ผมได้ยินชื่อวัดสวนแก้ว มาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ในระดับปริญญาตรี ตอนนั้นกำลังสนใจหัวข้อเรื่อง พระสงฆ์กับการพัฒนาสังคม ทำให้ผมสนใจที่จะเดินทางมาวัดสวนแก้วในตอนแรกเพื่อการศึกษาเรียนรู้ในโครงการต่าง ๆ ที่พระพยอม กัลยาโณ ได้ลงมือทำ หากจะว่าไปแล้ว ความเป็นวัดสวนแก้วกับพระพยอม กัลยาโณ แทบจะเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้เลย พระพยอม ไม่เพียงแต่ท่านเป็นพระสงฆ์ปฏิบัติดี มีความสามารถในการเทศน์สั่งสอนธรรมให้แก่ญาติโยมจนมีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ท่านยังเป็นแบบอย่างของพระสงฆ์ในด้านการพัฒนาวัด และช่วยเหลือสังคมด้วย ดังนั้น ภาพที่เรามองวัดสวนแก้วนั้น คือภาพของความคิดของพระพยอมถูกถ่ายทอดออกมาในการพัฒนาวัดที่มีรูปแบบเฉพาะไม่เหมือนกับวัดอื่น ๆ ในประเทศไทย ด้วยเหตุนี้เอง วัดสวนแก้ว จึงมีลักษณะเด่นเฉพาะเป็นของตัวเองมาก เมื่อศึกษาประวัติวัดสวนแก้ว ผมได้เห็นความทุ่มเทและความเสียสละของ หลวงพ่อพระพยอมทั้งด้านแรงกาย เวลาและทุนทรัพย์ในการพัฒนาวัดนี้มาตั้งแต่กยุคบุกเบิกสมัยหลวงพ่อเทียนในตอนนั้น เดิมชื่อว่า “วัดแก้ว” จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ปัจจุบันกลายมาเป็น “วัดสวนแก้ว ” วัดต้นแบบแห่งการช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริง ในสถานการณ์โควิด-19 หลวงพ่อพระพยอม ท่านมีโครงการช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากโดยเปิดวัดสวนแก้วเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ไร้ที่พึ่งตามที่เป็นข่าวในอาทิตย์ก่อน เมื่อผู้อ่านเดินทางมาถึงวัดสวนแก้ว จะมีเซ่เว่นอยู่ตรงกันข้ามกับปากทางเข้าวัด จะเห็นอาคารต่าง ๆ ที่อยู่ในซอยเล็ก ๆ ด้านซ้ายมือเป็นอาคารที่ทางวัดจัดทำซุปเปอร์มาเก็ตสำหรับผู้มีรายได้น้อย ส่วนด้านขวามือ เป็นอาคารสำหรับรับบริจาคสิ่งของต่าง ๆ จากผู้ใจบุญ ซึ่งทางวัดจะนำมาคัดและจำหน่ายในราคาถูก เมื่อเราเข้ามาจอดรถภายในวัด เราจะรู้สึกถึงความร่มรื่นของต้นไม้น้อยใหญ่พันธุ์ต่าง ๆ ภายในวัดมีรถสามล้อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการชมสวนของวัด โดยสามารถนั่งรอได้ที่หน้ามูลนิธิพระพยอม ผมเคยนั่งรถนี้ชมสวนหลายรอบ ทำให้เราเห็นว่า ทางวัดได้ปลูกพืชสวน เพาะพันธุ์ไม้นานาชนิด ปลูกดอกไม้ระดับ ปลูกพืชผักสวนครัว มีเลี้ยงปศุสัตว์ เป็นต้น ป่าไผ่ถือว่าเป็นบรรยากาศธรรมชาติ ที่หาชมได้ยากในกรุงเทพและปริมณฑล ผลผลิตที่ได้จากพืชสวนภายในวัดก็มีจำหน่ายให้ผู้ที่มาไหว้พระและเที่ยวชมวัดในราคาถูก หากกระหายน้ำลองดื่มน้ำอ้อยวัดสวนแก้วครับ หวานชื่นใจจริง ๆ พื้นที่อันร่มรื่นบางส่วนของวัดเมื่อเราได้เข้าไป เราจะเห็นสวนธรรม เป็นลานที่ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ มีป้ายคติธรรมบ้าง ปริศนาธรรมบ้าง คอยสอนธรรมให้แก่ผู้มาเยี่ยมชม หรือผู้มาปฏิบัติธรรมค้างแรมในวัด ที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์แทบจะหาดูที่ไหนไม่ได้อีกเลย ก็คือ พระอุโบสถธรรมชาติ ของวัดสวนแก้ว นี่คือลักษณะเด่นของวัดสวนแก้ว ที่พระพยอมท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อพุทธทาส ท่านได้สร้างแบบและวางแผนผังของวัดสวนแก้วคล้าย ๆ สวนโมกข์ ผมเดินเข้าไปดูโบสถ์ธรรมชาติ เป็นลานหิน แวดล้อมด้วยการขุดคูเล็ก ๆ สามารถมองเห็นลูกนิมิตแสดงเป็นเขตพัทธสีมา ไม่มีหลังคา เป็นเป็นลานเปิดโล่งแต่แวดล้อมด้วยต้นไม้ดูร่มรื่น อันที่จริงวัดสวนแก้วยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกเยอะนะครับ บทความนี้เล่าแค่บางส่วนในมุมมองหนึ่งเท่านั้น ลองดูวีดีโอยูทูบวัดสวนแก้วบางมุมนะครับ สำหรับผู้อ่านที่สนใจจะเดินทางมาที่ วัดสวนแก้ว วัดนี้ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 55/1 หมู่ที่ 1 ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ นนทบุรีหากจะโดยสารรถประจำทางมีรถสองแถวนรถสาย 1024 บางบัวทอง-ท่าน้ำนนท์ ผ่านหน้าวัดลงป้ายรถเมล์ตรงซอยบางเลน 3 สามารถขึ้นที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวสเกต์ หรือขึ้นได้จากท่าน้ำนนท์ครับ หากขับรถยนต์ส่วนตัวมาดูแผนที่กูเกิล ภายในวัดมีลานจอดรถอย่างกว้างขวางครับ