สำหรับเด็กปีสี่ที่กำลังวุ่นอยู่กับทำวิจัย หรือโปรเจคจบนั้น ช่วงเวลานี้เองคงเป็นเวลาที่เครียดและเหนื่อยเอามาก ๆ เช่นเดียวกับผู้เขียนเองที่แทบไม่มีเวลากลับบ้าน หรือไปพักผ่อนที่ไหนเลย แต่ความเหนื่อยล้าดังกล่าวนั้นก็ทำให้ตัดสินใจจองตั๋วบินไปชาร์จแบตเพื่อเพิ่มพลังงานกันหน่อย ทริปนี้จึงเซจากงานกองโต ๆ ไปซบอกเขาใหญ่ แม้ว่าเขาใหญ่จะเป็นที่รู้จัก และได้รับการรีวิวมามากมายแล้ว แต่สถานที่แห่งนี้ยังคงเป็นที่คลาสสิกสำหรับคนรักธรรมชาติอยู่เสมอ ถ้าจะมาให้ถึงเขาใหญ่นั้น เราต้องมาสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริงรับอากาศหนาว แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตที่ทำอะไรช้า ๆ ด้วยการมากางเต็นท์นอน และปิ้งย่างหมูกระทะกินชิล ๆ นั้นแสนจะสบายใจแค่ไหน สำหรับเขาใหญ่มีการจัดลานให้กางเต็นท์ไว้สองที่ด้วยกัน คือลานกางเต็นท์ลำตะคอง และลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ ผู้เขียนเลือกไปกางเต็นท์ผากล้วยไม้เพราะสงบและเป็นสัดส่วนกว่า (จริง ๆ ก็ไม่ได้เลือกเองหรอกค่ะ แต่เห็นดีเห็นงามไปกับพี่สาว5555) ส่วนลานกางเต็นท์ลำตะคองบรรยากาศดูคึกคักกว่า กำลังช่วยกันกางเต็นท์ ทุลักทุเลกันนิดหน่อย กางเต็นท์เสร็จแล้ว น้องกวางมองมาทางนี้หน่อยยยย ใครที่ไม่มีเต็นท์ก็สามารถเช่าได้จากอุทยานเลยนะคะ ราคาเช่าเต็นท์และราคาค่าเข้ากางเต็นท์นอนสำหรับครั้งนี้รวม ๆ 500 กว่าบาทค่ะ คือไปกันสี่คน นอนเต็นท์เดียวเอาอยู่ค่ะ อากาศกลางคืนหนาวมาก ๆ นอนกอดหลานทั้งคืนเลย หลังจากกางเต็นท์เสร็จก็ขับรถไปตามเส้นทาง แล้วมาเจอน้ำตกเหวสุวัต อยู่ไม่ไกลจากลานกางเต็นท์ค่ะ แต่ช่วงนี้น้ำน้อย แทบจะไม่มีน้ำเลย โดยปกติจะไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ เพราะอันตรายมาก ข้างล่างน้ำตกเป็นผาที่มีช่องลึกเข้าไป ถ้าใครเล่นน้ำแล้วไปติดอยู่ในนั้นคืออันตรายสุด ๆ เลยนะคะ ทางลงน้ำตกจะชันนิดนึงนะคะ แต่เราสู้ค่ะ ไปกันเลยยย บรรยากาศน้ำตกเหวสุวัต ไม่มีน้ำเลยค่ะช่วงนี้ หลังจากไปน้ำตกกันมาแล้ว เราก็กลับไปที่เต็นท์เพื่อจุดไฟทำหมูกระทะกัน ที่ลานกางเต็นท์มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ แล้วก็ชุดทำหมูกระทะขายด้วยนะคะ ชุดละ 350 บาท แต่ผู้เขียนเตรียมมาเองจากบ้านค่ะ เพราะไม่ทราบว่าเขามีขาย TT เย็น ๆ นี่อากาศเริ่มหนาวมาแล้วค่ะ ตอน18.00 น. ประมาณ 24 องศา หนาวมากกกกก เพราะเป็นคนขี้หนาวแล้วก็เป็นภูมิแพ้ด้วย สั่นเป็นเจ้าเข้าเลยค่ะ55555 ลืมถ่ายรูปหมูกระทะค่ะ เอาบรรยากาศตอนค่ำ ๆ ไปแทนเนอะ ทริปนี้พี่สาวตั้งใจจะไปผาเดียวดายมาก ๆ เราก็เลยต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อขับรถไปผา ห่างกันประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งขับรถไปตามจีพีเอส จีพีเอสพาหลงเข้าซอยตันค่ะทุกคนนนน กว่าจะหาผาเดียวดายคือนานมากกก จนต้องแวะถามเจ้าหน้าที่ถึงจะไปถูก