ละโว้หรือลพบุรีนั้น เป็นเมืองเก่าที่มีความสำคัญมาทุกยุค ทุกสมัย หลักฐานทั้งในด้านโบราณวัตถุและโบราณสถาน บอกให้รู้ว่าที่นี่ ไม่เคยร้างผู้คน สิ่งปลูกสร้างในเมืองนี้จึงมีตั้งแต่สมัยทวารวดี ขอม ต้นกรุงศรีอยุธยา ปลายกรุงศรีอยุธยา ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และในสมัยปัจจุบัน เมื่อประมาณกลางปี พ.ศ. ๒๕๖๑ กรมศิลปากรได้ทำขุดสำรวจในพื้นที่ศาลกระกาฬ ซึ่งได้สร้างความสนใจให้กับนักประวัติศาสตร์ที่สนใจในเรื่องของโหราศาสตร์เป็นอย่างมาก เพราะการขุดค้นครั้งนั้น ทำให้เราได้เห็นฐานของการก่อเรียงอิฐในลักษณะของจักรราศี ที่เรียกกันว่า ลัคนา ลัคนา คือ การวางจุดกำเนิดของดวงดาว ณ เวลาหนึ่งเวลาใด ในจักรราศีทั้ง ๑๒ ช่อง คนมีลัคนาของดวงคน และเมืองก็มีลัคนาของดวงเมือง ฐานของอิฐที่เรียงตัวกันเป็นช่องเท่ากันทั้ง ๑๒ ช่องนั้น มันคือการวางดวงเมืองของที่นี่ แต่ทางนักวิชาการยังไม่ชี้ชัดว่า เป็นการวางดวงเมืองในยุคสมัยใด ซึ่งถ้าเทียบกับยุคการวางเสาหลักเมืองกรุงเทพมหานครฯ มีบันทึกว่า เสาหลักเมืองนั้นจะมีช่องบรรจุ “ดวงชะตาเมือง” ไว้ด้วย ซึ่งดวงชะตาเมือง นี่แหละคือ ลัคนาดวงเมือง รูปแบบของการวางหลักเมือง ฉันเชื่อว่ามันแตกต่างกันไปตามยุคสมัย ดวงเมืองอาจถูกบรรจุอยู่ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็แล้วแต่เจตนาของผู้สร้างเมือง ฉันเคยคุย อ.ต๋อย หรือ อาจารย์ปฏิพัฒน์ พุ่มพงษ์แพทย์ นักโบราณคดี อดีตข้าราชการกรมศิลปากร ท่านได้ให้ข้อสังเกตว่า ที่นี่อาจจะไม่ใช่ที่แรกที่มีการวางลัคนาดวงเมืองแบบนี้ แต่เป็นที่แรกที่เราเจอการก่ออิฐเรียงตัวเป็นจักรราศีอย่างน่าอัศจรรย์ น่าเสียดายที่เราไม่พบว่าสิ่งใดหลงเหลืออยู่ เพราะ อ.ต๋อยเชื่อว่า น่าจะมีการบรรจุสิ่งของตามช่องของราศีจักร และไม่ใช่ฐานเจดีย์แน่นอน เพราะการเรียงอิฐแตกต่างกัน แม้จะยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องจักรราศีที่ศาลพระกาฬเมืองละโว้ ว่าสร้างในสมัยใด แต่มันทำให้เราเห็นว่า การวางฤกษ์ยาม การใช้โหราศาสตร์และความเชื่อของดวงดาว มันอยู่คู่กับเรามาเนิ่นนานนับพันปีแล้ว ปัจจุบันนี้ ซากการเรียงอิฐแบบจักรราศีนี้ ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมที่บริเวณศาลพระกาฬ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี และฉันเชื่อแน่ว่า ถ้าไม่มีใครอธิบายถึงการความสำคัญของจักรราศีที่อยู่บนพื้นดินข้างศาลพระกาฬ ก็คงไม่มีใครสนใจ และคงจะผ่านเลยไปเหมือนเช่นซากอิฐบนพื้นที่นับวันจะกร่อนสลายลงไปทุกที จึงได้แต่หวังว่าเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศน์จะเห็นความสำคัญของสิ่งๆ นี้