ตำนานพระประโทนเจดีย์ข้อมูลจาก หนังสือวัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดนครปฐม ผู้จัดทำ คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้มีการกล่าวถึง ตำนานพระประโทนเจดีย์ เรื่อง “ท้าวศรีสิทธิชัยพรหมเทพ”ไว้ดังนี้ ตำนานพระประโทนเจดีย์ กล่าวไว้ว่า บริเวณพระประโทนเคยเป็นที่อยู่ของพราหมณ์จากอินเดียตระกูล โทณะพราหมณ์ โดยพราหมณ์ตระกูลนี้ได้นำเอาทะนานทองที่ใช้ตวงพระบรมสารีริกธาตุพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาด้วย โดยได้สร้างเรือนศิลาไว้สำหรับประดิษฐานทะนานทองนี้ ต่อมาพระเจ้าศรีสิทธิชัยผู้ปกครองดินแดนบริเวณนครปฐมโบราณได้มาขอทะนานทองจากตระกูลโทณะพราหมณ์ แต่พวกพราหมณ์ไม่ยอมให้ พระเจ้าศรีสิทธิชัยจึงใช้กำลังเข้าแย่งเอา เพื่อไปแลกกับพระบรมสารีริกธาตุจากลังกา เพื่อมาบรรจุไว้ที่พระปฐมเจดีย์ ต่อมาพระเจ้ากากะวรรณดิสซึ่งครองเมืองละโว้ได้ทรงสร้างเจดีย์ครอบเรือนศิลาที่เคยประดิษฐานทะนานทองของตระกูลโทณะพราหมณ์ ดังนั้นเจดีย์ที่ก่อครอบเรือนศิลานี้จึงเรียกว่า “โทณะเจดีย์” หรือพระประโทนเจดีย์ในกาลต่อมา ข้อมูลจาก หนังสือพญากง พญาพาน จากนิทานพราหมณ์ สู่ชื่อบ้านนามเมือง และเรื่องพระปฐมเจดีย์ ผู้จัดทำ ศูนย์สยามทรรศน์ศึกษา ร่วมกับ หน่วยวิชาการเชิงสร้างสรรค์และชุมชนสัมพันธ์ คณะศิลปศาสตร์ มหาลัยมหิดล ได้มีการกล่าวถึงตำนานพระประโทนเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ไว้ดังนี้ สาเหตุที่ชื่อตำบลพระประโทน เป็นเพราะตำบลนี้มีเจดีย์องค์ใหญ่อยู่องค์หนึ่ง คือ พระประโทนเจดีย์ ประวัติของพระประโทนเจดีย์เล่ากันว่าในสมัยที่พระยากงเป็นเจ้าเมืองศรีวิชัย พระมเหสีประสูติโอรสองค์หนึ่งชื่อว่าพระยาพาน โหรได้ทำนายว่าต่อไปในอนาคต พระยาพานจะฆ่าพระบิดาคือพระยากงโหรได้แนะนำว่าให้ฆ่าพระยาพานเสียตั้งแต่เยาว์วัย เป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม ฝ่ายพระมเหสีของพระยากง ซึ่งเป็นพระราชมารดาของพระยาพานได้ทราบข่าวร้ายอันจะเกิดขึ้นกับพระราชโอรส พระนางจึงได้ลอบนำเอาพระยาพานไปฝากไว้กับยายหอม พอพระยาพานเจริญวัยยายหอมได้นำไปฝากให้เป็นบุตรบุญธรรมของพระยาราชบุรี ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของเมืองศรีวิชัยพระยาพานเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาดและมีความกล้าหาญไม่ประสงค์ให้เมืองราชบุรีเป็นเมืองขึ้นของเมืองศรีวิชัย และงดส่งเครื่องบรรณาการ ฝ่ายพระยากงเห็นว่าพระยาราชบุรีเป็นกบฏจึงยกทัพไปปราบพระยาราชบุรีโปรดให้พระยาพานออกรับศึก พระยาพานได้กระทำยุทธหัตถีกับพระยากง พระยากงแพ้ถูกฆ่าตาย พระยาพานจึงยกกองทัพบุกเมืองศรีวิชัย และมีความประสงค์ในตัวพระมเหสีของพระยากงมาเป็นภรรยาของตน แต่ภายหลังรู้ว่าเป็นมารดาของพระองค์เองก็ทรงเสียพระทัย และโกรธยายหอมเป็นอย่างมาก เพราะไม่บอกให้พระองค์ทราบความจริง พระยาพานจึงฆ่ายายหอมผู้มีพระคุณเสีย หลังจากที่ฆ่ายายหอม และพระยากงผู้เป็นบิดาแล้วก็สำนึกบาป เพื่อเป็นการถ่ายบาปให้ลดลง