขาด้วยดอกชบาสีแดง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนคำบอกลา เพราะมันถึงคงอายุขัย และถึงเวลาที่เขาต้องจากไปแล้วจริงๆ

หลังจากที่เราฝันในครั้งสุดท้ายนั้น ทุกคนก็รับรู้ได้ถึงความว่างเปล่า ไม่มีความรู้สึกว่ามีใครอยู่ในห้องแถวนั้นด้วยเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว และกลิ่นธูปปริศนาที่เรากับแฟนเคยได้กลิ่นนั้นก็ไม่เคยมาให้เราสัมผัสอีกเลย

ปัจจุบันเจ้าของตลาดเขาต้องการขยายกิจการ เขาจึงได้ทำการทุบตึกแถวดังกล่าวนี้ทิ้งเพื่อไปสร้างใหม่ในที่ที่เขากำลังขยาย และปรับปรุงพื้นที่นี้ให้เป็นที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่มาซื้อของในตลาด เรากับแฟนจึงได้ย้ายออกมาจากห้องแถวนั้นมาเปิดร้านในที่ใหม่เรียบร้อยแล้ว

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์