สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้ผู้เขียนจะขอใช้องค์ความรู้ที่เรียนมาสรุปสั้น ๆ ในหัวข้อเรื่อง อาหารทางการแพทย์ สำหรับทารกและเด็กค่ะ สงสัยกันใช่มั้ยล่ะค่ะ ว่าอาหารทางการแพทย์ที่พูดถึงคืออะไร พูดง่าย ๆ ให้เข้าใจก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในรูปแบบของนมผงนั่นเองค่ะ ขอบคุณภาพจาก https://www.freepik.com/ เหตุผลที่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์นม หรืออาหารทางการแพทย์ ได้แก่ มารดาติดโรคที่สารทารถติดต่อผ่านน้ำนมได้ เช่น วัณโรค ,เอดส์ มารดาใช้ยาเสพติด มารดาใช้ยาที่สามารถติดต่อทางน้ำนมได้ เช่น steroid,ยาเคมีบำบัด มารดาเคยผ่าตัดเต้านม หรือมีปัญหาการสร้างน้ำนม ทารกมีปัญหาในการย่อย หรือ ทารกคลอดก่อนกำหนด สิ่งที่สำคัญคือ การคำนวณพลังงานที่ต้องการใช้ต่อวันค่ะ จำได้ไม่ยากเลย ทารกที่มีน้ำหนัก ≤10 kg ควรให้ได้รับพลังงาน 100 kcal/kg/day ทารกที่มีน้ำหนัก >10 kg ควรให้ได้รับพลังงาน 150 kcal/kg/day ทารกที่มีภาวะขาดพลังงาน และโปรตีน ควรได้รับพลังงานจากนม 2 เท่าของทารกปกติ แล้วทารก หรือเด็ก แต่ละรายต้องเลือกอาหารทางการแพทย์ ชนิดไหนกันนะ สงสัยอยู่ใช่มั้ยคะ? การเลือกอาหารทางการแพทย์ จะเลือกตามปัญหาที่พบในทารก หรือเด็กรายนั้น ๆ ค่ะ ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผู้เขียนจะขอแบ่งเป็น 7 กลุ่ม ดังนี้ค่ะ ขอบคุณภาพจาก https://www.freepik.com/ 1. ทารกที่คลอดก่อนกำหนด กลุ่มนี้ควรได้อาหารทางการแพทย์ที่มีคุณสมบัติดังนี้ มีพลังงานสูงกว่าปกติ มีการดัดแปลงโปรตีนให้ใกล้เคียงกับโปรตีนในนมแม่ มี lactose และ maltodextrin เป็นส่วนประกอบ มีการดัดแปลง Long chain triglyceride เป็น Medium chain triglyceride มีแร่ธาตุสูง เช่น sodium ,Phosphate, calcium ,Zinc เป็นต้น มีVitamin สูง ตัวอย่างเช่น Enfalac A+®, Similac Neosure®, PreNAN® เป็นต้น 2. ทารกที่มีอาการท้องเสีย ท้องอืด หลังจากการกินนมปกติ ปัญหาดังกล่าวเกิดจากทารก มีภาวะขาดenzyme lactase (Lactose insufficiency) มีภาวะ galactosemia มีภาวะแพ้น้ำตาล lactose (lactose intolerance) ดังนั้นอาหารทางการแพทย์จึงใช้ sucrose และ maltose แทน lactose และ galactose ค่ะ โดยจะพบบนฉลากข้างกระป๋อง “Lactose free formular” ตัวอย่างเช่น Enfamil® Olac, ENFALAC A+ Lactose free®, SIMILAC LF® , HI-Q Lactose free® เป็นต้น ขอบคุณภาพจาก https://www.freepik.com/ 3. ทารกที่ทานอาหารทางการแพทย์ สูตร Lactose free แล้วยังมีอาการ “ท้องเสีย” แสดงว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการดูดซึมไขมัน ซึ่งลักษณะพิเศษที่สังเกตได้คือ >> ทารกจะมีอึซีด เป็นมัน มีกลิ่นเหม็นค่ะ จึงควรเปลี่ยนไปใช้สูตร “Medium chain triglyceride formula” ตัวอย่างเช่น S-26 PE Gold®, Nutren junior®, Neo-®, Pan-Enteral® เป็นต้น ขอบคุณภาพจาก https://www.freepik.com/ 4. ทารกที่มีอาการ คลื่นไส้ อาเขียน ถ่ายเหลว ปวดท้อง หรือผื่นขึ้น ภายใน 1-24 ชม.หลังจากดื่มนมปกติ แสดงถึงการแพ้ โปรตีนจากนมวัว จึงควรใช้สูตร “Soy-base formular” ตัวอย่างเช่น ISOMIL PLUS®, Prosabee, Dumex Hi-Q-Soy®, NUTRAMIGEN® เป็นต้น 5. ทารกมีอาการแพ้ทั้งโปรตีนจากนมวัว และจากพืช ใช้สูตร Protein hydrolysate ที่มีการย่อยโปรตีน พร้อมดูดซึมได้ทันที ตัวอย่างเช่น Progestimil® เป็นต้น ขอบคุณภาพจาก https://www.freepik.com/ ุ6. ทารกที่มีปัญหาหรือมีอาการแพ้โปรตีนจากนมวัว-พืช และน้ำตาลแลคโทส ควรใช้อาหารทางการแพทย์สูตร ”Amino acid base formula” ตัวอย่างเช่น Neocate LCP®, Nutramigen AA® เป็นต้น 7. ทารกที่มีอาการแหวะนม ควรใช้สูตรที่เสริม ธาตุเหล็ก,ทอรีน(Taurine) และไขมัน ตัวอย่างเช่น Enfalac A.R®, Enfamil A.R® เป็นต้น เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับความรู้เรื่อง อาหารทางการแพทย์สำหรับทารกและเด็ก อาจจะเป็นเรื่องใหม่ของใครบางคนเลยใช่มั้ยคะ สำหรับอาหารทางการแพทย์ของทารกและเด็ก มีกลุ่มย่อยอีกหลายกลุ่ม ที่ผู้เขียนไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถเปิดดูได้ตามตำราเกี่ยวกับกุมารเวชกรรม หากเพื่อนคนไหนต้องการอ่านรายละเอียด สามารถเข้าไปดูได้เลยนะคะ