อื่นๆ

ปลูกผักทานเอง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ปลูกผักทานเอง

ปลูกผักทานเอง อีกหนึ่งกิจกรรมที่ดีต่อใจ

สถานการณ์โควิด แวะมาส่งสัญญาณเตือนเรื่องการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี

ทั้งวิธีคิด หลักคิด ที่สำคัญมากต่อการดึงสติของเรา

การปลูกผักทานเอง ในบ้าน ในที่พักอาศัย

ชวนให้เรานิ่งเงียบ อยู่กับตัวเอง ได้ยินเสียงของตัวเราเอง และอาจเข้าใจคนอื่นได้มากขึ้นด้วย

แล้วผักอะไรบ้างหละ ที่เราน่าจะปลูกได้ง่าย ตัดกินง่าย

ปลูกผักทานเอง#2

ส่วนตัวผู้เขียน ตัดสินใจลองปลูก

ผักบุ้ง ผักชีฝรั่ง โหระพา กะเพรา คื่นฉ่าย แรดิช คะน้า วอเตอร์เครส สะระแหน่

3 พืชผักสวนครัวที่ง่ายต่อการเพาะปลูกและเก็บทานได้บ่อย ๆ

  1. ผักบุ้ง
  2. โหระพา
  3. ผักชีฝรั่ง

ผักบุ้งจีน

ผักบุ้ง

ผู้เขียนใช้วิธี

  • แช่เมล็ดพันธ์ุลงในน้ำเปล่า 1 วัน (เมล็ดพันธุ์ราคาซองละ 15 - 25 บาทแล้วแต่ยี่ห้อ)
  • ระหว่างนี้ เราก็เตรียมดินปลูก โดยใช้ดินปลูกผสมปุ๋ยมูลไส้เดือน  (ถุงละ +/- 20 บาท)
  • วันต่อมา นำเมล็ดพันธ์ุที่แช่น้ำไว้ มาโรยลงดิน และกลบหน้าดินปิด บางๆ

Advertisement

Advertisement

#เคล็ดลับสำคัญคือ

หลังจากเรากลบหน้าดินปิดแล้ว หาถุงดำ หรือ สแลน มาคลุมไว้ 3 วันนะคะ

เราจะใช้วิธีการบ่ม จากอากาศร้อน ชื้นฝน เพื่อเร่งให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น โดยที่ทั้ง 3 วัน เรารดน้ำลงบนถุงดำ หรือ สแลนได้เลย

#เมื่อต้นอ่อนงอกขึ้นมาแล้ว

หากเราจะทานแบบต้นอ่อน ก็ตัดทานได้

แต่หากเราจะทานแบบผักบุ้งจีนตามร้านข้าวต้ม ผู้เขียนแนะนำให้ตัดยอดอ่อนทิ้ง 1 รอบ และรอให้แตกใหม่

วิธีนี้ จะช่วยให้ลำต้นของผักบุ้ง อวบอ้วนแข็งแรง เก็บทานได้บ่อยขึ้น (โดยใช้วิธีการตัดนะคะ ไม่ดึง)

ผักกินใบ#3ส่วน โหระพา - ผักชีฝรั่ง - คื่นฉ่าย

เรียกได้ว่า เป็นผักที่เราทานใบ ทานดิบๆ ได้เหมือนผักบุ้ง

นำมาแกล้ม หรือมาทำอาหารจานด่วน ๆ นำมาโรยหน้า เพิ่มความกลมกล่อมให้กับอาหารจานด่วนของเราได้เป็นอย่างดี

#วิธีการปลูก โหระพา - ผักชีฝรั่ง - คื่นฉ่าย

Advertisement

Advertisement

  • ให้เราเลือกซื้อผักที่ยังติดราก มีลำต้นที่แข็งแรง ไม่เน่า
  • ตัดสูงขึ้นมาจากโคนต้น ประมาณ 1 ข้อนิ้ว และนำส่วนของราก ล้าง ๆ น้ำ และปักลงดิน
  • โดยสามารถใช้ดินชนิดเดียวกันกับที่เราปลูกผักบุ้งได้เลย
  • วางหลบๆ แดด เพราะต้นอ่อนยังไม่แข็งแรง รดน้ำเบา ๆ มือ

เพียงเท่านี้ เราก็จะมีผักสวนครัวอยู่ในพื้นที่อยู่อาศัยของเรา

ตัดมาทำทานได้ตลอด เสริมรสชาติและคุณค่าของอาหารจานนั้นได้อย่างปลอดภัย :)

ลองทำดูนะคะ

รูปจบขอบคุณไอเดียการแต่งภาพจาก https://www.canva.com/

ภาพโดยผู้เขียนเองค่ะ [email protected]

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์