ภาพปกจาก https://www.freepik.com/free-photo/obesity-waist-workout-woman-belly_1109029.htm#page=1&query=woman%20belly&position=35 “พุง” หรือเนื้อส่วนเกินที่ยื่นออกมาจากหน้าท้อง อันเป็นที่ไม่พึงประสงค์ของบรรดาสาว ๆ หนุ่ม ๆ แทบทุกคน แถมเกิดก็ง๊ายง่าย แต่จะกำจัดออกนั้นยากสุด ๆ ! เห็นทีไรก็ปวดใจ ไม่ว่าจะทำยังงั๊ยยังไง ออกกำลังกายก็แล้ว ควบคุมอาหารก็แล้ว น้องพุงเจ้ากรรมของเราก็ยังติดหนึบอยู่กับเราไม่ไปไหนซะที! ทำเอาใครหลาย ๆ คนที่กำลังลดน้ำหนัก เพื่อหุ่นสวย ๆ หน้าท้องแบนราบ เอวเอสในฝัน อาจต้องท้อจนล้มเลิกกันไปเสียก่อน แต่อย่าเพิ่ง! วันนี้ถ้าเพื่อน ๆ ได้เปิดมาเจอบทความนี้แล้วล่ะก็ คุณมาถูกทางแล้ว ผู้เขียนจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับเจ้า”พุง”แบบหมดไส้หมดพุง! ตามสุภาษิตว่าไว้ใช่ไหมล่ะ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักของเพื่อน ๆ ในการลดพุงให้หายไปได้อย่างเห็นผลมากที่สุด เราต้องทำความรู้จักกับพุงให้มากขึ้นเสียก่อน ไปดูกันเลยดีกว่า! ความจริงช็อคโลกที่หลาย ๆ คนไม่รู้คือ “พุงนั้นไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกาย” เอาล่ะ เริ่มน่าสนใจขึ้นแล้วใช่ไหม สำหรับใครที่ไม่ชอบออกกำลังกาย ใจชื้นได้เลยค่ะ เพราะบทความนี้บอกได้เลยว่า กว่า 90% ของการลดพุง เกิดจากการเลือกกินอาหารล้วนๆ ภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/woman-measuring-her-tummy-weight_2756996.htm ส่วนประกอบของพุงมีอะไรบ้าง 1) ไขมันหน้าท้อง ไขมันส่วนนี้จะสะสมอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณหน้าท้อง เป็นไขมันส่วนที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดและมักถูกเข้าใจว่าเป็นสาเหตุหลักสำหรับคนที่มีพุง สามารถทดสอบได้ว่าเพื่อน ๆ มีการสะสมของไขมันส่วนนี้อยู่มากเกินไปหรือไม่ด้วยการจับเนื้อบริเวณพุงช่วงล่าง ถ้าสามารถจับขยุ้มได้ล่ะก็ มีการสะสมของไขมันในชั้นนี้อย่างแน่อน ยิ่งจับได้เต็มไม้เต็มมือมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีมากเท่านั้น! ภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/man-holds-his-fat-tummy_5954053.htm#page=1&query=belly%20fat&position=2 2) ไขมันในช่องท้อง ไขมันในช่องท้องของเราจะเกาะอยู่บริเวณลำใส้ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการแขม่วท้องช่วงล่างให้ยุบที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ว่าสามารถลดลงไปที่ระดับใต้กระบังลมได้ไหม ถ้าไม่ได้แปลว่าไขมันในช่องท้องของเพื่อน ๆ มีเยอะเกินไปจนเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้พุงใหญ่จากภายในนั่นเองค่ะ ภาพโดย ผู้เขียนวาดเอง (ccozy_warm_night) 3) ลมในท้อง ลมในท้อง เป็นสาเหตุที่หลาย ๆ คนมองข้าม หากอยากรู้ว่าพุงของเราใหญ่จากสาเหตุนี้ด้วยหรือเปล่าให้สังเกตุได้จากหลังตื่นนอนขณะท้องว่าง แล้วหน้าท้องของเรายุบลง หรือแบนราบ แต่เมื่อเริ่มรับประทานอาหารมื้อแรกเมื่อไหร่พุงกลับเริ่มป่องขึ้น นั่นแหละค่ะ ลมในช่องท้องเกิดขึ้นแล้ว สาเหตุหลัก ๆ เกิดจากการที่ระบบย่อยของเราทำงานได้ไม่เต็มที่นั่นเอง ซึ่งวิธีแก้เบื้องต้นคือต้องรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับลำไส้ของเรา ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปลงลึกกันในวิธีกำจัดพุงท้าย