สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ สายบิวตี้ที่รักทุกคน ตั้งแต่ช่วงปิดเมืองสู้โควิด-19 เป็นต้นมา ภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองก็เล่นงานพวกเราอย่างหนักหน่วง เชื่อว่านอกจากขยันคิดวิธีทำงานหารายได้เพิ่มแล้ว สาว ๆ ทุกคนก็พยายามลดค่าใช้จ่ายกันทุกวิถีทางเช่นกัน และสถานการณ์ก็คงจะต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานทีเดียว ดังนั้น เราจะมาแบ่งปันเคล็ดลับการซื้อและใช้เครื่องสำอางแบบสุดประหยัด ตัดสิ่งฟุ่มเฟือย สูงสุดคืนสู่สามัญ! รวมถึงแนะนำรุ่นและยี่ห้อให้ด้วยค่ะ 1. แป้งผสมรองพื้น โดยมากแล้ว สิ่งที่กินเงิน(และกินเวลา)พวกเราในการแต่งหน้ามากที่สุด มักจะเป็นงานผิวนะคะ ราคารองพื้นและคอนซีลเลอร์ในท้องตลาดนี่แพงเอาเรื่องทุกยี่ห้อ อย่างต่ำ ๆ ก็ 400-500 บาท เมื่อทาเสร็จแล้วก็ต้องใช้แป้งฝุ่นทาทับอีก ในช่วงเวลาที่ต้องเก็บออมเงิน ถ้าตัดจุดนี้ออกไปได้ก็จะประหยัดได้เยอะ แต่แล้วถ้าใช้แต่แป้งผสมรองพื้น หากต้องการปกปิดให้หนาหน่อยจะทำอย่างไร ก็ให้นำแผ่นพัฟฟ์ฟองน้ำไปชุบน้ำ บิดหมาด แล้วค่อยมาแตะแป้ง พัฟฟ์จะดึงเนื้อแป้งออกมาในปริมาณเยอะขึ้นมาก ๆ (เทคนิคนี้กองประกวดนางงามสาวประเภทสองเขาใช้กัน) เราก็กดย้ำลงไปบนรอยด่างดำและเกลี่ย คล้ายกับเวลาลงรองพื้นตลับหรือคุชชั่นค่ะ แป้งผสมรองพื้นถูกและดี ที่เราขอแนะนำคือ Maybelline New York Clear Smooth All In One Spf32 PA+++ ราคา 149 บาท https://shopee.co.th/เมย์เบลลีน-นิวยอร์ก-เคลียร์-สมูท-ออล-อิน-วัน-เอฟพีเอฟ32-พีเอ-แป้งผสมรองพื้น-9-กรัม-(แป้งพัฟ-แป้งผสมรองพื้น)-i.29668843.907679717 2. อายแชโดว์สีพื้นฐาน จริงอยู่ที่การแต่งตาด้วยสีสันสดใสระยิบระยับนับเป็นความสนุกอย่างหนึ่ง แต่ในช่วงเวลารัดเข็มขัด ข่มใจไว้อย่าซื้อพาเล็ตต์ที่มีสีแปลก ๆ แพง ๆ เลยค่ะ เสียดายถ้าไม่ได้ใช้จนหมดแล้วมันเก่าจนต้องทิ้ง เลือกแบบที่มีครบสีพื้นฐานก็เพียงพอแล้ว อย่างน้อยที่สุดต้องมี 3 ช่องสี ได้แก่ สีน้ำตาลเทา สำหรับทาคัดเบ้าตา ไล้เงาดั้งจมูก กรอบหน้า พวกนี้ใช้นิ้วทาได้เลย และก็เขียนคิ้วกับขอบตา โดยใช้พู่กันหัวตัด (ถ้าต้องการสีเข้มมาก ก็จุ่มน้ำก่อนได้ค่ะ) สีชมพู หรือสีส้มพีช สำหรับทาเปลือกตา และทาแก้ม หากต้องการทาปากด้วยก็ได้ โดยผสมผงอายแชโดว์เข้ากับลิปมันหรือปิโตรเลียมเจลลี่ สีขาว หรือสีทอง สำหรับไฮไลต์ สันจมูก เหนือริมฝีปาก โหนกแก้ม ใต้ท้องคิ้ว แค่นี้ก็แต่งเสร็จเรียบร้อยได้ทั้งหน้าค่ะ โทนสีสุภาพเป็นธรรมชาติ พบปะลูกค้าและครอบครัวแฟนได้สบาย พาเล็ตต์ที่เราแนะนำคือ Catrice The Fresh Nude Collection Eyeshadow Palette ราคา 255 บาท https://shopee.co.th/Catrice-The-Fresh-Nude-Collection-Eyeshadow-Palette-010-i.84970059.1909743350 3. ลิปสติก ข้อนี้เป็นการกลับกันกับอายแชโดว์เมื่อครู่นะคะ ถ้าใครชอบลิปสติก ก็สามารถใช้ลิปสติกแบบเนื้อครีมหรือทินต์ ที่เป็นสีชมพูหรือส้ม ทาปาก แก้ม และเปลือกตาได้ (แต่แน่นอนว่าเป็นการลงทุนที่ใช้ไม่ได้ครบทั้งหน้าเท่าพาเล็ตต์อายแชโดว์เนอะ เพราะเราจะขาดคิ้วกับเฉดดิ้งหน้า) ระวังอย่าซื้อพวกลิควิดลิปแบบแห้งเร็ว เพราะอาจจะทำให้เราเกลี่ยสีแก้มหรือเปลือกตาไม่ทัน นอกจากนี้ ลิปสติกสีชมพูออกแดง สามารถใช้เป็น colour corrector แต้มเบา ๆ ตรงพื้นที่สีคล้ำใต้ตา หรือรอยด่างดำที่ออกเขียว เพื่อแก้สีให้เป็นกลาง ก่อนทาแป้งผสมรองพื้นทับค่ะ ตัวที่แนะนำคือ In2It Lasting Lipstick กันแดดกันน้ำได้ มีให้เลือก 10 สี ราคา 199 บาท https://www.in2itcosmetics.com/2018/index.php?route=product/product&path=65&product_id=104 4. ยาทาเล็บสีใส เราสามารถเทยาทาเล็บใสลงในฝาขวดน้ำหรือถ้วย แล้วนำผงอายแชโดว์มาเทใส่ผสม เพื่อให้ได้สีเดียวกับอายแชโดว์นั้นได้ค่ะ วิธีนี้ทำให้สีเล็บของเราเข้ากับสีเครื่องสำอางบนหน้าพอดีเป๊ะ ไม่ต้องปวดหัวและเปลืองเงินกับการเลือกซื้อยาทาเล็บหลายสีอีกต่อไปแล้ว เวลาจะเก็บยาทาเล็บ ก็ปิดขวดให้แน่นแล้วใส่ถุงพลาสติกใส จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็น ยืดอายุไม่ให้ยาทาเล็บข้นแห้ง เราเก็บแบบนี้ใช้ได้ถึงสามปีเลยค่ะ ยาทาเล็บใสส่วนใหญ่ราคาใกล้เคียงกันและไม่แพงมากอยู่แล้ว ที่เราใช้คือ Jurness ราคา 59 บาท https://www.watsons.co.th/jurness-nail-polish-glossy-top-coat-13ml.-n004/p/BP_287783 5. ช้อปเครื่องสำอางปีละครั้งเดียว เพื่อหยุดกิเลสที่โผล่ขึ้นมาทุกครั้งที่เดินผ่านร้านเครื่องสำอาง หรือบังเอิญเจอโฆษณาตามเว็บไซต์เข้า เราใช้วิธีซื้อเครื่องสำอางเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น คือ ช่วงปีใหม่ที่ทุกแบรนด์แข่งกันลดราคา (ถ้าใครจะเปลี่ยนเป็นตอนวันคนโสด 11/11 ก็ได้นะคะ) ซื้อเฉพาะของพื้นฐานที่จำเป็น หรือของสุดปรารถนาเล็งมาตลอดทั้งปี ป้องกันไม่ให้เผลอซื้อตามใจอยากถี่ ๆ เดี๋ยวออมเงินไม่อยู่ พอซื้อเสร็จแล้ว ก็ใช้เป็นโอกาสเคลียร์เครื่องสำอางเก่าทิ้งไปค่ะ เพราะบางอย่างเปิดใช้มานาน โดนอากาศโดนนิ้วเรา มันอาจจะเกิดสิ่งสกปรกหมักหมมหรือเสื่อม พยายามอย่ากักตุนเครื่องสำอางเยอะ ๆ รก ๆ บนโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะแทนที่จะแต่งหน้าได้สวยและรวดเร็วอย่างช่างมืออาชีพ เรากลับจะเสียเวลาเลือกและใช้ไม่คุ้มสักอย่างจนมันหมดอายุไป นอกจากวิธีลดค่าใช้จ่ายด้านความงามแบบนี้แล้ว สิ่งที่ทำให้พวกเราใช้เครื่องสำอางน้อยลงได้ ก็คือผิวหน้าที่ดี ดังนั้นอย่าลืมพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ รักษาความสะอาด ดื่มน้ำเยอะ ๆ และกินผักผลไม้ที่มีวิตามิน เพื่อจะได้ไม่ต้องเปลืองเงินทองมาซื้อผลิตภัณฑ์ปกปิดข้อบกพร่องบนใบหน้าให้มากเกินไป พร้อมกับได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไปด้วยค่ะ เครดิตภาพจากเว็บรูปฟรี ภาพปก Photo by Element5 Digital on Unsplash ภาพประกอบที่ 1 Photo by Glow Repose on Unsplashภาพประกอบที่ 2 Photo by freestocks on Unsplash ภาพประกอบที่ 3 Photo by Marek Studzinski on Unsplash ภาพที่ 4 Element5 Digital on Unsplash ภาพประกอบที่ 5 Photo by Marcin Kempa on Unsplash