อื่นๆ

สามเณรเจอดี

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
สามเณรเจอดี

"สามเณรเจอดี"

เขาว่ากันว่าคนเรามักจะมีความทรงจำเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ที่เคยพบผ่านหรืออยู่อาศัยเสมอ ผมเองก็เช่นกัน เพียงแต่เรื่องราวของผมมันเป็นความทรงจำทีไม่ดีเท่าไหร่นัก แค่ได้เห็นสถานที่นั้นเพียงเสี้ยววินาทีภาพความทรงจำต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นก็ไหลผ่านเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ

ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ผมยังอายุเพียง 9 ปีผมได้มีโอกาสบวชเณรภาคฤดูร้อนช่วงปิดเทอมใหญ่ วัดที่ผมบวชเป็นวัดที่อยู่ติดกับโรงเรียน ในช่วงเย็นผมกับเพื่อนๆ สามเณรรูปอื่นจึงมักจะพากันไปวิ่งเล่นในลานกีฬาของโรงเรียนอยู่เป็นประจำ

บันไดภาพโดย tama66 จาก pixabay.com

ในเย็นวันหนึ่งผมได้้ชักชวนเพื่อนสามเณรเล่นซ่อนแอบในเวลาหกโมงที่ฟ้าใกล้มืดเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ ผมกับเพื่อนสามเณรพากันเดินขึ้นตึกเรียนก่อนจะสุ่มหาคนที่จะต้องปิดตาเพื่อหาคนอื่นๆ ที่จะวิ่งไปซ่อนตัว ตึกเรียนที่พวกผมขึ้นไปเล่นซ่อนแอบเป็นขนาด 2 ชั้นที่เชื่อมกับตึกใหญ่และตึก 2 ชั้นอีกหลายตึก หลังจากสุ่มหาคนที่ต้องปิดตาได้แล้วผมก็รีบวิ่งหาที่แอบทันที ในใจกำลังตื่นเต้นกับการเล่นสนุกจนลืมไปว่าฟ้าเริ่มมืดมากแล้วซึ่งส่งผลให้ภายในตัวตึกไม่ค่อยมีแสงสว่างจะมีก็แค่เพียงแสงจากเสาไฟฟ้าด้านนอกสาดส่องเข้ามาเท่านั้นม ผมวิ่งออกมาเรื่อยๆจนกระทั่งเสียงนับเลขเบาบางลงและไม่ได้ยินในที่สุด

Advertisement

Advertisement

ใต้บันได...คือเป้าหมายของผม ด้วยความมืดและเป็นมุมอับผมจึงคิดว่ามันน่าจะยากต่อการถูกพบเจอ ผมวิ่งลงมาจากบันไดขั้นบนสุดจนถึงขั้นพักบันไดเพื่อลงไปด้านล่าง แต่แล้วฝีเท้าของผมก็หยุดชะงักเมื่อเห็นว่าด้านล่างตรงประตูเหล็กที่ถูกปิดล็อคนั้นมีเงาดำคล้ายคนยืนอยู่ ด้วยสัญชาตญาณเหลืออะไรไม่ทราบที่ทำให้ผมรู้ทันทีว่านั้นต้องไม่ใช่คนแน่นอน เงาดำแม้คล้ายคนมากแต่กลับสูงเกือบ 3 เมตร จะว่าเป็นเงาจากแสงไฟก็ไม่น่าใช่เพราะตรงนั้นเป็นมุมอับไร้แสงไฟส่องเข้ามา ผมจ้องเงานั้นด้วยดวงตาที่แข็งค้างและมันคงจะเป็นอย่างนั้นต่อไปถ้าเงาดำนั่นไม่ขยับทำท่าคล้ายจะเดินขึ้นมาหาผม

โถงทางเดินภาพโดย herm จาก pixabay.com

ไม่ต้องรอให้สมองสั่งการขาสองข้างก็เคลื่อนไหวทันที ผมวิ่งแหกปากร้องว่าผีหลอก วิ่งไม่รู้ทิศรู้ทางก่อนจะกระโดดจากระเบียงชั้น 2 ของตึกลงกิ่งไม้ที่ยื่นออกมา ไม่รู้ว่าตอนนั้นโดนไม้ขูดเนื้อไปมากแค่ไหนรู้แต่ว่าสติสตังของผมมันไม่มีเหลือเพียงพอที่จะให้รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากบาดแผลได้ หลังจากกระโดดลงมาถึงพื้นผมก็วิ่งสุดฝีเท้าข้ามถนนที่กั้นผ่านระหว่างวัดและโรงเรียนเข้ากุฏิทันที คืนนั้นผมนอนไม่หลับจับไข้ทั้งคืนเดือดร้อนพระพี่เลี้ยงต้องมาเช็ดตัวให้จนถึงเช้าจึงได้หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

Advertisement

Advertisement

เงาคนภาพโดย superherftiggeneral จาก pixabay.com

นับตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยออกจากกุฏิหลังพระอาทิตย์ตกดินอีกเลย โชคดีที่แม่ได้พาผมย้ายโรงเรียน ไม่อย่างนั้นคงมีเหตุผลให้ผมต้องเดินผ่านที่ตรงนั้นอีกแน่นอน แม้จะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตามแต่พอนึกถึงเรื่องนั้นทีไรผมก็อดขนลุกไม่ได้ทุกที

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์