อื่นๆ

คำฆ่าคน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
คำฆ่าคน

คำฆ่าคน

คุณเชื่อเรื่องของคำด่า หรือคำสาปแช่งไหมคะ ว่าคำด่า หรือคำสาปแช่งบางคำที่ใครบางคนพูดออกมาโดยที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะให้เกิดดั่งคำที่พูดออกไป อาจจะพูดไปด้วยความโกรธ หรือความโมโห อาจจะทำร้ายใคร หรือฆ่าใครบางคน โดยที่คนพูดไม่รู้ตัว

เหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ อารีย์เพื่อนข้างบ้านของฉันค่ะ

อารีย์ เป็นเพื่อนที่น่ารัก นิสัยดีมากสำหรับฉัน เธอเป็นทั้งเพื่อนคุย เพื่อนเล่นกับฉันมาตั้งแต่เด็กๆ เราเลยสนิทกันมาก  แต่ฉันสังเกตว่าเธอชอบมีปัญหากับแม่ของเธอ ฉันมักจะได้ยินแม่ของเธอด่าว่าเธอทุกวัน ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันนี้แม่ของเธอมักโทษแต่เธอว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอเสียชีวิต

และเหตุการณ์วันที่พ่อของอารีย์เสียชีวิตฉันยังจำได้ไม่มีวันลืม

วันนั้นฉันเล่นวิ่งไล่จับกับอารีย์ พ่อของอารีย์ก็นั่งดูเราเล่นอยู่ไม่ห่าง ในขณะที่เราเล่นอยู่นั้นอารีย์ก็วิ่งออกไปกลางถนน พร้อมกับมีรถวิ่งมาอย่างแรง พ่อของอารีย์เห็นจึงวิ่งไปผลักอารีย์ออก ทำให้พ่อของเธอโดนชนเข้าอย่างจัง ทำให้ท่านเสียชีวิตคาที่ จากเหตุการณ์ในวันนั้นจึงทำให้แม่ของอารีย์โทษว่าเธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อของเธอต้องตาย อารีย์เองก็โทษตัวเองมาตลอดว่าเธอทำให้พ่อของเธอต้องตาย

Advertisement

Advertisement

เวลาผ่านมาร่วม 15 ปี แม่ของเธอยังคงด่าว่าเธอ บางทีฉันได้ยินก็แอบสงสารอารีย์ ว่าทำไมแม่ของเธอจึงไม่ยอมลืมเรื่องนั้นสักที นับวันคำด่าก็กลายเป็นคำสาปแช่ง

“มึงทำให้พ่อมึงตาย อีลูกเวรเกิดมาไม่มีอะไรดีซักอย่าง มึงไม่มีวันตายดีหรอก ไปตายที่ไหนก็ไป”

ฉันได้ยินคำนี้ฉันก็ถึงกลับสะดุ้งกับคำด่าที่แม่ของอารีย์ด่าเธอ ตอนนั้นฉันเป็นห่วงอารีย์เลยไปยืนแอบฟังอยู่ที่ข้างรั้วบ้าน ฉันเองก็แอบภาวนาอย่าให้อารีย์เถียงแม่ของเธอเลย

ทุกครั้งที่แม่ของอารีย์ด่าเธอ เธอมักจะเถียงอยู่ตลอดทำให้บางครั้งคนข้างบ้านอย่างฉันต้องเข้าไปห้ามปราม แต่วันนี้ อารีย์กลับไม่เถียงแม่ของเธอเลยซักคำ พูดแต่ว่า

“ได้แม่ หนูรู้ว่าหนูผิดที่ทำให้พ่อตาย หนูจะชดใช้ให้แม่และกัน”

พูดเพียงเท่านั้น เสียงประตูดัง ปัง! แล้วทุกอย่างก็เงียบลง ฉันนึกโล่งใจ ที่วันนี้เหตุการณ์สงบลงด้วยดี แต่มันจะดีอย่างที่คิดหรือเปล่า ฉันเองก็กังวลใจในสิ่งที่อารีย์พูดอยู่ดี

Advertisement

Advertisement

...ที่ว่าจะชดใช้นั้น อารีย์จะทำอะไร หรือพูดเพียงแค่โมโห

พอฉันเห็นเหตุการณ์สงบลงฉันก็เลยเดินเข้าบ้านไปนอน พอเช้าตื่นมาฉันเดินไปชะเง้อมองที่ข้างรั้ว เพื่อดูว่าอารีย์เป็นอย่างไรบ้าง แต่บ้านดูเงียบสงบ ปกติพอแม่ของเธอออกไปทำงานเธอจะออกมาทำงานบ้าน แต่วันนี้กลับดูเงียบๆ ผิดปกติ ฉันเลยเดินไปที่หน้าบ้านแล้วยืนตะโกนเรียก

“อารีย์ๆ อยู่บ้านหรือเปล่า” ทุกอย่างเงียบสนิทไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ฉันเลยเดินกลับเข้าบ้านเพราะคิดว่าอารีย์คงออกไปข้างนอก

จนกระทั่งช่วงเที่ยง ฉันชะเง้อมองอารีย์จากระเบียงหน้าห้อง ก็เห็นเธอเดินอยู่ในบ้านฉันเลยตะโกนเรียกเธอ

อารีย์หันมายิ้มให้ฉัน และเธอก็เดินไปทำงานบ้านของเธอต่อ ฉันเองก็แต่งตัวเพื่อออกไปทำงานในช่วงบ่าย ขณะที่ฉันเดินออกจากบ้าน ฉันก็เห็นอารีย์ยืนกวาดบ้านอยู่หน้าบ้าน ฉันเลยตะโกนบอกเธอว่า

Advertisement

Advertisement

“อารีย์เราไปทำงานก่อนนะ อย่าคิดมากละ” อารีย์ยิ้มพลางยกมือโบก บ๊าย บาย ให้ฉัน

ฉันออกไปทำงาน กลับมาก็ 4 ทุ่ม ทุกอย่างดูเงียบสงบ ที่บ้านของฉันไม่มีใครเลยสักคน ฉันเลยเดินไปดูที่บ้านอารีย์ เห็นเธอยืนอยู่หน้าบ้านพอดี ฉันเลยตะโกนถาม

“อารีย์รู้ไหม ที่บ้านเราเขาไปไหนกันหมด” แต่อารีย์ไม่ตอบฉันและเดินกลับเข้าไปในบ้าน ฉันแปลกใจที่เธอไม่ยอมพูดกับฉัน หรือเธออาจจะทะเลาะกับแม่อีกแล้ว พอฉันคิดนู้นคิดนี่อยู่ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันกดรับและยกหูโทรศัพท์ขึ้นเพื่อฟังเสียงจากปลายสาย

“นา แม่ให้พี่ไปรับแล้วนะ ทุกคนอยู่ที่วัดกันหมดแล้ว”

“ไปทำไมกันที่วัดคะแม่” ฉันถามขึ้นด้วยความสงสัย

“อารีย์เสียแล้วนะลูก เธอผูกคอตายตั้งแต่เมื่อคืน”

ฉันยืนอึ้งไปสักพัก “ไม่จริงอะแม่ เมื่อกี้หนูยังเจออารีย์อยู่เลย ตอนเที่ยงหนูก็เจอ”

“จริงลูก แม่ให้พี่ไปรับแล้วเดียวเราค่อยคุยกันนะ”

ฉันยืนนิ่งอยู่หน้าบ้านสักพักใหญ่ จนพี่ของฉันมารับไปที่วัด ฉันไม่พูดจากับใครเลย ตอนนั้นในหัวฉันคิดแต่ว่า มันไม่จริงๆ จนฉันเดินไปอยู่หน้าโลงศพของอารีย์  ขาฉันถึงกับหมดเรี่ยวแรงทรุดลงกับพื้น ตอนนั้นฉันไม่กลัวเธอเลยสักนิดแต่ฉันสงสารอารีย์มากที่ต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ จนเธอต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้

