ท่องเที่ยวสายแหลก คือคำนิยามที่เหมาะสมกับกรุ๊ปทัวร์ของเรา ผู้ซึ่งนิยมชมชอบกับการท่องเที่ยวที่ไม่เน้นเรื่องอื่นใด นอกจากอาหารการกิน รับรองทัวร์กรุ๊ปนี้มีให้คุณได้อิ่มหมีพลีมันกันอย่างแน่นอน หากใครชอบการท่องเที่ยวเดินทางที่ไม่ยากลำบากนัก ใช้เวลาออกเดินทางได้ทุกเมื่อ (ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นช่วงสาย ๆ ซะมากกว่านี่ละมั้งที่มาคำว่า สายแหลก ที่แท้จริง) และจุดเด่นเลยคือ เรื่องกิน เราคือเพื่อนกัน มาตามรอย ท่องเที่ยวสายแหลกอย่างเราได้ ท่องเที่ยวอย่างไรให้พุงกลม มา..ตามกันมาได้เลยจ้า วันนี้ขอเริ่มต้นที่ "ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า" ตลาดเก่าแก่เปิดมานานเกือบ 10 ปี โดยเริ่มต้นจากการที่ชาวบ้านขออนุญาติเจ้าอาวาสคนก่อน (หลวงพ่อสอน) ของวัดศาลเจ้ามาเปิดท้ายขายของในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ พ.ศ. 2540 เปิดตลาดขายของคู่กับร้านก๋วยเตี๋ยวที่เปิดขายมาอยู่ก่อนแล้ว ต่อมาทางวัดกับนโยบายของเจ้าอาวาสคนใหม่ จึงได้ร่วมกับท่านผู้ว่า นายอำเภอ และอบต.บ้านกลาง ร่วมกันพัฒนาตลาดให้ดียิ่งขึ้น มีโครงหลังคา ปูพื้นใหม่ให้น่าเดิน จัดวางระเบียบร้านค้า เพื่อชูให้ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า เกิดความคึกคักมาจนถึงปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามตลาดแห่งนี้จะขึ้นชื่อ โด่งดังไปไม่ได้เลยหากปราศจากร้านอาหารอร่อย ๆ ที่เป็นแรงดึงดูดให้ผู้คนหลั่งไหลกันเข้ามาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย และต้องขอบอกว่า ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า แห่งนี้ มีร้านดีร้านเด็ดขึ้นชื่อมากมาย วันนี้ในฐานะแฟนคลับตัวยงของตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้าแห่งนี้จึงอยากมาขอชี้พิกัดความอร่อยของร้านต่าง ๆ ให้ทุกท่านจะได้ไม่พลาดโอกาสเพิ่มน้ำหนัก เอ๊ย..ไม่ใช่โอกาสอิ่มอร่อย โดนใจกัน การเดินทางมาที่ ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้าแห่งนี้ ก็ตามสไตล์การท่องเที่ยวแบบเรา ๆ ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์ชื่อ วัดศาลเจ้า หรือ วัดมะขาม ลงบน Google map เพียงเท่านี้เส้นทางการเดินทางก็จะปรากฎอยู่ในมือคุณแล้ว สงสัยกันแล้วสิว่า ตกลงวัดนี้ชื่อวัดศาลเจ้า หรือวัดมะขาม จะได้ไปได้ถูกทาง ความจริงแล้ววัดไม่ได้มีสองชื่อนะจ๊ะ แต่เป็นวัดที่อยู่ติดกัน ทั้งวัดมะขาม และวัดศาลเจ้า หากใครสายบุญ ต้องแวะมากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เซียนแปะโรงสี หรือ เซียนแปะกินเคย ฆราวาสชาวจีนผู้เรืองเวย์ ว่ากันว่าใครอยากขอพรเกี่ยวกับการทำมาค้าขายให้มาขอพรกับท่านมักจะสำเร็จสมดั่งใจทุกราย แต่ประวัติของท่านที่เราได้ยินจากอาก๋งของเรา ท่านเป็นเจ้าของโรงสีผู้ใจบุญ คอยช่วยเหลือผู้คน โดยเฉพาะชาวจีนในสมัยนั้นที่มีความยากลำบากในการทำมาหากินหลังจากอพยพมาจากจีนเข้าไทยใหม่ ๆ ก็ได้ท่านคอยช่วยเหลือต่าง ๆ เพียงแค่นี้เราก็อยากมากราบไหว้ ขอบคุณในความใจบุญของท่านแล้ว คำจากปากผู้เฒ่าผู้แก่ก็เป็นหลักฐานได้ว่าประวัติของท่านมีที่มาที่ไปจริง เอ้า...ใครอยากค้าขายดี รุ่งเรืองก็อย่าลืมแวะมาสักการะ เซียนแปะโรงสี กันได้ที่วัดมะขามแห่งนี้ นอกจากท่านแล้วในวัดยังมีอุโบสถที่สวยงาม เจดีย์แบบรามัญ สร้างโดยเจ้าน้อยมหาพรหม บุตรเจ้าเมืองฝ่ายเหนือ ที่หาชมได้ยากอีกด้วย ต่อจากทำบุญแล้วก็ต้องทำทาน ด้วยการให้อาหารปลาที่โป๊ะริมน้ำที่ทางวัดจัดไว้เป็นสัดเป็นส่วน มีบริการอาหารปลา ขนมปังไว้เสร็จสรรพ บรรยากาศดีงาม เสร็จจากงานบุญก็มาสายแหลก สายกินอย่างเรากันแล้ว เดินมาจากวัดมะขามก็เป็นวัดศาลเจ้าที่มีบริเวณพื้นที่ใกล้กันจนสามารถเดินถึงกันได้เราก็มาถึง โครงหลังคาใหญ่สีแดง ตั้งตระหง่าน นั่นคือ ที่ตั้งตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า สามารถจอดรถได้บริเวณโดยรอบในพื้นที่วัด ที่เขาจัดสรรไว้ให้เป็นอย่างดี ไม่รอช้าเรามาทำความรู้จักกับร้านรวงต่าง ๆ ที่มาแล้วห้ามพลาดกันเลยดีกว่า เริ่มจาก 1. ร้านหมึกย่างเจ้าเด็ด เป็นร้านปลาหมึกย่างที่มีน้ำจิ้มรสแซ่บ เด็ดมาก ๆ เจ้าของร้านบอกว่าน้ำจิ้มทำเองกับมือ ปลาหมึกย่างก็หอมกรอบอร่อยเพราะย่างด้วยเตาถ่าน มีทั้งเนื้อปลาหมึก ปากปลาหมึก ไข่ปลาหมึก และหนวดปลาหมึก ไม้ละ 20-25 บาทเท่านั้น ใครไม่เคยชิมปากปลาหมึกต้องมาลองสักครั้ง มันกรอบ ๆ เด้ง ๆ อร่อยบอกไม่ถูกเลย พิกัดร้าน หน้าทางเข้าตลาดฝั่งขวาใกล้กับทางเข้าศาลเจ้า ตรงข้ามร้านขนมไทยโบราณแม่สมพร ห่อหมกปลาช่อน คะแนนความอร่อยจากผู้เขียนเอง 9/10 2. ร้านขนมไทยโบราณแม่สมพร มีขนมกล้วย ขนมตาล ขนมฟักทอง ขนมชั้นใบเตย ลูกชุบ ลอดช่องน้ำกะทิ เป็นแนวขนมไทยโบราณที่ทำสดให้เห็น ๆ กันในตลาดเลย ใครชอบทานขนมหวานห้ามพลาด จะซื้อเป็นของฝากก็เป็นที่ชื่นชอบบรรดาสาวน้อย สาวใหญ่กันยิ่งนัก สนนราคาก็ไม่แพงกล่องละ 25 30 บาทเท่านั้น พิกัดร้าน ตรงทางเข้าตลาดฝั่งขวาใกล้กับทางเข้าศาลเจ้า