การเดินทางมายังพระราชวังสนามจันทร์สามารถมาได้หลายเส้นทาง ถ้ามาโดยรถส่วนตัวแนะนำให้มาถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครปฐม ตรงมาเรื่อย ๆ จนเจอพระปฐมเจดีย์อยู่ข้างหน้า เลี้ยวซ้าย และเลี้ยวขวาที่สี่แยกไฟแดง วิ่งตรงมาผ่านโรงแรมเวลมาไม่ไกลจะเห็นสี่แยกสนามจันทร์ สังเกตป้ายมหาวิทยาลัยศิลปากร ให้เลี้ยวขวา ขับรถไปจนสุดซอยก็จะเจอกับพระราชวังสนามจันทร์ ทางซ้ายมือของทางเข้าจะเป็นที่จอดรถ และไม่เสียค่าใช้จ่าย (ถ้าโดยสารรถสาธารณะ แนะนำเป็นรถตู้ลงหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร นั่งวินมอไซด์ บอกไปหน้าวังสนามจันทร์) (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ถึงทางเข้าเมื่อก่อนจะมีจุดจำหน่ายบัตรเข้าชมพระราชวัง ปัจจุบันไม่สามารถเข้าในตัวพระราชวังได้ เดินผ่านเข้ามาจะพบแผนที่พระราชวังสนามจันทร์ขนาดใหญ่สำหรับศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของสถานที่ (ภาพถ่ายในผู้เขียน) พระราชวังสนามจันทร์ สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับเวลาเสด็จมานมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ และทรงเห็นว่านครปฐมเป็นเมืองที่มีชัยภูมิเหมาะสำหรับต้านทานข้าศึก ซึ่งจะยกเข้ามาทางน้ำได้อย่างดี ด้วยทรงจดจำเหตุการณ์ เมื่อ ร.ศ. 112 ที่ฝรั่งเศสนำเรือรบเข้ามาปิดปากอ่าวไทย จึงสร้างพระราชวังสนามจันทร์ไว้สำหรับเป็นเมืองหลวงที่สอง หากประเทศชาติประสบปัญหาวิกฤติ พระราชวังใช้เวลาก่อสร้างนาน 4 ปี สร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2450 และได้พระราชทานนามว่า พระราชวังสนามจันทร์ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ที่สวนใจกลางบริเวณพระราชวังจะพบกับ ศาลพระพิฆเนศวร เป็นหนึ่งในศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้ศรัทธานับถือกันเป็นจำนวนมาก จนถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของพระราชวังสนามจันทร์ หากเดินวนไปทางขวาจะเจอกับพระตำหนักสีไข่ไก่ มีชื่อว่า พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างศิลปะเรอเนซองส์ของฝรั่งเศส กับอาคารแบบฮาล์ฟ ทิมเบอร์ของอังกฤษ โดยด้านหน้าพระตำหนักคือ อนุสาวรีย์ย่าเหล ซึ่งย่าเหลเป็นสุนัขทรงเลี้ยง และทรงโปรดของรัชกาลที่ 6 ได้ถูกลอบยิง ท่านทรงโทมนัสเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานศพ และสร้างอนุสาวรีย์ย่าเหลขึ้น (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) และนี่เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อยของพระราชวังสนามจันทร์แห่งนี้ ยังคงมี พระที่นั่งพิมานปฐม, พระที่นั่งวัชรีรมยา, พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์, พระตำหนักทับขวัญ, พระตำหนักทับแก้ว แนะนำหากมีเวลาสามารถเข้าชมพระราชวังสนามจันทร์ครบทุกพระตำหนักได้ตลอดในช่วงเวลา 9.00 ถึง 16.00 น. จะเปิดให้บุคคลทั่วไปได้ เดิน – วิ่ง พักผ่อนออกกำลังกายในช่วง 4 โมงเย็นเป็นต้นไป