บ้านฟอลคอน ฝรั่งที่คนไทยรู้จักในอดีต จังหวัดลพบุรี ก่อนหน้านี้ขอบอกตามตรงไม่เคยรู้จักฟอลคอน ชื่อเต็มคือ คอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ พระยาวิไชเยนทร์ เลย จนกระทั่งละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ได้มีการพูดถึง และฝรั่งฟอลคอนก็เป็นตัวละครเด่นในเรื่องเสียด้วย นั่นแหละ จุดที่ทำให้เราได้รู้จัก และเป็นจุดเปลี่ยนในการเดินทางท่องเที่ยวของเราในครั้งนี้ จังหวัดลพบุรี แต่ก่อนถือเป็นจังหวัดท้ายๆ ที่เราจะนึกถึงเมื่อคิดว่าจะเที่ยวที่ไหนดี ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่ที่สามารถ ไปเช้า-เย็นกลับได้ ขับรถสบายๆ แต่นั่นแหละ ตามที่ได้บอกไปข้างต้น เพราะตัวละครเด่นที่เรากำลังติดตามอยู่นั้น ได้เคยมีตัวตนอยู่จริงในหน้าประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นการเดินทางของเราในครั้งนี้ จริงมุ่งตรงไปยังจังหวัดลพบุรี ปักหมุด Google Map ไปที่ บ้านวิชาเยนทร์ ตามข้อมูลที่เราได้ศึกษาคร่าวๆ และแกะรอยตามละครเรื่องดัง เราได้พอรู้มาว่า บ้านวิชาเยนทร์ นั้นตั้งอยู่ที่ ถนนวิชาเยนทร์ ตำบลท่าหิน อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่สำคัญๆ หลายๆ จุดในตัวเมืองลพบุรี เราจำได้ว่า เราขับรถผ่านศาลเจ้าพ่อพระกาฬที่มีลิงอยู่เยอะๆ แล้วก็วิ่งตามถนนตรงมาไม่ไกล ก็จะถึงบริเวณของ บ้านวิชาเยนทร์ “บ้านวิชาเยนทร์” หรืออีกชื่อเรียกหนึ่งคือ “บ้านหลวงรับราชฑูต” นั่นก็เพราะว่าบ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อครั้งที่คณะฑูตจากประเทศฝรั่งเศสได้เดินทางมาเจริญสัมพันธไมตรีกับกรุงสยามในการปกครองของพระนารายณ์มหาราช ในสมัยกรุงศรีอยุธยา บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับคณะฑูตและ ยังใช้เป็นที่พักรับรองของเจ้าพระยาวิไชเยนทร์ สมุหนายกชาวกรีก คนสนิทของพระนารายณ์ เวลาที่ต้องมาเข้าเฝ้ารับใช้พระนารายณ์เมื่อพระองค์เสด็จจากกรุงศรีอยุธยามาประทับที่วังพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ความรู้สีกแรกที่เราได้เห็นแม้จะแค่เห็นรั้วเท่านั้น ยังไม่ได้ผ่านประตูเข้าไป เราก็เกิดคำถามขึ้นมาทันที นี่บ้านหรือวัง ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่ แม้ปัจจุบันจะเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่โครงฐานของอาคารที่ก่อด้วยอิฐก็ยังคงหลงเหลือแสดงถึงอาณาเขตของตัวอาคารได้เป็นอย่างดี ทำให้เราสามารถจิตนาการตามได้เลยว่า ย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน บ้านหลังนี้คงดูยิ่งใหญ่มโหฬารมาก เมื่อเทียบกับบ้านของชาวบ้านธรรมดาๆ ในบริเวณเดียวกัน แต่เมื่อคิดได้ว่าสถานที่แห่งนี้ถูกใช้เพื่อรองรับแขกบ้านแขกเมืองของพระราชา จึงไม่เป็นที่แปลกใจที่จะต้องสร้างให้ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ ในพื้นที่เดียวกันนี้ ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน แบ่งได้เป็น ส่วนทิศตะวันตก ส่วนทิศตะวันออก และส่วนกลาง โดยในส่วนของทิศตะวันตก สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นบ้านพักของพระยาวิชาเยนทร์และท้าวทองกีมาร์ (ท้าวทองกีบม้า) เนื่องด้วยตัวอาคารที่สร้างเป็นตึก 2 ชั้น ดูโอ่โถง ก่อด้วยอิฐ อีกทั้งยังมีอาคารชั้นเดียว ทรงอาคารแคบ มีซุ้มประตูทางเข้าเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลม แสดงถึงสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกอย่างชัดเจน สำหรับในส่วนทิศตะวันออก จะประกอบไปด้วยกลุ่มของอาคารใหญ่ 2 ชั้น มีบันไดรูปครึ่งวงกลมอยู่ด้านหน้า เด่นชัดด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองส์ ที่สวยงาน สันนิษฐานว่ากลุ่มอาคารส่วนนี้ได้ถูกใช้ในการรับรองคณะราชฑูตฝรั่งเศส และอีกส่วนที่สำคัญคือส่วนกลาง สันนิษฐานว่าเป็นโบสถ์ตามศาสนาคริสต์ และหอระฆัง หากย้อนดูในประวัติศาสตร์แล้ว โบสถ์หลังนี้ถือเป็นหลังแรกของโลก ที่ถูกสร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรปยุคเรเนซองส์ แต่ถูกตกแต่งตามแบบพระพุทธศาสนา สำหรับประวัติโดยคร่าวของ เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) นั้น ท่านมีตำแหน่งเป็นถึงสมุหนายกในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา พื้นเพเดิมเป็นคนกรีก เป็นนักผจญภัยเดินทางไปที่ต่างๆ จนมาลงหลักปักฐานอยู่ที่กรุงสยาม เดิมเข้ามาในฐานะพ่อค้า เพราะทำงานให้กับบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ เป็นคนที่มีความรู้ด้านภาษาเป็นอย่างดี สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษากรีก, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส และภาษาอื่นๆ รวมถึงภาษาไทย ทำให้ได้มีโอกาสเข้ารับราชการในราชสำนัก โดยเริ่มจากตำแหน่งล่าม และยังเป็นคนกลางในการสื่อสารประสานงานระหว่างอยุธยากับฝรั่งเศส และด้วยความสามารถเหล่านี้จึงทำให้สมเด็จพระนารายณ์ทรงโปรดปราน และได้รับการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว และถือได้ว่า เป็นคนต่างชาติชาวตะวันตกคนแรกที่ได้เข้ารับราชกาลในสมัยอยุธยา สำหรับใครที่สนใจเข้าชมบ้านวิชาเยนทร์ เปิดบริการให้เข้าชมระหว่างเวลา 08.00 - 18.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ และ อังคาร