คะแนนความอร่อยจากผู้เขียนเอง 9/10 3. ร้านกุ่ยช่ายเจ้มล เป็นร้านกุ่ยช่ายร้านแรก ๆ ของตลาดแห่งนี้เลยก็ว่าได้ มีประวัติความเป็นมาให้อ่านเพลิดเพลินในหลาย ๆ รีวิว แต่ถ้าเราขอพูดเรื่องรสชาติอย่างเดียวก็พอ เป็นกุ่ยช่ายแป้งบางนึ่งร้อน ตัวผักกุ่ยช่ายเขียวสวย คัดมาอย่างดี ปรุงรสได้ที่ ทานกับน้ำจิ้มรสเผ็ด หวาน เค็ม กำลังดี ไม่มีกลิ่นแป้งให้กวนใจ ราคากล่องละ 30 บาท มีทั้งไส้กุ่ยช่าย ไส้หน่อไม้ ไส้เผือก พิกัดร้าน ตรงไปสุดทางอยู่ริมฝั่งซ้าย เปิดเป็นตึกแตกต่างจากร้านค้าล็อกทั่ว ๆ ไป คะแนนความอร่อยจากผู้เขียนเอง 9/10 4. ร้านขนมปลากิมไข่เต่า และขนมไทย ขนมปลากิมไข่เต่าที่นับวันจะหาทานยากสักหน่อย แต่มีให้เห็นที่ตลาดแห่งนี้ รสชาติหวานน้ำตาลเคี่ยวตัดกับความเค็ม มันของกะทิ ใครไม่เคยกินต้องลอง ราคาเพียง 20 บาท พิกัดร้าน ข้างร้านกุ่ยช่ายเจ้มล ติดริมแม่น้ำ คะแนนความอร่อยจากผู้เขียนเอง 7/10 5. ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ(นายทองสุข) ร้านนี้ถือเป็น Signature ของตลาดแห่งนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่เปิดก่อนตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นรูปเป็นร่างแบบในปัจจุบัน เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ที่อร่อยแทบทุกเมนู ราคาน่าคบ ชามละ 20 บาท และที่เด็ดต้องอย่าลืมสั่งมาทานคือ หมูสเต๊ะ แต่ขอบอกต้องรีบมาหน่อยเพราะหมดเร็วมาก บางวันเสียบไม้ไม่ทันก็อดชิมไปตามระเบียบ พิกัดร้าน อยู่ในสุดของตลาด ติดกับริมแม่น้ำเลย คะแนนความอร่อยจากผู้เขียนเอง 10/10 วันนี้พามาตะลอนชิมกับท่องเที่ยวสายแหลกกันพอหอมปากหอมคอ 5 ร้านเด็ดเบา ๆ แต่ต้องบอกก่อนว่าตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีของอร่อยให้คุณได้ลองชิม ติดใจซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันไปเต็มมือกันอีกหลายร้าน หลายเจ้าเด็ด เช่น ข้าวแต๋นน้ำแตงโม กุ้ง ปูแพทอดกรอบ ห่อหมกร้านตาเรศ โตเกียวกรอบ คงจะรีวิวกันไม่หมดในที่นี้ ขอแค่ชี้เป้าให้ไปลองลิ้มชิมกันเอาเองแล้วกัน รับประกันว่าเด็ดทุกร้าน ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้าแห่งนี้ เปิด อังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เช้าถึงเย็น หยุดวันจันทร์ ยังไงลองไปเองแล้วคุณจะได้บรรยากาศประทับใจกลับมาทั้งสายบุญ สายกิน ครบจบในที่เดียว ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่ปทุมธานีแค่นี้เอง ภาพประกอบโดย Buakhow(ผู้เขียน)