ช่วงนี้อย่าว่าแต่โควิด-19 ที่ต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติเลย สภาพการณ์ปัจจุบันก็ไม่อยากออกไปไหน เพราะแดดเมืองไทยร้อนยังกะโกรธใครมา เมื่อ 2 มหาภัยมารวมตัวกัน ถึงคราวที่มนุษย์ตัวเล็ก ๆ และงบน้อย ที่ Work from Home อย่างกระผมต้องเลือกบริการ Delivery อาหารแล้วล่ะ และนี่คือ รีวิวอาหารไทย Delivery ช่วง Work from Home แบบประหยัด เก็บเงินไว้สู้วิกฤติอยู่บ้านให้ได้หลายวัน ช่วง Work from Home ร้านอาหารดัง ๆ ต่างงัดโปรโมชั่นมาเอาใจคนอยู่บ้านมากมาย ยิงโฆษณาเข้าเฟซบุ๊กเป็นว่าเล่น เดี๋ยว MK มีเป็ดย่างซื้อ 1 แถม 1 ยังลดครึ่งราคาให้อีก ส่วน KFC ก็ลดราคา 50% ซิซซ์เล่อร์ก็เสนอสเต๊กน่ากินราคาหั่นแหลก แต่นั่นแหละ พอกดสั่ง ระบบแจ้งทันที ‘คุณอยู่นอกพื้นที่บริการ’ บ้านผมอยู่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ห่างจากเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ประมาณ 15 กิโลเมตร สภาพพื้นที่ออกแนวชนบทอยู่ไม่น้อย เพราะติดไร่ ติดนา ทว่าตั้งอยู่ในจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปริมณฑล ร้านอาหารต่าง ๆ จึงขยันแนะนำโปรโมชั่น อันท้ายสุดแล้ว ส่งไม่ได้ ในเมื่อส่งไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ผมลองหาร้านอาหารทางกลุ่มเฟซบุ๊กดูบ้าง เพราะตอนที่ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เขายังมีกลุ่ม Delivery กลุ่มใหญ่ สมาชิกเรือนหมื่น พ่อครัวแม่ครัวมีอาหารหลากหลายเสนอ แต่ อ.ไทรน้อย คงอยู่ไกลปืนเที่ยงโดยแท้ เพราะหากลุ่มที่ว่า ไม่มีเลย ไม่มีก็ไม่เป็นไร หาใหม่ ลอง Grab Food ดูบ้าง ฮ่า! มีส่ง แต่คุณเอ๋ย ส่งชาบูชิ ส่งพิซซ่า อาหารอื่น ๆ ล้วนอยู่นอกเขต แล้วเมนูที่ส่ง สั่งแต่ละครั้งใช้เงินราว 400 บาท ขึ้นไป ต้อง Work from Home อีกหลายวัน มีหวังกรอบก่อนแน่ นอกจาก Grab Food แล้วก็หมดหวังกับแอปส่งของอื่น ๆ ในเมื่อหาบริการ Delivery ไม่ได้แล้วผมจะมา รีวิวอาหารไทย Delivery ช่วง Work from Home ได้อย่างไร? ใช่ไหม ครับ! ความพยายามอยู่ไหน ความสำเร็จอยู่นั่น และแล้วผมก็พบว่า ร้านอาหารในไทรน้อย เขาเข้าไปอยู่กันใน Line man สั่งเลยสิครับ เงื่อนไขผมมี อาหารไทย ราคาสมเหตุสมผล เพราะต้อง Work from Home อีกนาน เงินเดือนก็ไม่ขึ้น และดูท่าจะขึ้นยากด้วย แต่ก็มีอุปสรรคอีกนั่นแหละ อย่างที่บอกบ้านผมมันไกลปืนเที่ยง อาหารราคา 45 บาท โดนค่าส่งไป 85 บาท คุ้มซะที่ไหน ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น และผมก็พบเข้ากับร้านอาหารที่จัดโปรโมชั่น ค่าส่ง 10 บาท จัดเลยครับ เป็นร้านข้าวแกงด้วย เลือกเน้นเมนูเผ็ด ๆ เพราะจะได้กินนาน ๆ อาหารเผ็ดนี่กินกับข้าว เราจะกินข้าวได้มากกว่ากับ ผมตัดสินใจเลือก ‘ผัดเผ็ดปลาดุก’ จากร้านข้าวแกงอิ่มทิพย์ ซึ่งห่างจากบ้าน 4.5 กิโลเมตร กดสั่ง 2 – 3 ขั้น คือ ยืนยันอาหาร ตรวจสอบราคา สักพักระบบ Lineman จะรายงานสถานการณ์คำสั่งซื้อขึ้นมา ได้แก่รอกี่นาที ตอนนี้ร้านทำอะไร เช่น เตรียมอาหาร และยืนยันคำสั่งซื้อ เป็นต้น สักพัก Lineman จะโทร. เข้ามาหา ผมก็แค่รอเท่านั้น ตามเวลาที่กำหนด ผัดเผ็ดปลาดุกร้อน ๆ ถุงใหญ่ก็มาถึงหน้าบ้าน Lineman รายนี้น่ารัก ทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนจับถุงแกงยื่นให้ รับมาถือ ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนของผัดเผ็ดปลาดุก รีบตักข้าวสวยร้อน ๆ มารับประทาน คำแรกที่เข้าปาก อืม ครั้งต่อไปสั่งอีกแน่ เผ็ดกำลังดี มะเขือก็เปื่อยได้ที่ ส่วนมากร้านข้าวแกงจะตกด้านนี้ คือ ใส่ผักลงในแกงอย่างลวก ๆ ไม่สนใจว่า ผักบางอย่าง เช่น มะเขือถ้าอยู่ในแกงมันต้องยุ่ย ๆ หน่อย ไม่ใช่แข็งกรอบยังกะกินเคียงน้ำพริก ส่วนเนื้อปลาดุก ร้านเลือกของสด เนื้อจึงแน่นและออกหวาน ถือว่าอร่อยเลยล่ะ ข้อดีของการสั่งอาหารผ่านระบบ Delivery ที่มีการให้คะแนนได้ คือ เราจะได้ร้านอาหารที่มีคุณภาพ เพราะร้านที่ไม่ใส่ใจลูกค้าเขาไม่ค่อยกล้ามาร่วมรายการ ทำด้อย ๆ ส่งให้ มีหวังโดนวิจารณ์คะแนนลบ จนต้องปิดร้านเชียวล่ะ และนี่คือ รีวิวอาหารไทย Delivery ช่วง Work from Home แบบประหยัด และนี่จะเป็นแหล่งสั่งอาหารของผมต่อไป ส่วนของผู้อ่าน หากยังหาไม่เจอลองเข้า Lineman ดู ค่าส่งสูงอยู่ แต่เทียบอัตราได้ เช่น หากเดินทางไปเองจะเสียค่าเดินทางพอกับค่าส่งไหม หรือเลือกร้านที่จัดโปรโมชั่นคิดค่าส่งถูก ๆ อย่างผมก็ไม่เลว สวัสดี ภาพโดย ผู้เขียน