ภาพปกจาก https://pixabay.com หลาย ๆ คนคงเคยไปเที่ยวที่กาญจนบุรีมาแล้ว กาญจนบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ถ้าพูดการถึงล่องแพต้องนึกถึงกาญจนบุรี แต่ที่นั่นไม่ได้มีแค่การล่องแพอย่างเดียวนะคะ วันนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับหมู่บ้านอิต่อง เหมืองปิล็อก ตั้งอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีนั่นเองค่ะ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้จะติดกับชายแดนไทย-พม่า โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ สายหมอก และในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นเหมืองมาก่อน หลังจากนั้นได้กลายสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในไทย รูปประกอบโดยเจ้าของบทความ การเดินทางมาที่นี่สามารถเดินทางมาได้โดยรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ก็ได้ค่ะ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมน้ำมันรถให้พร้อม เพราะระหว่างทางขึ้นมาจะไม่มีปั๊มน้ำมัน และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งควรตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง เนื่องจากถนนหนทางมีหลุมมีบ่อบ้างบางจุด นอกจากนั้นเราต้องผ่านโค้งถึง 399 โค้ง หากใครที่พึ่งไปครั้งแรก แนะนำให้ระมัดระวังในการขับขี่ค่ะ พอเราขับขึ้นไปได้สักครึ่งทางจะมีจุดพักรถ จุดนี้มีสินค้าบริการ เช่น น้ำดื่ม มะม่วง ขนม สามารถแวะเข้าห้องน้ำหรือชมวิวรอบ ๆ ถ่ายรูป หลังจากนั้นค่อยเดินทางต่อจนถึงหมู่บ้านอิต่อง รูปประกอบโดยเจ้าของบทความ ที่นี่มีทั้งที่พักแบบโฮมสเตย์พร้อมกับอาหารเช้าไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ถ้าเป็นช่วงเทศกาลหากไม่จองล่วงหน้าที่พักมักจะเต็มหมด หรือสำหรับใครที่อยากดื่มด่ำธรรมชาติจริง ๆ จะเตรียมเต็นท์มากางนอนตามจุดที่เค้าให้กางเต็นท์ได้ เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่ดีเลย ได้ชมวิว สูดอากาศ แต่ถ้าไม่มีเต็นท์ ที่นี่ก็มีบริการให้เช่าค่ะราคาตั้งแต่ 200-300 บาทขึ้นไป หากเอาแค่เต็นท์ธรรมดาราคาจะถูกลง แต่หากเราเลือกเอาหมอนกับป้าห่มด้วยราคาก็จะบวกเพิ่มค่ะ รูปประกอบโดยเจ้าของบทความ ตรงจุดชุมวิวบนเนินช้างศึก ช่วงเย็น ๆ ใกล้พระอาทิตย์ตกดิน คนจะเยอะมากเพราะคนจะขึ้นไปถ่ายรูป ชมวิว ดูพระอาทิตย์ บรรยากาศดี๊ดี ทำให้ช่วงนั้นรถขึ้นลงเยอะ และทางที่ขึ้นมาบนเนินค่อนข้างลาดชัน ควรขับอย่างระมัดระวัง แต่พอท้องฟ้าเริ่มมืดผู้คนก็จะทยอยกลับลงไปตามที่พักของตัวเอง เหลือเพียงคนที่กางเต็นท์นอนบนเนินช้างศึกเท่านั้น รถก็จะไม่ติดแล้ว ตอนกลางคืนจะมีดวงดาวเต็มท้องฟ้า เราก็นอนดูดาว นั่งกินข้าว ล้อมวงคุยกันสนุกสนาน ช่วงที่เราไปเป็นช่วงปีใหม่ค่ะ ฝนไม่ตก แต่ที่สำคัญคือ ลมค่ะ ลมค่อนข้างแรง อากาศเย็น แนะนำให้พกเสื้อกันหนาวกางเกงขายาวไปใส่ตอนกลางคืนด้วยนะคะ ส่วนของอาหารเราลงไปซื้อที่หมู่บ้านขึ้นมาค่ะ ข้างบนเนิ่นช้างศึกก็มีขายนะคะ เช่น น้ำ ขนม อาหาร ข้าวกล่อง มาม่า และยังมีที่บริการชาร์จแบตมือถือด้วย ค่าบริการ 20 บาท หากใครอยากเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำก็มีบริการค่ะ 5-10 บาท รูปประกอบโอยเจ้าของบทความ ตอนเช้าเราตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและหมอก จากนั้นเก็บข้าวของต่าง ๆ ลงไปที่หมู่บ้านอิต่อง ที่นั่นจะเป็นโฮมสเตย์ที่พัก พร้อมกับอาหารในตอนเช้า อีกทั้งร้านของฝากของใช้ ของกินต่าง ๆ รูปประกอบโดยเจ้าของบทความ นี่เป็นอีกหนึ่งร้านที่ขายเสื้อผ้า แหวนหยก กำไล สร้อยข้อมือ ราคาก็ไม่แพงนะคะ เราซื้อสร้อยข้อมือทองมาหนึ่งเส้น ไม่ลอกไม่ดำดีจริง ๆ จ้า รูปประกอบโดยเจ้าของบทความ ร้านนี้จะเป็นของฝากแบบของที่ระลึกน่ารัก ๆ แถมยังมีตะเกียงจุดไฟขายด้วยนะ เพราะเวลาเราขึ้นไปกางเต็นท์นอนมันไม่มีไฟค่ะ อาศัยจุดตะเกียงโรแมนติก ๆ รูปประกอบโดยเจ้าของบทความ ตรงนี้เป็นจุดเขียนแผ่นไม้กระดานเล็ก ๆ ซึ่งจุดนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของหมู่บ้านอิต่องเลยก็ว่าได้ เพราะผู้คนมักจะมาถ่ายรูป แขวนไม้กระดานกันตรงนี้เยอะมาก ยิ่งถ้าใครมากับคนที่รักยิ่งฟินสุด ๆ ไปเลย หลังจากที่เราเดินเที่ยวชมรอบ ๆ จนครบแล้วก็เดินทางกลับ ระหว่างเดินทางกลับเรายังพบเห็นรถที่มุ่งหน้ามาเที่ยวหมู่บ้านอิต่องอย่างไม่ขาดสาย นับว่าที่นี่เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนและประเทศไทยเรา หากใครยังไม่เคยได้มาสัมผัสกับบรรยากาศจริง ๆ ต้องลองมาสักครั้งในชีวิตให้ได้ค่ะ แล้วจะพบว่ามันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่บรรยากาศดีไม่แพ้ทางภาคเหนือเลย