แต่ไปแล้วคือคุ้มมาก คนไม่เยอะ ถ่ายรูปสะดวกเลยค่ะ อิอิ ชอบตอนที่รอพระอาทิตย์ขึ้นมาก ๆ เพราะเหมือนเป็นการบอกว่าการรอคอยอะไรสักอย่างอย่างตั้งใจ เป็นสิ่งที่มีความหมายและคุ้มค่ามากเลยทีเดียว จะแอบบอกว่าอากาศหนาวมากกก ลมพัดแรงด้วย หน้าชาไปหมดเลย พระอาทิตย์ขึ้นแล้วววว รูปนี้แอบถ่ายคนที่มารอพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันนะ ทุกคนน่ารักมาก ๆ น้องจะเดียวดายเหมือนชื่อผาไม่ได้น้าาาา หลานตัวแสบบบบบบบ ป.ล. ขอเตือนว่าอย่าใส่ขาสั้นมานะคะ เพราะหนาวมาก แต่นี่ไม่ฟังคำเตือน เพราะอยากได้รูปสวย ๆ หน้าไม่ดี ก็ขอถ่ายขาละกันเนอะ ๆ อิอิ ระหว่างทางกลับพวกเราก็เจอช้างป่าออกมาทักทายค่ะ น้องช้างเดินตรงมาทางรถเรากับพี่ ซึ่งอยู่หน้าสุด พี่ต้องถอยรถหนีช้า ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง ช้างอาจจะตกใจแล้ววิ่งมากระทืบรถได้ ซึ่งถนนแคบมาก ไม่สามารถกลับรถได้ทันที งานนี้ต้องตั้งสติมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าพี่สาวสติแตกไปแล้ว5555 หลานสาวนนี่นั่งเงียบ เหลือพี่เขยที่ตั้งสติได้ดี แล้วก็มีเจ้าหน้าที่มาดูแลและให้ความช่วยเหลือจนรอดออกมาได้ ถือเป็นการมาเขาใหญ่ที่ถึงเขาใหญ่จริง ๆ เลยนะคะ แลกคอนแทคท์กับช้างน้อยเรียบร้อยแล้วค่ะ555555 แล้วเราก็กลับมาทานอาหารเช้า เสร็จแล้วก็อาบน้ำ เอาเต็นท์ไปคืน พร้อมเดินทางกลับกรุงเทพฯค่ะ ลืมบอกไปว่าตอนขามา เรามากันทางปราจีนบุรี แต่ขากลับ ก็กลับทางนครราชสีมา ซึ่งมีสถานที่เที่ยวเยอะกว่า ทั้งคาเฟ่ แล้วก็ร้านต่าง ๆ รวมไปถึงสถานที่ธรรมชาติอื่น ๆ เราแวะกินข้าวกันที่ร้าน The Chocolate Factory (ไม่มีรีวิวรูปน้าาา ลืมถ่ายบรรยากาศร้านมา) แต่ขาดาร์กช็อคโกแลตต้องมาลอง ของเขาเด็ดจริง ๆ เสร็จแล้วเราก็แวะสระน้ำผุดธรรมชาติ เขาใหญ่ ที่นี่จะมีให้เล่นน้ำ ค่าบริการเข้าฟรี! และพายเรือคายัค ราคาคนละ 50 บาท เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำมีตลอดปีเลย น้ำใสมาก น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาเลยค่ะ สบายมากกกกกก เขาใหญ่ยังเป็นสถานที่ที่ทั้งนักเรียนและคนทำงานไปพักผ่อนเสาร์อาทิตย์โดยไม่ต้องลาพักร้อนได้ มาเป็นกลุ่มก็สนุก มาเป็นคู่ก็สบาย มาคนเดียวยังได้เลยนะ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเองค่ะ ซึ่งแน่นอนค่ะ ว่าทริปนี้ทำให้ลืมวิจัยไปได้เสียสนิท เป็นการพักผ่อน เสพสัมผัสธรรมชาติกันเต็มอิ่ม พร้อมกลับไปสู้กับวิจัยตัวร้ายได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นแล้วค่ะ สำหรับใครที่ต้องการชาร์จแบต หรือหลีกหนีจากชีวิตอันแสนวุ่นวาย ก็ลองมากางเต็นท์นอนที่เขาใหญ่ได้นะคะ ป.ล. แอบเห็นคนมากางเต็นท์นอนคนเดียวด้วย ไว้คราวหน้าจะลองไปคนเดียวบ้าง ไปค่ะ ทิ้งงานสักสองวันแล้วไปใช้ชีวิตกันค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน