สวัสดีจ้าทุกคน...ผู้เขียนจะมาเล่าเรื่องราวเมื่อหนึ่งปีที่แล้วที่ได้มาเที่ยวที่นครสวรรค์ แล้วก็เรียกได้ว่าเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีก็ว่าได้ ในคราวนั้นได้มาด้วยตนเองแบบไม่รู้เรื่องราวสักเท่าไหร่ เหมือนเคยได้ยินว่าเป็นที่สอนพระปริยัติธรรมด้วยแต่ไม่รู้ว่ามันอยู่แถวไหน เห็นว่ามีอยู่ รู้แค่ว่านี่คือวัดตากฟ้ามันอยู่แถวนี้นะ แล้วจะเข้าเรื่องการเล่าประสบการณ์การโดยสารมากับรถคนอื่น ถ้าเราไม่คุ้นเคยจริง ๆ ก็คงไม่กล้าติดท้ายกับเขามาด้วยกระมัง เหมือนคล้าย ๆ พระธาตุหริภุญชัยนิด ๆ แต่ออกไปทางสไตล์ลังกามากกว่า ดูแค่เจดีย์ก็กินขาด ควรจะมาถ่ายรูปตรงจุดนี้ แล้วใครถ่ายเนี่ย ดูขึ้นเลยนะ เพราะเจดีย์คือจุดที่สวยมากสำหรับวัดนี้ มีความ Unique ในสถานที่ของตน ไม่แปลกใจเลยถึงได้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี เรื่องของพระอารามหลวงแบ่งเป็นสามระดับ ซึ่งแบ่งดังนี้ พระอารามหลวงชั้นเอก จะเป็นโซนเมืองหลวงของไทย คือ กรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นทั้งชั้นในและชั้นนอก เช่น วัดอรุณราชวนาราม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระอารามหลวงชั้นโท จะเป็นโซนปริมณฑล เช่น วัดในจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร พระอารามหลวงชั้นตรี วัดอารามหลวงในต่างจังหวัดที่ไม่ใช่สองข้อที่กล่าวมาข้างต้น จะอยู่ชั้นนี้ส่วนใหญ่ แม้แต่วัดตากฟ้าก็เช่นกัน จะบอกได้ว่าตอนที่ไปนั้นไปช่วงปีใหม่สากล เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา จะรู้สึกได้ว่าที่นี่ร้อนตับแลบเป็นพิเศษ เพราะว่าถ้าเข้าสู่ช่วงเกษตรกรรม ที่นี่จะแล้งง่ายมาก แต่ก็ยังพอมีกินมีใช้อยู่บ้าง จะบอกได้เลยว่าที่นี่มีเนื้อที่กว้างเอาเรื่องอยู่ ถ้าไม่นับในโซนพระอุโบสถกับพระเจดีย์ที่ผู้เขียนถ่ายไว้อยู่นะ วัดนี้จะลานกว้างพอสำหรับงานวัดอย่างอื่น ชนิดที่ว่าจัดงานวัดเรียกคนเข้ามาได้ไม่ยากเลย ความกว้างเป็นข้อได้เปรียบในการใช้สอยพอสมควร นี่ก็เป็นซุ้มของทางวัด ดูมีความบ้าน ๆ เรียบง่ายแต่ดูดี แฝงความน่าสนใจไปในตัว เท่าที่ไปมานะ ทุกอย่างภายในวัดไม่กระจัดกระจายเลย ผู้เขียนชื่นชอบเรื่องการจัดการขยะ วางให้เป็นสัดส่วนชัดเจน ไม่ค่อยได้เห็นขยะนูนขึ้นจนแมลงวันตอมเลย คือดูออกเลยว่าทางวัดใส่ใจ และจัดวางที่นี่เป็นระเบียบมากโดยเฉพาะพรรณไม้ดอกไม้ประดับ ไม่วางแบบขวางทางเดินเท้าเลย แม้แต่กระถางแตกยังไม่มีให้เห็นเลย ผู้เขียนเดินผ่านซุ้มนี้ด้วยความเจริญหูเจริญตา แม้ว่าแดดที่นี่จะร้อน 38 องศา แต่ผู้เขียนเดินชิวในซุ้มนี้อย่างสบายใจมาก สวัสดีพวก...กินตุ้ยเชียวนะ อีกจุดก็เป็นการไถ่ชีวิตโคจากโรงฆ่าสัตว์ ทำให้นึกถึงหนังเรื่องแมงมุมเพื่อนรักเลย ที่เจ้าหมูน้อยถูกช่วยเหลือไม่ให้เป็นสัตว์ที่มีไว้ส่งโรงฆ่าสัตว์เพื่อกินเนื้ออย่างเดียว ที่วัดนี้มีโคอยู่สามตัวที่ไถ่ชีวิตมา แหม...พอให้กินหญ้าเนี่ย แย่งกินอย่างกับแร้งรุมทึ้งเลยนะเจ้าโคพวกนี้ ฉะนั้น บุญกุศลที่ทำไป เอาความอ้วนของฉันไปเพื่อเป็นทานละกัน ฉันจะได้ดูดี ไม่ตันไปมากกว่านี้ นี่ก็เป็นรีวิวท่องเที่ยวในความทรงจำ ฉบับเที่ยวไม่ทั่วของผู้เขียนเอง การจะมาที่นี่ต้องมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว ขอย้ำว่ารถยนต์ส่วนตัว! เพราะมันจะหาทางลัดได้ง่ายกว่ามาหารถโดยสาร ถ้ามาเป็นคณะก็เหมารถตู้มาดี ๆ เพราะมันไกลมาก และอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร การที่จะมาก็ต้องศึกษาเส้นทางดี ๆ เพื่อจะได้ไม่พลาดในภายหลัง เส้นทางมาที่นี่ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าจะถึง เพราะเริ่มต้นจากลพบุรี ถ้ามาจากกรุงเทพควรเผื่อเวลามาเยอะ ๆ หน่อยในยามรถติด อีกทั้งใครเมารถง่ายควรทานยาแก้เมารถ พกผ้าเช็ดหน้ากับยาดมมาด้วย ใส่แมสมาด้วยก็ยิ่งดี เพราะเส้นทางขรุขระ จะทำให้มึนหัวง่ายมาก แล้วที่สำคัญ...ใครที่อุนจิหรือชิ้งฉ่องถามหาบ่อย ๆ กรุณาไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนนะจ๊ะ เพราะเส้นทางเข้าตากฟ้าหาปั๊มแวะยากพอสมควร จึงเป็นเรื่องปราบเซียนมากสำหรับใครที่จะมาวัดตากฟ้า ก็ต้องมีการเตรียมตัวดี ๆ จะได้ไปเที่ยวแล้วไม่เสียอารมณ์มากทั้งตัวเองและคนรอบข้าง ผู้เขียนขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้...สวัสดีจ้า หมายเหตุ รูปทุกรูปรีวิวเอง ถ่ายเองทั้งหมด ใช้เพื่อเป็นสื่อในการเสนอบทความนี้เท่านั้น ใครจะก็อปภาพกรุณาขออนุญาตผู้เขียนก่อนนะจ๊ะ...พลีสสส