ขอขอบคุณภาพประกอบจาก https://pixabay.com/th/photos/3949199/ กินไข่ดี มีประโยชน์ ร่างกายแข็งแรง ทุกท่านคงไม่ปฏิเสธว่า ไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี และมีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ ไข่เป็ดหรือไข่นกกระทา แต่ไข่ที่ได้รับความนิยมนำมาประกอบอาหารมากที่สุดก็คือ ไข่ไก่ ปัจจุบันความต้องการของผู้บริโภคไข่ไก่เพิ่มมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่า ไข่ไก่ราคาถูกกว่าแหล่งโปรตีนชนิดอื่น ๆ หาซื้อง่าย และนำมาปรุงอาหารได้ทั้งคาว และหวาน อาชีพการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่จึงเพิ่มตามไปด้วย โดยเฉพาะเกษตรกรที่อยู่ต่างจังหวัด จะเลี้ยงไก่ไข่เป็นอาชีพเสริม และเกษตรกรบางรายเลี้ยงเป็นอาชีพหลักก็มี การเลี้ยงไก่มีทั้งเลี้ยงแบบระบบปิด และระบบเปิด เกษตรกรส่วนใหญ่จะเลี้ยงแบบระบบเปิดเพราะต้นทุนในการเลี้ยงถูกกว่าระบบปิด ก่อนที่จะเลี้ยงไก่เราก็ต้องดูทำเลก่อนว่าเป็นอย่างไร อย่าให้อยู่ในที่ลุ่ม หรือที่เป็นแอ่งกระทะเด็ดขาด เพราะเวลาฝนตก น้ำจะท่วมขัง ทำให้ไก่ป่วย และเป็นโรคต่าง ๆ ขอขอบคุณภาพประกอบจาก https://pixabay.com/th/photos/4284299/ การเลี้ยงไก่แบบระบบเปิดก็เหมือนกับการเลี้ยงตามธรรมชาติ ทำได้โดย กันพื้นที่สำหรับการเลี้ยง อาจจะล้อมรั้วให้เป็นสัดส่วน แยกออกให้ห่างจากตัวบ้าน ภายในจะสร้างเป็นโรงเรือนไว้ให้ไก่นอน หลบแดด หลบฝน กันลม และทำรังไข่ไว้ให้ไก่ไข่ด้วย โดย 1 รัง ต่อแม่ไก่ 1 ตัว รังไข่ตามต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะใช้เข่ง รองด้วยฟางกับใบตะไคร้ ป้องกันไรเข้าไปไต่แม่ไก่ หรือทำรังไข่แบบเป็นรางไม้ยาว ๆ ใส่ใบตะไคร้และฟางลงไปก็ได้เช่นกัน รังไข่จะต้องทำให้สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วม หมา แมว หนู และงูเข้าไปรบกวนหรือทำร้ายแม่ไก่ พื้นโรงเรือนจะต้องเทปูนแล้วปูทับด้วยแกลบ ฟางข้าว และขี้เลื่อย เวลาไก่เดินจะนุ่มเท้า นอกจากนี้จะต้องมีน้ำให้ไก่กินตลอดเวลา ขอขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/ 4460371/ พันธุ์ไก่ที่นิยมเลี้ยงกันมากที่สุดก็คือ พันธุ์ โรดไอแลนด์เรด ลักษณะของไก่พันธุ์นี้ก็คือ ขนจะสีแดงตลอดทั้งตัว เว้นแต่ตรงปลายปีก และหางซึ่งจะเป็นสีดำ ให้ไข่ดก ไข่ฟองใหญ่ ไก่เริ่มไข่ เมื่ออายุได้ 160 วัน อาหารไก่จะเป็นอาหารสำเร็จรูปสำหรับไก่ โดยให้ตามระยะอายุ ถ้าเลี้ยงระบบเปิด เราปล่อยให้ไก่ออกไปจิกกินแมลงตามพื้น ซึ่งเป็นโปรตีนตามธรรมชาติ นอกจากนี้เกษตรกรสามารถเสริมอาหารไก่ด้วยพืชผักที่หาได้ในท้องถิ่น ดังนี้ ใบตำลึง แต่จะต้องเป็นใบตำลึงตัวเมียเท่านั้น ถ้าให้ไก่กินใบตำลึงตัวผู้จะทำให้เกิดอาการท้องเสีย ข้อแตกต่างระหว่างใบตำลึงตัวเมียกับใบตำลึงตัวผู้ก็คือ ใบตำลึงตัวเมีย ลักษณะขอบใบจะไม่หยักมาก ค่อนข้างมน ใบตำลึงตัวผู้ ลักษณะขอบใบจะเว้าเข้าไปมาก ใบเล็กกว่าใบตำลึงตัวเมีย ประโยชน์ของใบตำลึง เมื่อนำไปให้ไก่กินจะช่วยให้ไข่ฟองโต วิธีการนำมาให้ไก่กินก็คือ เด็ดใบตำลึงสด ๆ แล้วนำไปวางไว้ในรางหรือถาดอาหารให้ไก่กินทุกวัน หรือแล้วแต่เราจะหาได้ หยวกกล้วยสับ (หยวกจากกล้วยน้ำว้าเท่านั้น) หรือผักบุ้ง โดยเฉพาะหยวกกล้วยจะทำให้ไก่ออกไข่ง่าย ไข่ไก่มีสีแดงสด วิธีการนำมาให้ไก่กินก็คือ เมื่อตัดต้นกล้วยแล้ว ก็ผ่าเอาหยวกกล้วยออกมา แล้วสับให้ละเอียด และนำไปวางไว้ในรางหรือถาดอาหารไก่ ให้กินทุกวันหรือแล้วแต่เราจะหาได้ เปลือกหอยบดละเอียด ให้นำเปลือกหอยบดละเอียดที่มีขายตามร้านขายอาหารสัตว์ทั่วไป เอามาให้ไก่กินเป็นอาหารเสริมเพื่อให้เปลือกไข่ไม่บางจนเกินไป ถ้าเปลือกไข่บางก็จะแตกง่าย นอกจากอาหารไก่สำเร็จรูปแล้ว เราควรที่จะผสมอาหารให้ไก่กินเอง นอกจากจะช่วยประหยัดต้นทุนในการเลี้ยงได้แล้ว ไข่ไก่จะมีโปรตีนสูง ช่วยบำรุงสมองทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ โดยมีสูตรผสมดังนี้ รำ 5 กิโลกรัม ข้าวปลาย 2 กิโลกรัม ปลาแห้งป่น 1 กิโลกรัม กากมะพร้าวตากแห้ง 1 กิโลกรัม ใบกระถินตากแค่พอหมาด ๆ 1 กิโลกรัม (เอาเฉพาะใบ ไม่เอาก้าน) นำทุกอย่างมาผสมรวมกัน ให้ไก่กินสลับวันกับอาหารสำเร็จรูป ขอขอบคุณภาพประกอบจาก https://pixabay.com/th/photos/ 316412/ การทำวัคซีน เมื่อเลี้ยงไก่ เราจะต้องดูแลให้ดี โดยทำวัคซีนตามอายุของไก่ ซึ่งทำวัคซีนหลายวิธีด้วยกัน เช่น ให้โดยวิธี หยอดตา หรือหยอดจมูก การฉีดเข้าผิวหนัง การแทงปีก ละลายน้ำให้ไก่กิน ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ และให้ด้วยวิธีสเปรย์ การเลี้ยงไก่ไข่แบบระบบเปิด มีข้อดีคือ ไก่ได้วิ่งภายในสถานที่ซึ่งเรากำหนดเอาไว้ เป็นการออกกำลังกาย ทำให้ไก่แข็งแรง ไก่ไม่เครียด ไก่สามารถหาอาหารจากธรรมชาติกินเอง เช่น หนอน และแมลงต่าง ๆ การเลี้ยงไก่ไข่จึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจ เพราะไข่ไก่เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นทุกวัน แต่ผู้เลี้ยงจะต้องติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่บ่อย ๆ โดยเฉพาะโรคที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป ถ้ารู้ว่าช่วงไหนเกิดโรคที่ทำให้ไก่ของเราป่วย เราจะได้หาทางป้องกันให้ทันท่วงที ขอให้โชคดีค่ะ จรรยา เลิศพงษ์ไทย