ท่าน้ำเมืองนนท์ แหล่งน่ายลใกล้กรุงเทพ ในช่วงสถานการณ์โควิด หลายท่านที่ต้องอยู่บ้าน คงจะเบื่อยิ่งนัก อยากจะหาที่ท่องเที่ยว สักแห่งหนึ่งใกล้กรุงเทพ หรือห่างจากกรุงเทพฯไม่ไกลนัก เราขอเเนะนำทริปสั้นๆของเรา วันนี้เราจะขอพาทุกท่านมาท่องเที่ยว ท่าน้ำเมืองนนท์ อันเป็นสถานที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งสำหรับสายช้อป ชิม ชิว ของประเทศไทย ถ้าทุกท่านพร้อมกันเเล้ว เตรียมหยิบหมวก สวมเเว่น เเล้วออกเดินทางไปพร้อมกันเลยครับ เช้าวันนี้อากาศที่เเสนสดใส. เราจะออกเดินทางออกจากกรุงเทพ. ในช่วงสายๆ เดินทางสไตล์ชิวไม่ต้องรีบร้อนมากนัก ในการเดินทางสำหรับทริปสั้นวันนี้เราจะพาทุกท่านนั่งเรือด่วนล่องเเม่น้ำเจ้าพระยา มายังท่าน้ำเมืองนนท์นี้ ในสถานที่แรกที่เราจะเดินทางไป นั่ดนคือ ท่าเรือเมืองนนท์ ท่าเรือนี้เป็นท่าเรือสุดสาย ที่มีสถาปัตยกรรมแบบเก่า โบราณที่ไม่เหมือนใคร เนื่องด้วย อาคารท่าเรือเมืองนนท์นี้ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารที่มีสีเหลืองนวลเกือบทั้งหลังแซมสีสีขาวในช่วงมุมเสา หลังคาสีเขียวเข้ม มุงด้วยกระเบื้องว่าว เมื่ออาคารสะท้อนกับ เเสงแดดยามเช้า จะทำให้อาคาร เเห่งนี้ดูโดดเด่น สวยสะดุดตายิ่งนัก เมื่อเดินทางออกจากท่าเรือ เราก็จะพบกับวงเวียนหอนาฬิกาของจังหวัดนนทบุรี ที่สวยงามสูงเด่นเป็นสง่าอันเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองนนท์เลย ใครมาเมืองนนท์แล้วมาไม่ถึงหอนาฬิกาเมืองนนท์นี้ นับได้ว่ายังมาไม่ถึงเมืองนนท์เลยก็ว่าได้ครับ หอนาฬิกาท่าน้ำนนท์ หอนาฬิกาท่าน้ำนนท์แห่งนี้ จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2500 โดยกระทรวงมหาดไทยในสมัยก่อน ซึ่งตระหนักถึงวัฒนธรรมการตรงต่อเวลา จึงมีหนังสือจากกระทรวงมหาดไทยที่ 7 843/2497 เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2497 เรื่อง ขอให้พิจารณาติดตั้งหอนาฬิกาสาธารณะ ขึ้นในเขตเทศบาลเมืองนนทบุรี เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนได้ใช้ดูเวลา จากนั้นคณะเทศมนตรีเทศบาลเมืองนนทบุรีให้ ช่างของเทศบาลเมืองนนทบุรีออกแบบ โดยอาศัยเค้าโครงตามแบบของกรมโยธาธิการ หอนาฬิกาท่าน้ำนนท์แห่งนี้มีความสูง 17 เมตร ตอนบนมีหน้าปัดนาฬิกา 4 ด้าน เหนือหน้าปัดนาฬิกาทำซุ้มหอกระจายข่าว และที่ตรวจเพลิงไหม้ทั้ง 4 ด้าน ซึ่งหอนาฬิกานี้เป็นศูนย์กลางการนัดพบและค้าขายของชาวนนทบุรีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ถัดออกมาจากทางด้านขวาหอนาฬิกาท่าน้ำนนท์ ไม่ไกลนัก เราจะเดินมาพบกับพิพิธภัณฑ์นนทบุรี ที่อยู่ภายใต้อาคารศาลากลางจังหวัดหลังเก่าของจังหวัดนนทบุรี สถานที่นี้จึงเป็นสถานที่สำคัญเมื่อเราเดินทางมาถึงจังหวัดนนทบุรี เรามาแวะศึกษา หาความรู้ในสถานที่นี้กันดีกว่าครับ พิพิธภัณฑ์นนทบุรี พิพิธภัณฑ์นนทบุรี แต่เดิมเป็นอาคารศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นเรือนไม้สักที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นอาคารทรงคุณค่าทางด้านสถาปัตยกรรมและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ยาว นานของจังหวัดนนทบุรี ปัจจุบันได้ปรับปรุงให้เป็น “พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี” ซึ่ง เป็นแหล่งรวบรวม เก็บรักษาและจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของชาวนนทบุรี เพื่อการเรียนรู้ สืบทอดและอนุรักษ์ให้ยั่งยืนสืบต่อไป ภายในอาคารจัดแสดงเรื่องราวที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์ ย้อนรอยอดีตเล่าเรื่องวันวานของจังหวัดนนทบุรี แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและภูมิปัญญาชาวบ้าน รวมถึงงานวิจิตรศิลป์ชั้นเยี่ยม ประติมากรรมดินเผา และชมภาพอดีตในยุคทองของการค้าเครื่องปั้นดินเผาที่เกาะเกร็ดซึ่ง กลับคืน ชีวิตด้วยเทคนิคพิเศษอีกด้วย เรามาชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เหมือนได้ไปเที่ยวทั่วจังหวัดนนทบุรีเลยนะครับ เมื่อเราชมพิพิธภัณฑ์กันเรียบร้อยเเล้ว ถัดไป เราจะพาไป ไหว้พระ สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชนท่านำนนท์มาช้านาน นั่นคือ วัดบางขวาง เพื่อความความเป็นมงคลกับชีวิตของทุกท่าน ขอให้ทุกท่านเตรียมกาย เตรียมใจ ให้สะอาด แล้วเดินทางไปวัดบางขวางกันเลยนะครับ วัดบางขวาง วัดบางขวาง ตั้งอยู่เลขที่ 238 หมู่ 4 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เดิมเรียกว่า "วัดบางยาง" ตั้งอยู่ปลายคลอง บางสีทอง ภายในวัดมีวิหาร เป็นวิหารเก่าแก่ อายุมากกว่า 100 ปี และโบสถ์โบสถ์เดิมเป็นรูปทรงสมัยโบราณ ภายในโบสถ์มีพระประธานเป็น พระทรงเครื่อง ซึ่งเรียกกันว่า "ปางทรมานท้าวมหาชมภูแลพระอัครสาวกซ้ายขวา" ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพระธาตุซึ่งรวบรวม พระธาตุที่สำคัญของไทยไว้ นอกจากนี้ยังมีศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นศาลาโบราณทรงประยุกต์ สร้างด้วยไม้สักทอง ทางเข้า-ออกของวัด ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ผู้มีบุญเท่านั้นที่จะได้เข้าถึงผู้คนส่วนมากจึงยังไม่รู้จัก ส่วนมากจะรู้จักคุกบางขวางมากกว่า เมื่อเราไหว้พระเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ทุกท่านคงจะหิวเป็นเเน่เเท้. กองทัพต้องเดินด้วยท้องตามคำโบราณที่เคยกล่าวไว้. เราจะพาไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นเมืองนนท์ที่หอมหวานกันกลิ่นเนื้อตุ๋นโชยโปรยปลิวออกไปหลายกิโล. ทำให้ผู้ได้กลิ่นต้องท้องกิ่วตามๆกันเลยครับ ที่ร้านเกาเหลาเมืองนนท์ครับ ร้านเกาเหลาเมืองนนท์ ร้านเกาเหลาเมืองนนท์ ร้านนี้เปิดขายมา 30 กว่าปีแล้ว มีสูตรลับการต้มน้ำซุปที่อัดแแน่นด้วยเครื่องเทศอย่างหนาเเน่น ประกอบกับเนื้อวัวที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี จึงทำให้มีลูกค้าแน่นตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะลูกค้าประจำ หรือลูกค้าสัญจร เมื่อได้กลิ่นน้ำซุปหอมๆของร้านนี้อันเป็นต้องน้ำลายไหลตามๆกันเลยครับ แต่หากใครไม่รับประทานเนื้อ ที่ร้านเเห่งนี้ก็มีหมูตุ๋นเช่นกันนะครับ เมื่อเรารับประทานอาหารกลางวันอิ่มจนพุงกางเเล้ว เราจะพาไปเดินต่อกันอีกนิดเพื่อย่อยอาหารกันดีกว่า โดยเราจะพาซื้อของฝากกลับบ้านที่ไม่ว่าจะเป็นลูกเด็กเล็กแดงหรือผู้ใหญ่วัยไหนก็ต้องติดใจอย่างเเน่นอนครับ เราเดินทางกันต่อเลยนะครับ เมื่อเราเดินออกจากร้านเกาเหลาออกไปทางซ้ายมือของร้านเกาเหลาเมืองนนท์ ประมาณ 50 เมตร