ภาพของ “สะพานมอญ” ที่อำเภอสังขละบุรี เป็นภาพที่เราเห็นบ่อยครั้งจนชินตาตามเพจเฟสบุ๊ค ที่รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงภาพถ่าย แต่ทำไมมันเหมือนมีมนต์เสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดให้เราอยากลองไปเห็นด้วยตาของตัวเองดูสักครั้ง และนั่น..เป็นที่มาที่ทำให้เราต้องเก็บกระเป๋าเดินทางในทริปนี้..ซึ่งเราจะพาทุกท่านไปเที่ยวที่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงเดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงหน้าฝนกันค่ะ การเดินทางทริปนี้ เราออกเดินทางไปยังจังหวัดกาญจนบุรีด้วยรถยนต์ส่วนตัว แล้วเดินทางต่อจากตัวเมืองกาญจนบุรี ไปยังอำเภอสังขละบุรี ซึ่งเส้นทางที่เราผ่านนั้น เป็นถนนที่รถยนต์สามารถขับได้แค่ 2 เลน สวนกัน โดยบางช่วงเป็นภูเขาสลับไปมาด้วย ถือว่าต้องใช้ทักษะและความชำนาญในการขับขี่พอสมควร ใช้เวลาในการเดินทางกว่า 7 ชั่วโมง รวมระยะทางกว่า 600 กม. ในที่สุดก็เดินทางมาถึง ถนนคนเดิน อำเภอสังขละบุรี เรามาถึงที่นี่ในเวลาเย็นพอดี เข้าเช็คอินกับที่พักที่จองไว้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสะพานมอญมากนัก หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อย ก็พากันออกไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินยามเย็นในตัวอำเภอ ซึ่งบรรยากาศก็คล้าย ๆ กับถนนคนเดินทั่วไปที่ขายอาหาร ขนม เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แต่ความพิเศษอยู่ที่ มีเยาวชนต่างแต่งกายด้วยชุดชาวมอญ ออกมายืนต้อนรับนักท่องเที่ยว บ้างก็ทำการแสดง บ้างก็แสดงทักษะโชว์การเอาโถข้าวหลาย ๆ ใบ ไว้บนศีรษะ เป็นการสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย เดินได้ไม่นานนัก ฝนก็โปรยปรายลงมา เราจึงต้องรีบกลับที่พัก ฝนที่ตกตลอดทั้งคืน ทำให้เรานอนหลับอย่างเย็นสบาย และรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปตักบาตรบนสะพานมอญ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ ในเช้าตรู่ของทุกวัน จะมีพระสงฆ์ออกมาเดินบิณฑบาต รับอาหารจากญาติโยม โดยสามารถซื้ออาหารได้จากชาวบ้านที่เตรียมมาขายตรงริมทางก่อนจะถึงทางลงไปยังสะพาน ท้องฟ้าในตอนเช้านั้น ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำเพราะฝนที่ตกลงมาเมื่อคืน มีหมอกสีขาว ๆ ลอยไปทั่วบริเวณจนปะทะกับใบหน้าของเรา เบื้องล่างของสะพานที่เรายืน เป็นสายน้ำกว้างใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนที่นี่ ชื่อว่า “แม่น้ำซองกาเรีย” ความเย็นของหมอกและไอน้ำทำให้เรารู้สึกชุ่มฉ่ำหัวใจอย่างบอกไม่ถูก บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายทั้งชายหญิง พากันแต่งกายด้วยชุดชาวมอญออกมาตักบาตรและถ่ายรูป นี่เองที่คงเป็นมนต์เสน่ห์ที่เราได้เห็นจากภาพถ่าย ภาพของสะพานไม้ที่ยาวสุดลูกหูลูกตาที่พาเรามาไกลถึงที่นี่ ใครที่ยังไม่เคยมาสัมผัสด้วยตาตัวเอง เราขอแนะนำให้ท่านลองหาโอกาสมาซักครั้งนะคะ....ที่นี่ช่างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีมนต์เสน่ห์มากจริง ๆ ภาพโดย : นักเขียน