ถ้าจะพูดถึงเรื่องราวของพญานาคทุกคนก็มักจะนึกถึงคำชะโนดเป็นที่แรก แต่เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการกล่าวขานกันอย่างมากมายในโลกอินเตอร์เน็ตว่า มีคำชะโนดอีกหนึ่งแห่งที่จังหวัดปทุมธานีใกล้ๆกรุงเทพฯนี่เองค่ะ เราได้มีโอกาสไปที่วัดแห่งนี้เลยมารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันวันนี้ค่ะ เมื่อขับตาม GPS มาเรื่อย ๆ เราก็จะเจอกับซอยเล็กๆที่ด้านหน้าเป็นซุ้มทางเข้าของวัด โดยมีพญานาค 2 ตัวม้วนพันหลักเสาอยู่ ที่นี่แหละค่ะคือที่ตั้งของวัดป่าคลอง 11 เมื่อมาถึงแล้วให้ทุกคนขับรถไปจอดที่บริเวณทางจอดนะคะเพราะเขาไม่อนุญาตให้ขับรถเข้าไปค่ะ จากนั้นให้มาที่เต็นท์ เพื่อมาซื้อตั๋วนั่งรถเข้าไปในวัดค่ะ รถของพี่ก็น่ารักค่ะเป็นรถทรงสูง สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา สีเหลืองน่ารัก รถทรงสูง ทำให้ไม่เหมาะกับเด็กและคนชรา หากพระผู้ใหญ่มาด้วยให้เดินไปบอกเจ้าหน้าที่เพื่อให้นำรถส่วนตัวเข้าไปในวัดได้ เมื่อมาถึงแล้วเราจะพบกับ ศาลากลางน้ำที่สวยงามตั้งอยู่ใจกลางบึงที่เขียวสะอาด จากนั้นให้เราไปซื้อดอกไม้กับทางวัดค่ะ ดอกไม้ของทางวัดจะเป็นดอกบัวพลาสติก และไม่มีเครื่องสักการะบูชาพญานาคขายแต่อย่างใด หากใครต้องการที่จะนำเครื่องบูชาพญานาคมาให้ซื้อจากทางด้านนอกเลย และถ้าหากต้องการจุดธูปก็ให้จุดจากทางด้านนอกเช่นกันนะคะไม่อนุญาตให้เข้าไปจุดในศาลากลางน้ำ จากนั้นให้เราเดินไปที่ศาลากลางน้ำอันนี้สามารถนำดอกไม้และของบูชา เข้าไปวางได้ค่ะ ทางด้านหน้าของศาลากลางน้ำจะเป็นรูปปั้นพญานาค สูงใหญ่สวยงาม และทางด้านซ้ายจะเป็นพระสยามเทวาธิราชส่วนทางด้านขวา ก็คือนาคมานพนาคราชนั่นเองค่ะ เมื่อเข้ามาทางด้านในของศาลาก็จะพบกับพระพุทธรูป นั่งขัดสมาธิอยู่บริเวณตรงกลาง สัดส่วนของพระพุทธรูปองค์นี้ให้ความรู้สึกอ่อนช้อยสวยงามมาก ๆ ค่ะ หลังจากที่กราบสักการะพระพุทธรูปเรียบร้อยแล้วให้เดินทะลุออกจากทางด้านหลัง เป็นสะพานเชื่อมไปยังอีกฟากหนึ่งค่ะ จากนั้นให้เราเดินเข้าไปในศาลาการเปรียญ ก็จะพบกับ สถานที่ไว้ถวายสังฆทาน และก็ได้ทราบภายหลังว่าที่เป็นวัดป่าสายปฏิบัติธรรม ไม่มีการขายเครื่องรางใด ๆ ทั้งนั้นรวมถึงไม่สนับสนุนการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ด้วย เมื่อข้ามฟากมาเราจะรู้สึกได้เลยว่าเหมือนเป็นอีกคนโลกหนึ่งกับทางด้านหน้า เพราะว่ามีความสงบเงียบ และมีความร่มเย็นของธรรมชาติเหมาะแก่การนั่งสมาธิอย่างมาก ซึ่งหากใครต้องการที่จะได้ของที่ระลึกจากวันนี้ไปแล้วก็เขามีนาฬิกา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจไว้บอกถึงเวลา ให้ซื้อไปฝากเป็นที่ระลึกได้ค่ะ เดินต่อเข้าไปอีกหน่อยจะพบกับศาลาหลังเล็กๆ ชื่อหอพุทธอรหันต์ที่ซึ่ง เก็บพระพุทธรูป ศิลปะล้านนาและพม่าเอาไว้ พระพุทธรูปไม้แกะสลัก สวยงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัว ส่วนตรงกลางของศาลาหลังนี้จะพบกับ ลูกหินก้อนใหญ่สีแดงซึ่ง ทางพระบอกกับเราว่าอันนี้คือลูกแก้วของพญานาคนั่นเองค่ะให้เราไปถูกกราบไหว้ขอพรกันได้ และข้าง ๆ กันนั้นก็ยังมีหินขอพรอีกด้วยโดยวิธีการขอพรก็ไม่ยากค่ะเพียงแค่เราตั้งจิตอธิษฐานแล้วยกก้อนหินก้อนนั้นขึ้นเพื่อเป็นการเสี่ยงดวงหากยกขึ้นในครั้งแรกก็แสดงว่าสิ่งที่เราขอจะประสบความสำเร็จนั่นเอง การได้มาทำบุญที่วัดแห่งนี้เหมือนได้มาพักผ่อนเพราะว่าความสงบเงียบ ๆ รวมถึง บรรยากาศเย็นสบายของน้ำที่ล้อมรอบบริเวณวัดแห่งนี้เอาไว้ ทำให้มีความคิดเล็ก ๆ ว่าสักวันหนึ่งคงอยากจะมาเริ่มปฏิบัติธรรมที่นี่ค่ะ หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจแล้วก็ อย่าลืมแวะเข้ามาที่นี่กันนะคะ แล้วคุณจะพบว่าวัดแห่งนี้ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด