อำเภอชุมแสง เป็นอำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัดนครสวรรค์ ภูมิประเทศติดแม่น้ำน่าน และมีรางรถไฟตัดผ่าน ทำให้เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้กลายเป็นเป็นเมืองสำคัญ เพราะการคมนาคมสะดวกทั้งทางบก และทางน้ำ ชุมแสงถือเป็นเมืองการค้าที่สำคัญ แต่อยู่อย่างสงบตามสไตล์เศรษฐีสมถะ ในด้านการค้าอดีตชุมแสงเป็นที่รู้จักแพร่หลาย กระทั่งสังคมเปลี่ยนชุมแสงจึงไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก เพราะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ ชุมแสงกลับมาเป็นที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อกลายเป็นฉากสำคัญของละครย้อนยุคชื่อ กรงกรรม ภาพของละครช่องสามเรื่องนี้ทำให้คนทั้งประเภทเห็นถึงความร่ำรวยของชุมแสง กลายเป็นกระแสจับรถไฟไปชุมแสงกับกรงกรรม แนว ๆ ตามรอยซีรีส์ ที่มักมีทัวร์ไปเกาหลีประมาณนั้น ชุมแสง นามนี้มีผู้รู้ระบุที่มาถึง 2 สาย, สายแรกบอกว่า เพราะเป็นแหล่งของต้นชุมแสง (ชุมแสง คือ ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง) ส่วนสายที่สองบอกว่า เพราะเพี้ยนมาจากคำว่า คลังแสง เนื่องจากอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่เก็บอาวุธในการต่อต้านข้าศึก หากมองในแง่มุมสายที่สอง อ.ชุมแสง สำคัญไม่ใช่เล่นทีเดียว ผู้เขียน เป็นเขย อ.บางมูกนาก จ.พิจิตร ต้องขับรถผ่าน อ.ชุมแสงไปอีก 20 กิโลเมตร อ.ชุมแสง อยู่ จ.นครสวรรค์ ส่วน อ.บางมูลนาก เป็นพื้นที่ จ.พิจิตร สองอำเภอนี้จึงเป็นเส้นเขตแดนระหว่างจังหวัด ด้วยติดแม่น้ำน่าน และมีรางรถไฟพาดผ่าน ลักษณะนิสัยเมืองจึงใกล้เคียงกัน อ.ชุมแสง ปกติจะสงบ แต่เมื่อถึงเทศกาลวันเกิดเจ้าพ่อ เจ้าแม่ เมื่อไหร่ เมืองที่ดูเงียบเหงาจะคึกคักขึ้นมาทันที งานเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ชุมแสง เรียกง่าย ๆ ว่า “งานงิ้วชุมแสง” จัดมาต่อเนื่องทุกช่วงเดือนธันวาคม เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีและเมตตาของเจ้าพ่อเจ้าแม่ ที่คอยปกปักรักษาผู้คนมาตลอด ตลาดชุมแสงไฟไหม้หลายครั้ง ทุกครั้งปลอดภัยได้ ชาวบ้านเชื่อว่าเพราะอิทธิเดชบารมีเจ้าพ่อเจ้าแม่ ร่วม 100 ปีที่ปฏิบัติงานแห่มาอย่างไม่ขาดหาย ปัจจุบัน อ.ชุมแสง ชูเทศกาลงานงิ้วอย่างจริงจัง มีการทำรูปเอ็งกอเล็ก ๆ น่ารัก ตั้งบนเกาะกลางถนน และหน้าสถานีรถไฟ กลายเป็นแลนด์มาร์คที่สวยงามน่ารัก เหมาะแก่การเซลฟี่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตอนกลางคืน มีการประดับไฟ สีสันสวยงาม แสงเหล่านี้เปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ นั่งมองเพลินไปเลย เดี๋ยวแดง เดี๋ยวม่วง เดี๋ยวส้ม ทีแรกนึกว่าตัวเอ็งกอเปลี่ยนสีได้ สังเกตดี ๆ อ้อ! เขาใช้วิธีส่องไฟสีต่าง ๆ เข้าตัวเอ็งกอนั่นเอง งานงิ้วนั้น มีขบวนสวยงาม มีมังกร มีสิงโต แห่สนั่นเมือง แต่ที่ อ.ชุมแสง นำตัวเอ็งกอ มาเป็นสัญลักษณ์ คงเพราะทอนรูปลงแบบ SD แล้วดูน่ารักไม่หยอก และเอ็งกอเองก็มีความหมายที่ดีไม่น้อย เพราะเอ็งกอ คือ เหล่านักรบของเขาเหลียงซานทั้ง 108 ท่าน โดยภาพที่มีการแต่งหน้าน่ากลัว น่าเกรงขามนั้น ตัดตอนมาจากศึกหนึ่ง ที่เหล่านักรบปลอมหน้าตัวเองเพื่อไปช่วย ซ้องกั๋ง หัวหน้าของพวกเขา (ซ้องกั๋ง เป็นวรรณกรรมจีนที่เลื่องชื่อเรื่องหนึ่ง) และ อ.ชุมแสง เองก็มีคณะเอ็งกอ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2495 ชื่อ คณะ เถ่านั๊ง ด้วยผมเป็นเขย อ.บางมูลนาก ต้องขับรถผ่าน อ.ชุมแสงเสมอ เวลาเดินทางไปบ้านภรรยา และมักเดินทางตอนกลางคืน จึงยิ้มเสมอเมื่อได้เห็นเหล่าเอ็งกอน้อย ผู้อ่านหากมีโอกาสแวะไปแถวนั้น อย่าลืมทักทายเหล่าเอ็งกอน้อยเหล่านี้นะครับ ภาพประกอบโดย ผู้เขียน อ้างอิง fotoinfo.online pann55.blogspot.com ph.mahidol.ac.th