บ้านอีต่อง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนไทยพม่า ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ เป็นหมู่บ้านที่อดีตเป็นที่ตั้งเหมืองแร่ อันรุ่งเรือง อยู่ท่ามกลางหุบเขา ท่ามกลางม่านหมอก มีฝนตกบ่อยและอากาศเย็นเกือบทั้งปี และมีเส้นทางการเดินทาง ที่น่าตื่นเต้นและท้าทาย ด้วยเส้นทางที่ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ และ 399 โค้ง อันเลื่องชื่อ ชื่อเสียงของหมู่บ้านอีต่องที่เราพอจะศึกษามาแล้วบ้าง และคิดว่าถ้ามีโอกาส ควรต้องไปสัมผัสให้ได้สักครั้งแหละ ภาพโดย Nuch Chayanuch ครั้งนี้เราเดินทางด้วยรถส่วนตัว เส้นทางกาญจนบุรี -ทองผาภูมิ จากทองผาภูมิขึ้นไปถึงตัวหมู่บ้านอีต่อง ระยะทาง 30 กม. ตรงนี้แหละเราจะได้เริ่มสัมผัสกับ 399 โค้ง ที่ใคร ๆ พากันกล่าวถึง เส้นทางเป็นถนนทางลาดยางเล็กๆ คดเคี้ยว หลุมบ่อ ตลอดเส้นทางสมคำร่ำลือจริงๆ ลัดเลาะขึ้นเขาไปเรื่อยๆ และโค้งที่399 ตรงโค้งไหนเชื่อได้ว่า น้อยคนจะนับตามถูก แค่ไม่เมาโค้งถือว่าโอเคแล้ว 555 ตลอดเส้นทางก็ลุ้นอยู่เหมือนกันนะ สำหรับคนที่ไม่ชินทาง ถึงหมอกฝนที่ลอยตัดกับภูเขา วิวจะสวยขนาดไหนก็เถอะนะ ตั้งใจขับรถก่อน ก่อนถึงตัวหมู่บ้านจะมีจุดชมวิว และเป็นจุดที่มีสัญญาณโทรศัพท์ ให้ได้แวะพักรถ พักชมวิว ที่มองลงไปเห็นเขื่อนวชิราลงกรณ์ด้วย มุมนี้สวยมากเลยแหละ ภาพโดย Nuch Chayanuch พอถึงตัวหมู่บ้าน อีต่องเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบมาก ผู้คนที่นี่น่ารัก อัธยาศัยดี มีที่พักให้เลือกเป็นโอมสเตย์หลายแห่ง รวมถึงลานกางเต๊นท์ ให้ได้เลือก ที่พักที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก หลายโซน หลายสไตล์ต่าง ๆ กันไป ราคาประมาณเริ่มต้น 800 - 2,500 บาท แต่แนะนำให้จองล่วงหน้ามาก่อน ก็จะสะดวกดีนะ ภาพโดย Nuch Chayanuch วันนี้เรามาถึงเกือบค่ำแล้ว ในหมู่บ้านมีร้านอาหารเล็ก ๆ ให้พอหาอะไรทานอยู่หลายร้าน รวมถึงอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อเพราะมาจากทะเลอันดามัน ฝั่งพม่านั่นเอง ในตลาดมีร้านขายของที่ระลึก ของฝากจากพม่า น่าสนใจดี เดินช้อปเดินชมเพลิน ๆ และตามรอยรีวิวที่เคยศึกษามาว่าบรรยากาศยามค่ำคืนที่นี่ ก็สวยไม่น้อย เราได้ตะเกียงจากร้านขายของฝากมาอันนึง ตั้งใจมาถ่ายรูป เก็บบรรยากาศในคืนนี้เลยแหละ 555 ภาพโดย Nuch Chayanuch เราสามารถเดินเล่นชมบริเวณรอบ ๆ หมู่บ้านได้นะ อากาศที่นี่ค่อนข้างเย็น และด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นเกือบทั้งปีรอบ ๆ หมู่บ้านจึงมีพรรณไม้แปลกตาต่าง ๆ ที่ชาวบ้านปลูก เป็นไม้เมืองหนาวซะเป็นส่วนใหญ่ เท่าที่รู้จักบ้างก็จะมี ดอกไฮเดรนเยีย กุหลาบพันปี ออกดอกสวยงามมาก และเนื่องจากอดีตที่เคยเป็นเหมืองเก่า ปัจจุบันยังคงเหลือเครื่องมือทำเหมืองโบราณ และรถโบราณที่เคยใช้ในการทำเหมืองซึ่งจุดนี้เป็นจุดไฮไลท์ของหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ ให้ได้ชมกัน ใกล้ๆกันนี้มีบ่อธรรมชาติและน้ำตกเล็ก ๆ ที่น้ำใสมากและมีฝูงปลาคราฟ อาศัยอยู่ด้วย นอกจากนี้ในหมู่บ้านจะมีมุมน่ารักหลายๆมุมให้เดินชม และเก็บภาพเพลินเลยทีเดียว ภาพโดย Nuch Chayanuch และบนเนินเขาติดกับหมู่บ้านเป็นวัดที่สวยงามแปลกตาวัดนึง ชื่อว่าวัดเหมืองปิล็อก เนื่องจากชาวบ้านที่นี่มีทั้งคนไทย คนไทยเชื้อสายพม่า วัดที่นี่จึงมีศิลปะพระพุทธรูปแบบพม่า และเจดีย์ใหญ่สีทองอร่าม ให้ได้ขึ้นไปสักการะกันด้วยนะ ด้วยอากาศที่ค่อนข้างเย็น มีหมอกบ้างเล็กน้อยถึงแม้ใกล้เที่ยงแล้วก็ตาม รวมถึงความแปลกตาและมีสเน่ห์ของหมู่บ้าน เชื่อได้ว่าหลาย ๆ คนที่มาสัมผัส คงเดินเพลินจนลืมเหนื่อยแน่นอน ภาพโดย Nuch Chayanuch พอเดินรอบหมู่บ้านจนพอใจแล้ว เราขับรถขึ้นไปเหนือหมู่บ้านไม่ไกลจากตัวหมู่บ้านมากนัก ยังมีจุดชมวิวอีกหลายจุดให้ได้ไปชมความสวยงามของธรรมชาติกัน เช่น เนินเสาธง จะสังเกตุเห็นว่ามีเสาธงชาติไทย และ พม่าตั้งอยู่คู่กัน ซึ่งเนินเสาธง เป็นยอดเขาที่กั้นพรมแดนไทย-พม่า ซึ่งจุดนี้ว่ากันว่าถ้าฟ้าเปิดจะมองเห็นทะเลอันดามันด้วยแหละ แต่เราไม่เห็นนะ เพราะฟ้าฝนไม่เป็นใจ เลยไปอีกนิดจะเป็นช่องมิตรภาพ เป็นช่องเขาเล็ก ๆ ที่เป็นจุดเชื่อมต่อชายแดนไทยพม่า ตรงนี้นี้จะมีป้อมทหารอยู่ด้วย วิวภูเขาตรงนี้สวยมากถ่ายรูปออกมาแล้วเก๋ไม่น้อย วิวภูเขาที่นี่สวยจิง ๆ และ มีอีกหลาย ๆ จุดที่น่าแวะ แต่ด้วยเวลาในวันหยุดอันน้อยนิด และฟ้าฝนไม่เป็นใจ ยังเหลืออีกหลายจุดที่ใกล้ ๆ กันนี้เช่น เนินช้างศึก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ที่เราไม่มีเวลาพอจะได้ไปทุกจุด ซึ่งถ้ามีโอกาส ก็น่าไปสัมผัสดูสักครั้ง ภาพโดย Nuch Chayanuch วันหยุดทั้งทีวางแผนการเดินทางดี ๆ ออกเดินทางให้ร่างกายได้สัมผัสธรรมชาติบ้าง เก็บบรรยากาศดี ๆ วิวดี ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ เก็บเกี่ยวความสุขจากธรรมชาติ ก็สร้างพลังให้กลับไปสู้กับการทำงานได้ดีไม่น้อยเลยนะ พิกัด บ้านอีต่อง ตำบล ปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรี