ลงพื้นที่พัฒนาชุมชนในสถานผู้พิการซ้ำซ้อน หนึ่งในเหตุการณ์จากการลงพื้นที่ของการเรียนการสอนของนิสิตแพทย์ในรายวิชาเวชศาสตร์ครอบครัวที่เป็นสาขาหนึ่งในการลงพื้นที่รวมถึงออกเยี่ยมบ้านหรือชุมชนเพื่อการแก้ไขและพัฒนา ผู้เขียนจะขอนำเป็นประเด็นการเรียนรู้หนึ่งมาซึบซับและถ่ายทอด... คือช่วงเวลาที่ได้ออกไปดูงานสถานที่ผู้พิการซ้ำซ้อนประจำจังหวัดนครนายกทั้งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าขะ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก 26110 ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของผู้พิการจำนวนเกือบร้อยคนแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่สามารถประกอบอาชีพได้ อาทิ ร้อยลูกปัด ย้อมสีผ้า และเล่นดนตรี เป็นต้น, กลุ่มที่สามารถพอช่วยเหลือตนเองได้บ้าง และกลุ่มที่ต้องอาศัยการกายภาพบำบัดเพียงอย่างเดียว เจ้าหน้าที่ที่ดูแลนี้กล่าวว่าผู้พิการซ้ำซ้อนเหล่านี้มีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นแกะโน้ตและเล่นอังกะลุงได้เอง หรือฉีกผ้าที่จะย้อมได้อย่างว่องไว อย่างไรก็ตามจะต้องทำเรื่องขออนุญาตทางหน่วยงานล่วงหน้าก่อนรวมถึงแจ้งวัตถุประสงค์เพื่อขอเข้าไปยังสถานที่ได้ค่ะ ผู้เขียนนั้นได้เห็นอีกมุมมองหนึ่งอีกมิติของผู้คนผ่านการเล่าบรรยายของเจ้าหน้าที่และได้เห็นการดำรงชีวิตของผู้พิการซ้ำซ้อนทั้งหลาย แรกเริ่มนั้นมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ (empathy) เป็นอย่างมาก แต่ก่อนที่จะได้ทันคิดอะไรมากกว่านั้นเสียงเพลงที่เล่นโดยอังกะลุงก็ดังประสานกันมาเป็นบทเพลงที่ไพเราะจับใจ ผู้เขียนเดินไปดูพบว่าดนตรีบทเพลงนี้ถูกเล่นโดยกลุ่มผู้พิการทางด้านสายตาทั้งสิ้นส่งผลให้ข้าพเจ้าประหลาดใจและทึ่งในความสามารถนี้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เมื่อลองมองเข้าไปภายในจิตใจตนเองพบว่าผู้เขียนมีความเชื่อว่าบุคคลคนหนึ่งหากได้รับการยอมรับและการโอบอุ้มสอนสั่งสิ่งต่าง ๆ ให้ความอบอุ่น แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะไม่เท่ากับบุคคลอื่นในบางสิ่งแต่ทว่าบางอย่างในตัวตนก็สามารถฉายประกายเด่นออกมาได้หากได้รับซึ่งโอกาสประดุจดังเช่นผู้คนกลุ่มนี้ เมื่อลองกลับไปมองเหตุการณ์นี้ใหม่พบว่าความรู้สึกอื่นที่สามารถมองเห็นได้คือรู้สึกขอบคุณสังคมที่มีกลุ่มบุคคลจิตสาธารณะมอบโอกาสและความอบอุ่นให้แก่ผู้อื่น ขอบคุณที่กลุ่มผู้ที่พิการซ้ำซ้อนนี้มีแรงกำลังใจเดินทางต่อไปบนโลกใบนี้อย่างเด็ดเดี่ยว และแม้ว่าหนทางจะลำบากเพียงใดผู้เขียนเชื่อว่า “โอกาส” นั้นสำคัญเสมอ ผู้เขียนได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างผ่านมุมมองของเจ้าหน้าที่และผู้พิการทั้งหลาย การสู้ชีวิตและแรงกำลังใจที่สำคัญไม่แพ้ไปกว่าความหวังและโอกาส ความอบอุ่นและจิตสาธารณะที่ไม่หายไปตามกาลเวลาทว่ายังคงอยู่ ณ สถานที่ต่าง ๆ ผู้เขียนปฏิญาณกับตนเองไว้ว่าจะดำรงไว้ซึ่งสิ่งดีงามในชุมชนรวมถึงเข้าใจในมุมมองชีวิตชาวบ้านหรือบุคคลอื่น จะช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่ทำได้โดยไม่เบียดเบียนตนเอง ให้โอกาสผู้อื่นและที่สำคัญไม่ลืมที่จะให้โอกาสตนเองในการทำความดีเช่นกัน ท้ายที่สุดนี้ผู้เขียนขอกล่าวถึงน้อง ๆ ที่ปรารถนาเรียนต่อทางด้านการแพทย์ค่ะ เวชศาสตร์ครอบครัวเป็นรายวิชาหนึ่งที่ให้นักเรียนแพทย์ได้มีโอกาสออกเยี่ยมบ้านและครอบครัวต่าง ๆ ในชุมชนเพื่อที่จะนำความรู้ไปสู่คนในพื้นที่ในการป้องกันและการรักษาโรค อนึ่งแล้วจะคัดกรองปัญหาต่าง ๆ เบื้องต้นให้กับครอบครัวต่าง ๆ ด้วย เป็นวิชาที่ได้รับความรู้และประสบการณ์มากมายก่อนที่จะจบไปเป็นว่าที่คุณหมออย่างสมบูรณ์แบบค่ะ เครดิตรูปภาพทั้งหมด : Ploynanew (ผู้เขียน)บทความ : Ploynanew (ผู้เขียน)