พี่ของฉันรีบวิ่งมาดู และพยุงฉันไปนั่งที่เก้าอี้ ฉันหันไปมองหน้าแม่ของอารีย์ที่กำลังนั่งร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า ฉันพูดพึมพำเบาๆ

“นี่สินะที่แม่ของเธอต้องการ” ฉันนึกแค้นใจแม่ของอารีย์ ที่ทั้งพูดทั้งด่าอารีย์ มากว่า 15 ปี จนทำให้อารีย์ต้องฆ่าตัวตาย คงสาแก่ใจแล้วสินะ  ฉันนั่งร้องไห้อยู่สักพักจนควบคุมสติของตัวเองได้ และลุกเดินออกไปหาแม่ของฉัน ฉันเล่าให้แม่ของฉัน และป้าต้อย แม่ของอารีย์ฟัง ว่าฉันเจออารีย์ยังอยู่ที่บ้าน ป้าต้อยถึงกับร้องไห้ และเอาแต่โทษตัวเอง ว่าเธอทำให้ลูกของเธอต้องตาย

“ก็ป้าต้อยเองก็ต้องการให้เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ทั้งคำด่า ทั้งคำสาปแช่งไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะไล่ให้อารีย์ไปตาย ไหนจะแช่งให้อารีย์ไม่ตายดี” ฉันทนไม่ไหวที่เห็นป้าต้อยมารู้สึกผิดเอาตอนนี้

แม่ของฉันสั่งพี่ให้พาฉันกลับบ้านไปก่อน ฉันเองก็ยอมเดินออกไปและกลับบ้านโดยดี ฉันนั่งร้องไห้และ โทษว่าเป็นความผิดของป้าต้อยมาตลอดทางโดยที่พี่ของฉันไม่พูดอะไรสักคำ พอมาถึงบ้านฉันก็เดินขึ้นบ้าน และอาบน้ำนอน เพราะฉันเองก็ไม่อยากคิดอะไรต่อไปแล้ว

หลังจากวันนั้นฉันกับครอบครัวไปช่วยงานศพทุกคืน และไม่มีใครเจออารีย์อีกเลย แต่มีเพียงฉันที่บางครั้งก็ได้ยินเสียงร้องไห้มาจากบ้านของเธอ

ส่วนป้าต้อย หลังจากเผาศพอารีย์เสร็จก็ไปพักอยู่กับญาติๆ ถัดจากบ้านของป้าต้องไปอีกสองหลัง เพราะป้าต้อยเองก็ยังทำใจกับการจากไปของลูกไม่ได้ และก็โทษอยู่เสมอว่าตัวเองทำให้ลูกต้องตาย ฉันว่านี่ก็อาจเป็นเวรกรรม ที่แต่ก่อนป้าต้อย คอยโทษแต่ว่าอารีย์เป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อของเธอต้องตาย ป้าต้อยเลยต้องมารับความรู้สึกนี้บ้าง ส่วนบ้านหลังนั้นก็กลายเป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่ นานๆที ป้าต้อยถึงเข้ามาทำความสะอาดสักที

แต่ในใจลึกๆ ของฉันเองก็ยังคงโทษว่าป้าต้อยเป็นสาเหตุที่ทำให้อารีย์ต้องตาย อาจจะเป็นคำสาปแช่งคืนนั้นที่ทำให้อารีย์น้อยใจ คิดฆ่าตัวตาย ถึงฉันจะไม่อยากคิดแบบนั้นก็ตาม แต่มันก็อดคิดไม่ได้

มีอยู่คืนหนึ่งในขณะที่ฉันนอนหลับหลังจากทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ฉันฝันว่าอารีย์มานั่งร้องไห้ที่ปลายเตียงของฉัน เธอบอกว่า อย่านึกโกรธ หรือโทษแม่ของเธอเลย และอารีย์ยังบอกอีกว่าอยากให้แม่ของเธออโหสิกรรมให้เธอด้วย

เพราะเธอไปไหนไม่ได้เพราะคำด่า และคำสาปแช่งยังคงรั้งเธอไว้ที่บ้านหลังนั้น และเธอเองยังคงรู้สึกผิดในทุกเรื่อง เธออยากให้แม่อโหสิกรรมให้