ๆ บนความนะจ๊ะ รอแป็บนึง อิอิ ภาพโดย ผู้เขียนวาดเอง (ccozy_warm_night) 4) ขาดกล้ามเนื้อ ข้อนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เอวของเราไม่คอดนั่นเอง เพื่อน ๆ บางคนอาจจะลดพุงลงได้สำเร็จ แต่กลับเป็นหุ่นทรงตรงหรือย้วย ไม่มีเอวคอดเป็นตัวเอส อย่างที่ไฝ่ฝัน เนื่องจากเราขาดกล้ามเนื้อบริเวณข้างท้องนั่นเอง ดังนั้นการออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ สำหรับใครที่ต้องการมีหุ่นสวยไร้ที่ติก็ต้องมีการออกแรงเพิ่มเติมนะคะ ภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/woman-fat-folds-waist_5000001.htm วิธีการกำจัดพุง ก่อนอื่นต้องขอให้เพื่อน ๆ ทำใจกันไว้ก่อนเลยนะคะ ว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา เพราะว่าในบรรดาไขมันส่วนต่างๆที่สะสมอยู่ในร่างกายของเรา พุงนั้นจะลดลงได้เป็นอย่างสุดท้ายค่ะ ดังนั้นหากจะให้เห็นผลปุ๊บปั๊บนั้นคงเป็นไปไม่ได้ ต้องใจเย็นเย็นแล้วค่อย ๆ ทำตามนี้ทุกข้อนะคะ ลดได้แน่นนอน 1. ลดและงดสารอาหารจำพวก “คาร์โบไฮเดรต” ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนร่างกายไม่มีทางเลือก ต้องหันมาปรับตัวเป็นโหมด “ใช้พลังงานจากไขมัน” แล้วไขมันที่หน้าท้องก็จะค่อย ๆ หมดไปเองค่ะ ข้อนี้เป็นคีย์หลักและสำคัญมากๆเลยนะคะ เพราะร่างกายของเรามักใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเป็นหลักก่อน หากใช้ไม่หมดก็จะสมสมเป็นไขมันทีหลัง ทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายนั้นมากขึ้นเรื่อยๆจนเราอ้วน พุงป่องอย่างที่เห็น เพราะไขมันไม่เคยได้ถูกนำออกมาใช้งานเลย ดังนั้นถ้าอยากให้ไขมันที่สะสมไว้ถูกเอาออกมาใช้งาน จำเป็นต้องลดคาร์โบไฮเดรตให้ได้ระดับต่ำที่สุด จนร่างกายต้องใช้พลังงานจากไขมันแทนตลอดเวลาเท่านั้นไขมันจึงจะหายไปแบบยั่งยืน หรือที่เรียกว่า สภาวะ Ketosis ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับการไดเอทแบบ "คีโต" ที่เราคุ้นเคยนั่นเอง ภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/assortment-simple-carbohydrates-foodlight table_7608253.htm#page=1&query=carbohydrate&position=6 2. ออกกำลังกายเบา ๆ ยามเช้าก่อนอาหาร เนื่องจากขณะที่เราท้องว่างยามเช้า ร่างกายยังไม่ได้รับสารอาหารใด ๆ นั้นถือเป็นโอกาสทองในการนำไขมันเก่าที่ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในร่างกายของเราออกมาใช้เป็นขุมพลังงานได้เป็นอย่างดี รู้งี้แล้วก็ตื่นเช้า ๆ ออกวิ่งจ็อกกิ้งเบา ๆ สูดอากาศ รับแดดอ่อน ๆ ยามเช้ากันเถอะ แต่มีข้อควรระวังนิดหน่อยนะ เนื่องจากการใช้พลังงานจากไขมันนั้น ร่างกายจะค่อย ๆ เอาออกมาใช้ ไม่พุ่งแรงเหมือนพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นห้ามออกกำลังกายหนักเด็ดขาด อาจเป็นอันตรายได้ค่ะ ภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/couple-training-morning_866655.htm#page=1&query=Jogging&position=8 3. ทำ IF (Intermittent Fasting) 16/8 โดยเริ่มมื้อแรกหลังเที่ยง หรือการตัดมื้อเช้าทิ้ง เริ่มที่มื้อกลางวัน และ เย็น โดยมื้อเย็นไม่ควรรับประทานอะไรก่อนนอนไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ข้อนี้อาจขัดต่อความรู้สึกของใครหลาย ๆ คนที่เคยรับรู้กันมาว่า อาหารเช้าสำคัญที่สุดใช่ไหม แต่ฟังเหตุผลกันก่อนนะ ที่จริงเราทุกคนมีอาหารทิพย์อยู่ในตัวของเราอยู่แล้ว นั่นก็คือไขมันสะสมนั่นเอง ดังนั้นเราจึงสามารถ "กินไขมันที่พุงของเราเป็นอาหารเช้า" ได้ ซึ่งข้อนี้จริงๆกระบวนการลดไขมันก็เหมือนกับข้อ 1 และ 2 เพราะขณะที่เราท้องว่างร่างกายจะดึงไขมันเก่าที่สะสมอยู่ออกมาใช้เป็นพลังงานแทนการเติมอาหารเช้าของเราเข้าไปนั่นเอง พุงก็จะค่อย ๆ หายไป ภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/close-up-female-hands-shaping-heart-belly_1147738.htm 4. เลือกกินอาหารที่เหมาะกับลำไส้ของเรา ข้อนี้มาแก้เกมส์ลมในช่องท้องเลยค่ะ เพราะสาเหตุของลมในช่องท้องนั้นมาจากอาหารที่เราใส่เข้าไปนั่นเอง เราต้องค้นหาตัวเองว่าเราถูกกับอาหารอะไรบ้าง แพ้อาหารอะไรบ้าง ต้องสังเกตุเอาเองนะ ดูได้จากกินอะไรแล้วย่อยง่าย ไม่เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย เพื่อให้ง่ายต่อการย่อยและขับถ่ายออกมา ไม่เกิดการค้างของเศษอาหารไว้ในลำไส้นานซึ่งจะปล่อยก๊าสจนเป็นบ่อเกิดของลมในช่องท้องนั่นเอง ซึ่งข้อนี้เราอาจต้องหมั่นสังเกตตัวเองกันหน่อยนะ เพราะแต่ละคนถูกหรือแพ้อาหารไม่เหมือนกัน ภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/healthy-people-salad-food-woman_1125799.htm#page=1&query=eat&position=38 5. ไม่กินอาหารหลาย ๆ ชนิดพร้อมกันเยอะเกินไป ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญของการปราบลมในท้องเช่นกันค่ะ การรับประทานอาหารหลายๆชนิดพร้อมทีเกียวกันก็เป็นสาเหตุให้เกิดลมในช่องท้องเช่นกัน เมื่ออาหารเข้าไปรวมตัวกันมากๆลำไส้จะทำงานหนักและทำการย่อยได้ไม่เต็มที่ จนมีอาหารค้างนานในลำไส้เกิดเป็นก๊าซได้เช่นเดียวกัน แนะนำว่าในหนึ่งมื้อไม่ควรเกิน 3 - 4 อย่างก็เพียงพอแล้ว ภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/close-up-two-women-having-lunch-together-cafe_7572144.htm 6. ออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อท้องเพิ่มความกระชับ อาจเป็นการแพลงค์ หรือซิทอัพ หรือเวทเทรนนิ่งแบบต่าง ๆ ตามแต่ที่เพื่อน ๆ ถนัดเลยนะคะ ได้ผลทั้งหมด แต่ที่อยากแนะนำสำหรับบทความนี้ก็คือการฝึกโดยการแขม่วหน้าท้อง หรือการทำ Stomach Vacuum ซึ่งก็คือการฝึกแข่มวหน้าท้องช่วงล่างจนสุด(จินตนาการว่าสุดราวกับจะติดแผ่นหลัง) ค้างไว้ 20-60 วินาที ต่อครัง เซ็ตละ 10-15 ครั้ง 3 เซ็ต วิธีนี้เรียบง่าย ตรงไปตรงมา และสามารถทำได้ตลอดเวลาด้วยนะ นึกขึ้นตอนไหนได้ก็ทำตอนนั้นแหละ เพียงเท่านี้กล้ามเนื้อเอวเอสของเราก็เริ่มมาแล้ว ภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/young-woman-having-stomach-pain-sitting-sofa-home-close-up_2584065.htm สุดท้ายนี้ขอย้ำอีกครั้งนะคะว่า “พุงนั้นไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกาย” อยากให้เพื่อน ๆ โฟกัสที่ควบคุมอาหารเป็นหลัก 90% อย่าลืมลดคาร์โบไฮเดรตให้ได้มากที่สุด เพื่อบีบให้ร่างกายของเราใช้ไขมันเป็นพลังงานตลอดเวลา เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สรุปง่าย ๆ ทำให้ร่างกายของเรา “กินไขมันที่พุงที่เป็นอาหาร” ให้ได้ นั่นก็คือการเน้นที่ข้อ 1 และ 2 การออกกำลังกายก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การลดพุงได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าหากไม่ปรับวินัยการกิน โหมออกกำลังกายอย่างไรพุงก็ไม่ลดนะจ๊ะ