เซลล์บ้านนอก

TrueID In-Trendฉบับที่ 5 เซลล์บ้านนอก

โดย ลุงแอ็ด ถาวรมาศ

ลุงก็ไปถามพนักงานของโรงแรมว่า โซฟานี้ไว้ทำอะไร และทำไมไปจัดประชันหน้ากับผู้เข้าสัมมนาอย่างนี้ เขาก็บอกว่า เป็นความประสงค์ของผู้จัดงาน หมายถึงผู้บริหารของบริษัทฯ และเป็นที่นั่งของระดับบริหาร พอลุงฟังได้แค่นั้น ก็จะเป็นลมเสียให้ได้ นึกภาพออกตั้งแต่ยังไม่เริ่มบรรยาย ว่าเดี๋ยวคงเกิดอะไรขึ้น พอได้เวลาอีก 2 นาทีก่อนจะเก้าโมง ลุงก็เห็นชายหนุ่ม ก็เดินแถวเข้ามาในห้อง และเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่จัดไว้ให้ เรียบร้อย เงียบกริบ ไม่มีหัวร่อต่อกระซิกแต่อย่างใด ทุกคนแต่งตัวเหมือนกันหมด คือ นุ่งกางเกงสีน้ำเงิน เสื้อสีขาวแขนยาว และผูกเนคไทสีแดง พอได้ที่นั่งกันเป็นที่เรียบร้อย ถึงคราวผู้บริหารบ้าง ก็มีชายคนหนึ่งท่าทางจะเป็นเถ้าแก่ หรือเจ้าของบริษัท เพราะดูจากเครื่องแต่งตัว แหวนและนาฬิกาที่ใส่แล้ว...ก็คงต้องเป็นเจ้าของบริษัท ตามมาด้วยอาซ้อ...อาเซลล์มาเนเจอร์ อาเซลล์ซุปเปอร์ ไวเซ่อร์ เรียงมาเป็นแถว..เข้ามานั่งต่อจากท่านประธาน  ขณะนั้น ลุง นั่งเตรียมพร้อมอยู่ที่โต๊ะบรรยาย ซึ่งเขายกพื้นขึ้นเป็นเวทีเล็กๆ สักหน่อยหนึ่ง....

พอลุงเริ่มบรรยายในคาบที่สอง คือหลังเบรกเช้า...ก็รู้สึกว่าได้ผลนิดหน่อย คือมีผู้เข้าสัมมนาบางคนยิ้มออก และเล่นด้วย เรื่องนี้ วิทยากรท่านอื่นไม่ทราบจะเป็นเหมือนลุงไหม...ก็คือ ปฏิกิริยาโต้ตอบจากผู้ฟังเป็นกำลังใจของวิทยากรนะครับ ถ้าผู้ฟังนั่งเงียบ ยั่วก็แล้ว แหย่ก็แล้ว พูดตลกก็แล้ว เอามือจี้สะเอวก็แล้ว ทุกคนยังเฉยอยู่ แต่ถ้าท่านผู้ฟัง ฟังแล้ว เฮรับ พูดอีก เฮอีก ถ้ามีกระทืบเท้า เป่าปากวี๊ดๆ ยิ่งดี....  ลุงก็ทนบรรยายจนกระทั่ง พักรับประทานอาหารเที่ยง ลุงก็ลากผู้ประสายงานเข้ามาปรึกษากันอีกที ถามเขาละเอียดยิบ ไปรับมาจากวิทยาลัยไหนนี่ ทำไมเขาหน้าตายกันอย่างนี้ บริษัทเขาปกครองกันอย่างไร ทำไม่เขาไม่มีอารมณ์ขันเลยหรือ.....และลุงก็ได้รู้ความจริงว่า “อ๋อ เด็กพวกนี้ เรารับตัวมาจากท่ารถที่หมอชิตนะครับ พอเขาลงจากรถประจำทาง จะมาหางานทำ ก็ประกาศว่า ใครอยากทำงานบ้าง เป็นเซลล์ รายได้ไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อวัน..คนก็มาเข้าแถว สมัครกันเยอะแยะเลยครับ เราก็ให้เขากรอกใบสมัคร แล้วเลือกออกมาเฉพาะคนที่พอมีการศึกษาหน่อย ได้สักยี่สิบสามสิบคน ตามแต่ต้องการ....แล้วพากลับไปกาญจนบุรี สั่งให้เขาอาบน้ำ ขัดขี้ไคลให้หมด โดยเฉพาะคนที่ทำงานก่อสร้างมา พวกนี้ต้องอาบน้ำไม่ต่ำกว่าสามรอบ จึงจะหมดขี้ไคล เสร็จแล้วก็ให้ไปใส่เสื้อและกางเกงที่บริษัทเตรียมไว้ให้ อาจารย์จะเห็นทุกคนแต่งตัวเหมือนกันหมดทั้งเสื้อกางเกง เนคไทที่บริษัทจัดให้ ก็เพราะคนมันเข้าๆ ออกเยอะ ใครจะออก ก็ต้องเอาเสื้อ กางเกงและเนคไทมาคืน จึงจะเคลียร์กับคอมมิชชั่นก่อนออกไปได้”

“เราก็มาจับให้ฝึกขายครับก็หัดให้พูดนะครับ เด็กพวกนี้เขาไม่เคยเข้ากรุงเทพหรอกครับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มากรุงเทพ และมากินอาหารเช้าที่โรงแรมใหญ่ๆ อย่างนี้....ออกจากเมืองกาญจนบุรีตั้งแต่ตีห้า พอเห็นโรงแรม เด็กเขาก็สั่นแล้วครับ พอเห็นท่านประธานกับญาติๆ ของท่านมานั่งจ้องอยู่อย่างนั้นเหมือนเมื่อตอนเช้า....ก็ปอดแหกเข้าไปใหญ่ พวกเด็กเขาขายแต่ร้านชาวบ้าน ร้านทำอาหารเล็ก หลังคามุงจากนะครับ .. ของแค่ร้อยสองร้อยบาท มันจะไปขายตึกใหญ่ได้ไงครับ...และท่านประธานก็มีนโยบายอย่างนี้ด้วยขอรับ...ท่านอาจารย์”

