เครดิต : ปก โดยผู้เขียน น้ำเบอรี่ลูกหว้า สดชื่นแบบไทย ๆ ร้อน ๆ แบบนี้ เราลองหาเมนูเครื่องดื่มเย็น ๆ มาดับร้อนกันดีไหมคะ ? สำหรับคนที่ไม่ชอบอยู่บ้านแบบเรา ๆ แต่เอ๊ะ เค้าให้กักตัวนี่ ทำอย่างไรดีคะ ? ไม่ได้เที่ยวไม่เป็นไรจ้า เราลองเปลี่ยนมานั่งดูหนังที่บ้านพร้อมจิบน้ำเย็นไปพร้อม ๆ กันดีกว่าจ้ะ ไรเตอร์เป็นเด็กบ้านนอก อาหารและเครื่องดื่มที่นำมารีวิวหรือเสนอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบที่เรามีอยู่แล้วโดยเฉพาะพืชผักและผลไม้ทางการเกษตร ตรงกับแนวคิด อุดหนุนไทย เพื่อคนไทย ชาติรุ่งเรืองค่า เครดิต : ภาพประกอบโดยผู้เขียน ต้นหว้าหรือลูกหว้าแต่เดิมเขาปลูกกันตามคันนาค่ะ เหตุผล นั่นเป็นเพราะ ต้นหว้าเป็นไม้ผลที่ชอบความชุ่มชื้นเป็นหัวใจสำคัญและเป็นเครื่องวัดภูมิอากาศของสถานที่แห่งนั้นไปเลย ถ้าต้นหว้าตายเสียเป็นส่วนใหญ่แสดงว่าตรงบริเวณนั้นแห้งแล้งมากค่ะ เราเรียกผลผลิตจากต้นหว้าว่าลูกหว้าเป็นไม้ผลชนิดหนึ่ง ลักษณะผล เป็นรูปไข่ทรงรี มีลักษณะฉ่ำน้ำ ผลสุกจะเป็นสีม่วงดำมีรสหวานอมเปรี้ยวอมฝาด ในสมัยพุทธกาล เชื่อกันว่า เป็น 1 ใน 8 ผลไม้ที่นำมาทำน้ำปานะมีไว้ให้พระภิกษุฉันยามวิกาล เป็นไม้ผลที่มากไปด้วยคุณค่าและประโยชน์ มีสารแอนโธไซยานิน สามารถต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันภายในร่างกายและลดความเสื่อมของเซลส์ต่างๆ ตลอดจนยับยั้งเซลส์มะเร็งในลำไส้ค่ะ เครดิต : ภาพประกอบโดยผู้เขียน วิธีทำน้ำลูกหว้า นำผลลูกหว้าฝานเอาแต่เนื้อ 3 ถ้วย แล้วให้เทใส่ลงในหม้อ เติมน้ำสะอาดประมาณ 5 ถ้วยตวง ตั้งไฟจนเดือดแล้วยกลงมาค่ะ ใช้ผ้าขาวกรองเอากากออกแล้วเติมน้ำเชื่อมประมาณ 1 ถ้วย เกลือป่น 1 ช้อนชา ตั้งไฟให้เดือด คนให้ละลายจนเข้ากันดี จากนั้นให้เติมน้ำมะนาวตามชอบ ยกลงจากเตารอจนเย็นตักบรรจุขวดที่นึ่งฆ่าเชื้อได้เลยค่ะ เครดิต : ภาพประกอบโดยผู้เขียน เวลาจะกินให้ใส่น้ำแข็งนะคะ รสเปรี้ยวอมหวานที่อยู่ในน้ำลูกหว้าจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าหายเบื่อไปได้พอสมควรเลยจ้า อยากได้เทคนิคเพิ่มเติมลองติดต่อไปที่ คุณชาตรี www.kruchatri.com ได้เลยค่ะ มีเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับเกษตรและการแปรรูปอาหารอยู่หลายรายการ แล้วเพื่อน ๆ จะสนุกกับการเรียนรู้เพื่อที่จะเริ่มทำด้วยตัวเองกันจ้า