อื่นๆ

กอดต้นไม้ ให้หัวใจซึม "สุข"

176
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
กอดต้นไม้ ให้หัวใจซึม "สุข"

สำนักงานข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานถึง ความน่ากลัวของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่คนทั้งโลกหวาดผวามาโดยตลอด และช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบกิจกรรมที่ น่าสนใจในชีวิตที่จะต้องถูกเปลี่ยนไปทั้งวิถีการดำเนินชีวิต การปฏิบัติและการสัมพันธ์กับผู้อื่น สิ่งที่รอยเตอร์นำเสนอแม้จะผ่านมาสามเดือนกว่า ก็มีส่วนที่คับคล้ายกับกิจกรรมที่เรา พึ่งจะเริ่มสนุกในรายวันนั่นก็คือ การกอดต้นไม้

ครั้งก่อนนั้น เราคุยเรื่องการกอดต้นไม้ที่เป็นเรื่องของการเข้าไปหาเพื่อกระซิบรัก และได้ความสุขนั้นกลับมา แต่ทว่าครั้งนี้ ผู้เขียนได้ไปนั่งทบทวนถึงข้อดีในรายละเอียดที่ขอพูดถึง สองประการก็คือ

  • บทบาทของต้นไม้กับการเป็นผู้เยียวยาความเหงาที่เข้าใจมนุษย์ในช่วงวิกฤต โดยเฉพาะโควิด 19
  • บทบาทของต้นไม้กับอานุภาพของการสร้างพื้นที่สัมพันธภาพอย่างอิสระที่จะส่งมอบความรัก

Advertisement

Advertisement


กอดต้นไม้

ผมนั่งอ่านข่าวย้อนหลังจากรอยเตอร์ ก็พบว่า ต้นไม้สามารถทำให้ความเครียดของผู้คนลดลงในหลาย ๆ ประเทศ ในฐานะที่ผู้เขียนไม่ใช่นักวนศาสตร์ คงมิอาจฟันธงได้ว่า มันลดอาการของผู้ป่วยในโรคซึมเศร้าได้ แต่ในภาวะเศร้า หรือเหงา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิดนี้ มันสามารถช่วยได้จริง ๆ จากข่าวการกอดต้นไม้ของคนในประเทศต่าง ๆ พบว่า ประโยชน์ของกิจกรรมน้อย ๆ นี้ ระบายความเหงาในวันที่เราต้องห่างกันได้ดีทีเดียว แน่นอนว่า การกอดต้นไม้นั้น ไม่จำเป็นต้องวิ่งไปกอดต้นเดียวกันเสมอใช่ไหมล่ะครับ หากแต่การเดินเข้าไปอาบป่า เหมือนชาวญี่ปุ่นก็จะทำให้เรารู้สึกว่า พลังธรรมชาติทั้งมวลจะชำระให้สภาวะใจของเรามีความปิติอย่างแน่นอน

อินดี้กอดต้นไม้กลับเข้ามาที่กิจกรรมส่วนตัวของเราในฐานะครอบครัวที่พาลูกอ่อนหัดวิ่งไปสัมผัสสิ่งเหล่านี้ มันน่ากลัวในสายตาผู้อื่นที่ผ่านพบและห่วงใยไม้น้อยเลยทีเดียว เช่น กลัวมดกัดลูกเจ็บ กลัวสัตว์มีพิษ อะไรทำนองนั้นซึ่งพอเข้าใจได้

Advertisement

Advertisement

ผมมีข้อแนะนำเบื้องต้น ก็คือว่า เราควรที่จะเป็นผู้นำและเลือกให้เขาว่า สิ่งใดจะไม่เป็นภัยต่อคนที่เรารัก นั่นก็คือ อาจจะต้องกอดในต้นที่คิดว่า ปลอดภัย แต่ก็ยังไม่ใช่ทางออกเสมอไป เพราะการสนุกสนานของเด็ก ๆ มักจะออกนอกลู่เส้นทางตามความสนใจของตนเองและไม่สนใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่คอยบังคับเหมือนกันนะครับ ต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณาและลองดูตามความเหมาะสม

แต่สิ่งที่ผมพบก็คือ การกอดและการเชคแฮนด์ก้บต้นไม้ในภาวะหวาดหวั่นเช่นนี้ มีความเสี่ยงน้อยกว่า การกอด จูบ จับมือ และหอมแก้มของมนุษย์เหงา ๆ ที่เขาทำกัน

ภาพผู้เขียน

อดทนรอนะครับ ว่า วันหนึ่งสักวันโรคร้ายก็จะหายไปด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ แต่ก็อดชื่นชมคาราวะนักเพาะพันธุ์เมล็ดและลงมือปลูกให้ลูกหลานของธรรมชาตินั้นเติบใหญ่มาเติมเต็มความเมื่อยล้าที่ประสบจากการไม่ไว้วางใจซึ่งกันของมนุษย์เอง ซึ่งทำให้หลายคนต้องออกห่างกันเพื่อความสบายใจ

Advertisement

Advertisement

ผมเคยได้ฟังคุณหมอท่านหนึ่งกล่าวว่าปัญหาของโรคซึมเศร้า ที่มีความน่ากังวลใจ ที่ทำให้มนุษย์กระทำต่อชีวิตของตนเองในเชิงลบคือ การขาดความสัมพันธ์ หรือ Lack of Connection ซึ่งสิ่งนี้เองโรคระบาดไวรัสโควิดก็มาตอกย้ำความเป็นเชื้อไฟในการติดต่อซึ่งกันและกันของพวกเรา ทางเลือกน้อย ๆ คือ การค่อย ๆ โอบกอดผู้ฟังที่ดีที่มีชีวิตอย่างเรา ๆ จะเป็นใครไปไม่ได้ กอดพี่ต้นไม้ไว้แน่น ๆ นะครับ

อินดี้กอดต้นไม้ครับ

หากว่า มนุษย์เป็นโรคซึมเศร้าได้

ทำไมถึงไม่เลือกที่จะซึมสุข โดยการกอดพี่ต้นไม้ล่ะครับ จริงไหม

อินดี้

เป็นกำลังใจให้สำหรับ ทุกความเหงา แล้วเรามาโอบกอดต้นไม้กันไปพราง ๆ ก่อนดีกว่าเนาะ

ผมมีคลิปวิดีโอ ในการวิ่งเล่นเอาไปเป็นตัวอย่างของคนบ้ากอดต้นไม้ได้เลยครับ คลิก ๆ

ซึ่งถ่ายเล่นที่มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อค่ำวานนี้เองครับ

ขอบคุณนายแบบ ลูกชายผู้เขียนเองครับ เจ้าอินดี้

เล่าเรื่องโดยชาตรี ลุนดำ

ถ่ายภาพโดยภรรยา ชยธิดา ลุนดำ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์