เราก็จะพบกับร้านนนท์ เบเกอรี่ อันเป็นร้านเบเกอรี่ที่มีชื่อเสียง ไม่แพ้ร้านเบเกอรี่ เจ้าดังร้านอื่นๆเลยครับ ร้านนนท์ เบเกอรี่ ร้านเเห่งนี้ เปิดขายมานานกว่า10 ปี เป็นร้านขายขนมเบเกอรี่ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นขนมเค้ก ขนมปัง ช็อกโกแลต เอเเคลร์ หรือขนมต่างๆ มีให้เลือกหลาหลายประเภท ทุกท่านสามารถเลือกได้ตามใจชอบเลยครับ ด้วยความที่ราคาถูกและอร่อย ทำให้คนที่มาท่าน้ำแห่งนี้จะต้องไม่พลาดที่จะแวะซื้อกลับเป็นทุกครั้งไป เดินทางกันต่อเลยนะครับ ใครยังช้อปปิ้งขนมปังยังไม่สะใจ เรายังมีอีกร้านนะครับ นั่นคือ ร้านปัง ปัง 85 องศา โดยการเดินทางก็ไม่ใกล้ ไม่ไกล เพียงแค่เดินย้อนลงทางท่าน้ำก็จะพบร้านขนมปังร้านนี้ครับ ร้านปัง ปัง 85 องศา ร้านปัง ปัง 85 องศาแห่งนี้ เป็นร้านขายขนมปังปอนด์ ที่เปิดขายมานานกว่า10 ปี เช่นเดียวกัน ด้วยเอกลักษณ์ของขนมปังปอนด์ร้านนี้ มีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม หอม รสชาติหวาน มัน เค็ม เรียกได้ว่าอร่อยอย่างลงตัว แถมยังทำวันต่อวัน หอม สดใหม่ทุกวัน และไส้ของขนมปังนี้ก็เยอะอีกด้วย นอกจากนี้ ราคาขายยังถูกมาก เพียงราคาชิ้น 38-45 บาทต่อชิ้นนี่เอง เรียกได้ว่า คุ้มสุด หาที่ใดเปรียบ ทำให้คนมาท่าน้ำนนท์ก็ต้องแวะมาซื้อขนมปังปอนด์แห่งนี้กลับไปกินทุกรายเช่นเดียวกันครับ หลังจากเราซื้อขนมปังเสร็จ ร้านข้างร้านขนมปัง ปัง 85 องศา ที่คนเยอะไม่แพ้กัน คือ ร้านกุยช่ายเจ็ดสี ร้านนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับช่อง หลากสีแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นร้านกุยช่ายที่มีไส้เลือกเยอะมากถึง 7 ไส้เลยครับ ร้านกุยช่ายเจ็ดสี ร้านกุยช่ายเจ็ดสี เป็นร้านที่มีคนต่อคิวเยอะมาก ไม่เเพ้ร้านขนมหรือร้านอาหารที่มีชื่อเสียงแถวท่าน้ำนนท์เลย ด้วยความที่ร้านนี้มีไส้ของขนมกุยช่ายหลากหลายเเละทำสดใหม่ทุกเวลา ปั้นกันให้เห็นต่อหน้ากันเลย กล่าวได้ว่า ปั้นปุ๊บ นึ่งปั๊บ หิ้วกลับบ้านได้เลย สดใหม่มาก ด้วยความที่สดใหม่ทุกเวลาแบบนี้ทำให้คนหลายคนต่างติดอกติดใจในจุดเด่นของร้านนี้ จึงมีคนต่อแถวซื้อกันตลอดทั้งวัน หากใครได้มาท่าน้ำนนท์ก็อย่าลืมลองซื้อแวะกลับไปทานกันนะครับ ก่อนเดินทางกลับ เราอยากเชิญทุกท่านให้มานั่งเล่นริมน้ำ อยู่ใกล้กับบริเวณท่าเรือ ท่าน้ำนนท์ ลองสัมผัสลมเย็นๆ บรรยากาศผ่อนคลาย นั่งกินขนม มองดูเรือวิ่งไปมาอย่างสบายตา มองดูปลาที่เเหวกว่ายอยู่ในเเม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสบายอกสบายใจ ให้หายเหนื่อยเสียก่อนที่จะ เดินทางกลับด้วยเรือด่วนเจ้าพระยานี่เอง สำหรับใครที่ไม่สะดวกโดยสารมาทางเรือ สามารถเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง หมายเลข 144 175 30 367 545 63 64 และ 65 ครับ สุดท้ายนี้ เราขอกล่าวในทริปสั้นๆนี้ว่า” ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกล ก็สุขกายสบายใจ ด้วยวิถีสโลไลฟ์ ชิม ช้อป ชิว ใกล้กรุงเทพ ที่มี ทุกอย่าง กับ ท่าน้ำเมืองนนท์ นั่นเอง” ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพครับหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในทริปสั้นๆนี้ครับ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !