ความสะดวกสบายของการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าบีทีเอสสู่เมืองรอบปริมณฑลที่เริ่มขยายวงออกไปให้คนต่างจังหวัดและคนในกรุงเทพฯ เดินทางไปมาหาสู่หรือทำงานแบบไป-กลับได้สะดวกสบายและลดเวลาการเดินทาง จากเมื่อก่อนคำว่าปริมณฑลของฉันมักนึกถึงนนทบุรีกับปากน้ำหรือสมุทรปราการ ปัจจุบันอยากควบรวมนครปฐมเป็นอีกหนึ่งจังหวัดปริมณฑลของกรุงเทพฯ เข้าไว้ด้วยกัน จุดตั้งต้นหนทางเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับนครปฐมคือสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า เดินออกมาตามทางเดินลอยฟ้าหรือสกายวอล์คทางออกหมายเลข 6 เนื่องจากฉันออกจากบ้านแต่เช้าไปถึงสถานีก่อนแปดโมงเช้าเล็กน้อย ฝั่งขวามือเป็นคลอง ปรากฏบ้านเรือนแบบสมัยก่อน บ้านอิฐถือปูนสองชั้น ชั้นเดียว ทุกหลังปลูกต้นไม้ร่มรื่น บางหลังมีลานภายในบริเวณบ้านเพื่อรองรับใบไม้ร่วงหล่น บางจุดของฝั่งขวามือยังเป็นที่รกร้าง ที่ดินว่างเปล่า เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ มีต้นมะพร้าวขึ้นประปราย เสียงนกร้องภายในป่ากลางบ้านริมคลอง ส่วนทางด้านซ้ายมือปรากฏปราการขนาดสูง นั่นคือห้องชุดจำนวนหลายชั้นที่สูงตระหง่านให้เห็น ความแตกต่างของซ้ายมือกับขวามือเฉพาะบริเวณช่วงระยะเดินบนสกายวอล์ค ทำให้เห็นสองภูมิทัศน์ของฝั่งซ้ายและขวา ความต่างที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงในกาลเวลา ความดั้งเดิมกับความสมัยใหม่ของเมือง เรียกได้ว่า “สถานีบางหว้า” เป็นอีกจุดหนึ่งของกาลเวลาที่น่าสนใจกับการปะทะกันของความเก่าในแต่ละยุคสมัยกับความใหม่ที่เกิดขึ้นในความเป็นเมือง ทางเดินลอยฟ้าเชื่อมต่อมายังท่าเรือบางหว้า จุดขึ้น-ลงเรืออยู่ใกล้กับบริเวณรถตู้สายบางหว้า-นครปฐม ฉันเดินชมบริเวณรอบ ๆ ระหว่างรอรถตู้คิวต่อไปมารับผู้โดยสาร ท่าเรือบางหว้าบริการเรือโดยสารภายในคลองบางหลวง เส้นทางคือ ท่าเรือวัดกำแพงบางจาก – ท่าเรือวัดทองศาลางาม – ท่าเรือบางหว้า หากใครมีเวลามากพอก่อนออกเดินทางโดยรถตู้สู่นครปฐม นั่งเรือชมวิถีชีวิตริมคลอง หรือจะเดินเลียบคลองที่เป็นทางเดินซีเมนต์อย่างดี คนที่อาศัยละแวกนั้นปั่นจักรยานเลียบคลองซึ่งเป็นเส้นทางคู่ขนานกับคลองที่มีเรือยนต์วิ่งบริการ หรือจะจัดสรรเวลาตอนเดินทางกลับก็ได้ แต่ต้องติดตามข้อมูลล่าสุดของตารางเดินเรือที่ติดประกาศไว้ ในวันที่ฉันไปเรือมีบริการทุกหนึ่งชั่วโมง จากท่าเรือบางหว้าหรือท่า BTS บางหว้าไปยังท่าวัดกำแพง และจากท่าวัดกำแพงมายังท่าBTSบางหว้าก็ทุกหนึ่งชั่วโมงเช่นเดียวกัน ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที ฉันนึกสนุกกับการจับเวลาเดินทางจากบ้านไปสถานีบางหว้าใช้เวลา 40 นาที จากนั้นต่อรถตู้มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม รถจอดที่ท่ารถบริเวณตลาดเมือง “ครฐม” (เรียกสั้น ๆ ตามที่ได้ยินกันติดหู) ใช้เวลา 60 นาที นั่นเท่ากับว่า “ร้อยนาทีสู่องค์พระ” ด้วยราคาค่าโดยสาร 45 บาทตลอดสายจากบางหว้าสู่องค์พระเมื่อเข้าเขตชุมชนเมืองนครปฐมปรากฏองค์พระหรือพระปฐมเจดีย์ให้เห็นรอบทิศ รถตู้ค่อย ๆ เคลื่อนเข้าสู่รัศมีองค์พระ ทำให้รู้สึกว่าตัวผู้โดยสารคือฉันก็กำลังเคลื่อนตัวเองเข้าใกล้องค์พระเช่นเดียวกัน เมื่อถึงจุดหมายฉันมุ่งหน้าไปกราบองค์พระกับพระร่วงโรจนฤทธิ์ ในช่วงบรรยากาศตอนสายของวัน นักท่องเที่ยวยังไม่หนาตา อีกทั้งเป็นวันธรรมดา ฉันรู้สึกว่าเวลาหนึ่งร้อยนาทีที่ใช้ไปเพื่อเดินทางสู่จังหวัดนครปฐม เป็นผลมาจากการเชื่อมเมืองหลวงสู่ต่างจังหวัด ผ่านบริการขนส่งสาธารณะ ทำให้ผู้พำนักที่จังหวัดนครปฐมสามารถเดินทางไป-กลับระหว่างเมืองหลวงกับถิ่นฐาน ขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่เชื่อมเมืองหลวงกับต่างจังหวัด แต่ยังเชื่อมให้คนในครอบครัวได้อยู่ร่วมกันโดยที่อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานเพื่อเข้ามาทำงานต่างถิ่น และยังเชื่อมให้คนจากต่างถิ่นไปเรียนรู้ความเป็นอยู่ของบ้านเมืองในต่างจังหวัดสะดวกขึ้น “ร้อยนาทีสู่องค์พระ” จึงเป็นการเดินทางที่ประทับใจในแง่ของการเดินทางอย่างยิ่ง Story and Photo by Nonglak Butler