ลุงพอได้ยินดังนั้น ข้าวปลาไม่ต้องทานกันแล้ว รีบโทรศัพท์หาอาจารย์ทินวัฒน์....ก็ติดบรรยาย โทรหาอาจารย์สุรวงศ์......ก็ไม่อยู่ ลองโทร อาจารย์เสนีย์ แดงวัง....ซิวะ เฮ้ออยู่โว้ย.... แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อาจารย์เสนีย์ แดงวัง ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น อาจารย์เสนีย์ ซึ่งมารับงานตรวจบัญชีอยู่แถวๆ วัดตะเคียนก็รีบบึ่งรถมาช่วยชีวิตของลุงไว้ได้ในช่วงบ่ายวันนั้น และปิดท้ายด้วยการรำวงมาตรฐานระหว่างผู้เข้าสัมมนากับผู้บริหารของบริษัทเป็นที่ชื่นมื่นเป็นอย่างยิ่ง  วันนั้นลุงหมดชีวาสไปสองขวด พร้อมด้วยโซดาอีกลังหนึ่ง เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่อาจารย์เสนีย์ แดงวัง ซึ่งมีพระคุณกับลุงเป็นหาที่สุดมิได้

เล่าเรื่องการจัดสัมมนา In house มาให้ท่านอ่านพอสมควรแล้ว ก็ขอกลับมาถึงเกี่ยวกับเรื่องการบรรยายให้บริษัทที่จัดฝึกอบรมบ้าง เดี๋ยวจะลืมเสีย บริษัทเหล่านี้ ที่รู้จักกันดี ก็มีอยู่หลายบริษัท บริษัทที่มีชื่อเก่าแก่ ก็ได้แก่ TMA, สมาคมไทย-ญี่ปุ่น, บริษัท ธรรมนิติ เป็นต้น บริษัทเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะไม่มีวิทยากรประจำ คือถ้าเห็นว่า หากจัดเรื่องนี้ขึ้นมาละก็เป็นที่นิยมแน่ ดังแน่ๆ คนเข้ากันเยอะเลย ต้องจัดรอบที่สอง รอบที่สาม เช่น บริษัท ธรรมนิติ ส่วนใหญ่จะจัดเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับกรมสรรพากร ซึ่งจะมีกฎหมายใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ยกตัวเช่น ตอน กฎหมาย VAT จะเริ่มใช้ ก็ระดมจัดกันหลายๆ บริษัทใครก็เล่นกันแต่เรื่อง VAT VAT VAT แต่สู้ธรรมนิติไม่ได้ จนธรรมนิติโกยเงินเข้ากระเป๋าไปเท่าไหร่ ไม่ทราบ วิทยากรที่เชิญ ถ้าเป็นเรื่องเฉพาะอย่าง เช่น กฎหมายแรงงาน ก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านแรงงานมาพูด ถ้าได้อธิบดี หรือ ผอ.กองเรื่องคดีความ ก็จะได้รายละเอียดลึกยิ่งขึ้น

ส่วนถ้าเป็นเรื่องคอมพิวเตอร์ พอมีเรื่อง ปี 2000 ก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญเรื่องคอมพิวเตอร์จากเนคเทคมาบรรยาย หัวข้อการบรรยายก็เปลี่ยนไปเรื่อย แล้วแต่ความสนใจของธุรกิจในขณะนั้น ถ้าจะพูดถึงในปัจจุบัน ก็จะต้อง พูดเรื่อง รวย..รวย..รวย , ทำอย่างไรจะได้เงินล้านโดยไม่ต้องทำงานหรือ แรงบันดาลใจ อะไรต่างๆ ... เพราะคนสมัยนี้ จบมหาวิทยาลัยมาหลายปีก็แล้ว ทำงานมาก็มากแล้ว ยังไม่เห็นรวยสักที ... อย่ากระนั้นเลย ...เห็นเขาบอกว่ารวยโดยไม่ต้องทำงาน ลองไปฟังหน่อยเห็นจะดี....  ถ้าได้วิทยากรที่พูดเรื่องที่คนอื่นเขาไม่กล้าพูด หรือไม่มีใครพูดได้ ก็ยิ่งดีใหญ่ .... เช่นลุงเองมีอยู่เรื่องหนึ่ง คือ “เทคนิคการขายให้หน่วยงานราชการ” โอ้โห...ขายดีมาก ลุงพูดเรื่องนี้มาเป็นสิบๆ ปี โดยใช้หลักการเดิม เพียงแต่เปลี่ยนรายละเอียดของเรื่องไปตามยุคสมัย เช่น เรื่องของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดหาพัสดุ ซึ่งเปลี่ยนมาไม่รู้กี่ฉบับ แต่หลักการใหญ่ก็ยังเหมือนเดิม วัตถุประสงค์ในการจัดหาก็เหมือนเดิม การเข้าพบข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็เหมือนเดิม  ขอเชิญติดตามได้ในฉบับต่อไปครับ

ลุงแอ็ด ถาวรมาศ (นายอมร  ถาวรมาศ)

152/9 ถนนนนทบุรี 1 อ.เมือง จ. นนทบุรี 11000

E- Mail : [email protected]

Line ID : AMORNTAR Tel : 081 619 8071