จึงได้สร้างเจดีย์ขนาดใหญ่ขึ้นสององค์ องค์แรกคือพระปฐมเจดีย์ เพื่ออุทิสผลบุญให้กับพระราชบิดาผู้บังเกิดเกล้า องค์ที่สองคือพระประโทนเจดีย์ เพื่ออุทิศผลบุญแก่ยายหอมผู้มีพระคุณ พระประโทนเจดีย์มีลักษณะเป็นปรางค์องค์ใหญ่ ล้อมรอบด้วยเนินปรางค์ สูงจากพื้นดินประมาณ ๒๐ เมตร ต่อมาเมื่อมีราษฎรเข้าไปตั้งถิ่นฐานในบริเวณใกล้เคียงกับพระประโทนเจดีย์มากขึ้น จึงได้ตั้งเป็นตำบลเรียกว่า ตำบลพระประโทน ข้อมูลจาก ป้ายข้อมูลจากสถานที่จริงที่พระประโทนเจดีย์ ได้มีการกล่าวถึง ตำนานพระประโทนเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ไว้ดังนี้ เรื่องมีอยู่ว่าท้าวสิกราชครองเมืองศรีวิไชย คือ เมืองนครไชยศรี มีบุตรชื่อพระยากง ต่อมาพระยากงได้ครองเมืองศรีวิไชยต่อจากบิดา และพระมเหสีได้ประสูติพระกุมาร โหรทำนายว่า พระราชกุมารเป็นผู้มีบุญญาธิการมาก แต่จะทำปิตุฆาตพระยากงจึงรับส่งให้นำพระกุมารไปทิ้งเสีย ทหารได้นำพระกุมารไปทิ้งไว้ที่ชายป่าไผ่ริมบ้านยายชม เมื่อยายพรหมมาพบจึงเก็บไปเลี้ยงไว้ โดยไม่รู้ว่าเป็นบุตรของผู้ใด แต่ยายพรหมเป็นคนมีลูกหลานมาก จึงยกพระกุมารให้กับยายหอมไปเลี้ยงไว้แทน ต่อมาเจ้าเมืองราชบุรีได้รับพระกุมารไว้เป็นบุตรบุญธรรม เมื่อ พระกุมารเติบใหญ่ ได้ทราบว่าเมืองราชบุรี เป็นเมืองขึ้นของศรีวิไชย ต้องส่งเครื่องราชบรรณาการทุกปีจึงคิดแข็งเมือง ไม่ยอมส่งเครื่องราชบรรณาการ พระยากงจึงยกทัพมาปราบ และกระทำยุทธหัตถีกับพระราชกุมารพระยากงเสียทีถูกรพระกุมารฟันด้วยของ้าวคอขาดสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง พระกุมารจึงยกรี้พลเข้าเมืองศรีวิไชย และประสงค์จะได้พระมเหสีของพระยากงเป็นภรรยาแต่เทพยดาได้แสดงนิมิต จนในที่สุดก็ทราบว่าเป็นแม่ลูกกัน จึงโกรธยายหอมที่ไม่ยอมเล่าความจริงให้ตนทราบ ทำให้ต้องทำปิตุฆาต จึงไปที่บ้านยายหอมและจับยายหอมฆ่าเสีย ตนทั่วไปจึงเรื่องพระกุมารว่า “ พระยาพาน ” ด้วยเหตุที่ฆ่าพ่อและยายหอมผู้มีพระคุณ เมื่อพระยาพานได้ครองเมืองนครไชยศรี รู้สึกสำนึกในบาปที่ตนได้กระทำไป จึงคิดไถ่บาปโดยจัดประชุมพระอรหันต์ เพื่อหารือและได้รับคำแนะนำว่าให้สร้างพระมหาเจดีย์ใหญ่สูงชั่วนกเขาเหิน จึงส่งการให้ก่อรากพระเจดีย์สามแท่นที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาบรรทม นำฆ้องใหญ่ซึ่งตีสามโหม่งดังกระหึ่มไปจนถึงค่ำ มาหนุนไว้ใต้พระแท่นบรรทม เจดีย์ที่สร้างเป็นทรงร้องฟาง สูงชั่วนกเขาเหินไม่มีลานประทักษิณ ภายในบรรจุพระทันตธาตุ คือ พระเขี้ยวแก้วองค์หนึ่งแล้วให้มีการฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน ต่อมาพระเจ้าหงษาผู้เป็นใหญ่ในเมืองมอญ ต้องการได้ฆ้องใหญ่ จึงยกรี้พลมาขุดเอาฆ้อง แต่เมื่อขุดฆ้องก็ยิ่งจมลงไปทำให้เจดีย์ทรุดพัง จึงบูรณะเจดีย์ขึ้นใหม่โดยก่อเป็นองค์ปรางค์ ตั้งบนหลังองค์ระฆังของเจดีย์เดิมที่พังลง มีลานประทักษินรายรอบ ก็ยังไม่สูงเท่าเก่า จึงสร้างเจดีย์รอบวิหาร กับทั้งอุโบสถเพิ่มเติมลงอีก ความสำคัญในตำนานมีเพียงเท่านี้ รูปภาพจาก proud of you