พออารีย์พูดเสร็จเสียงร้องไห้ก็ดังขึ้น ดังขึ้น จนทำให้ฉันสะดุ้งตื่น ฝันนี้มันเหมือนจริงมาก

ฉันเลยรีบลงไปเล่าเรื่องที่ฉันฝันให้แม่กับพี่ฟัง แม่เลยพาฉันไปหาป้าต้อย และให้ฉันกราบขอโทษป้าต้อยที่ฉันกล่าวโทษว่าป้าต้อยเป็นสาเหตุที่ทำให้อารีย์ต้องตาย ซึ่งฉันก็ทำตามความต้องการของอารีย์

และยังขอให้ป้าต้อยอโหสิกรรมและถอนคำด่า คำสาปแช่งต่างๆ ที่ป้าต้อยเคยด่าเคยแช่งอารีย์ไว้ และขอให้เลิกกล่าวโทษว่าอารีย์นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอต้องตาย พร้อมกับเล่าสิ่งที่ฉันฝันให้ป้าต้อยฟัง

ป้าต้อยถึงกับร้องไห้โฮออกมา เมื่อได้ฟังสิ่งที่ฉันเล่า พร้อมกับทำตามสิ่งที่ฉันกับแม่ขอ ป้าต้อยเลยนิมนต์พระ 1 รูป เพื่อไปทำพิธีที่บ้านของป้าต้อย ป้าต้อยทำตามที่หลวงพี่บอกทุกอย่าง ว่าให้จุดธูป 1 ดอก และอยากพูดอะไรก็พูดกับลูกไป

ป้าต้อยพูดอะไรฉันเองก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่ฉันว่าท่านก็คงอโหสิกรรมให้อารีย์ในสิ่งที่อารีย์ทำกับท่าน และที่ท่านพลั้งปากพูดในสิ่งที่ท่านไม่คาดคิด ว่าจะทำร้ายจิตใจของอารีย์จนเธอคิดฆ่าตัวตาย

หลังจากเสร็จพิธี ป้าต้อยมานั่งที่บ้านฉันและปรับทุกข์กับแม่ของฉัน ป้าต้อยแกบอกว่า “ชีวิตของป้าไม่เคยทำอะไรดีๆ ให้อารีย์มันเลย คอยแต่จะด่าว่ามัน ไม่ใช่ป้าไม่รักมันนะ ป้ารักมันมาก อาจจะเป็นเพราะป้าเสียใจกับการตายของพ่ออารีย์มาก ป้าไม่รู้จะโทษใคร ป้าก็เลยไปโทษมันว่าอารีย์มันเป็นคนทำให้พ่อมันตาย ป้าไม่คิดเลยว่าคำที่ป้าด่า ป้าว่ามันนั้น จะทำให้มันคิดฆ่าตัวตาย และยังเป็นบ่วงรั้งมันไม่ให้มันไปไหนอีก” ป้าต้อยระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทั้งหมด พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

ฉันเองก็สงสารป้าต้อยที่แบกความทุกข์มาตลอด ไม่น้อยกว่าอารีย์เลย ฉันว่าอารีย์ก็คงยกโทษให้แม่ของเธอ และเธอเองก็คงหลุดจากบ่วงที่รั้งเธอไว้ในที่สุด และหวังว่าอารีย์คงจะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่เหมาะสมต่อไป  ฉันไม่คิดเลยว่าคำพูดนั้นจะเป็นสิ่งที่สำคัญขนาดนี้  ถ้าพูดในทางที่ดี มันก็ดีไป แต่กลับกันถ้าพูดกล่าวร้าย ด่า หรือสาปแช่ง ก็อาจจะเป็นคำที่ฆ่าคนได้เลยทีเดียว เหมือนกับเรื่องของอารีย์ที่ฉันเจอมากับตัว

.....................................................................................................................

ภาพโดย Mandy Fontana จาก Pixabay

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์