บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็กๆบนหุบเขา และมักเป็นจุดพักสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางต่อไปยังเขาช้างเผือก เราก็เช่นกัน เราได้เลือกอีต่องเป็นจุดพักก่อนที่จะเดินทางสู่เขาช้างเผือกในวันรุ่งขึ้น เราออกเดินทางจากกรุงเทพ เวลาประมาณ 09:30 ด้วยรถยนต์ส่วนตัว เราเริ่มต้นด้วยข้าวเหนียวหมูปิ้งก่อนออกเดินทาง เนื่องด้วยระยะทางจากกรุงเทพ มาอีต่อง ใช้เวลาค่อนข้างนาน ถึง 6 ชั่วโมง เราเลยไม่ได้แวะไหน นอกจากแวะกินกลางวันกันที่ร้าน บ้านตั้งริวแควก่อน เพราะกลัวจะไปถึงมืด จะขับลำบาก หลังจากอิ่มกันแล้ว ไม่รอช้า เราก็ยิงยาวไปยัง อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิแล้วมุ่งสู่บ้านอีต่อง ซึ่งระยะทางไปยัง อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยวพอสมควร กว่าจะมาถึงอีต่องได้ เราต้องผ่านทางโค้งถึง 399 โค้งเลยทีเดียว ดีนะที่ไม่ได้เป็นคนเมารถอะไร ระหว่างทางคดเคี้ยวไม่พอ ถนนยังเป็นหลุมเป็นบ่ออีก เรียกว่าถนนอุกกาบาตก็ยังได้ และบางช่วงก็ยังมีการทำถนนอยู่ เราทำเวลาได้แค่ 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง เท่านั้น มิน่าละ ถึงต้องใช้เวลานานในการเดินทางมายังบ้านอีต่อง ใครขับรถมาระมัดระวังกันด้วยนะคะ แต่ยังดีมีจุดแวะพักให้เราได้ชมวิวก่อน หลังจากผ่านโค้งมาหลาโค้งเลย ที่จุดชมวิว กม.15 ตรงจุดนี้จะมีสัญญาณโทรศัพท์ และมีห้องน้ำ เผื่อใครที่เวียนหัวจากโค้ง ก็แวะพักให้หายเหนื่อยหายเมื่อยก่อนก็ดี ส่วนเราก็แวะถ่ายรูปเล่นไป ถือว่าเป็นการยืดเส้นยืดสายสักหน่อย ตรงนี้มีป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆด้วย หายเมื่อยแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ เราแวะ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิก่อน เพื่อลงทะเบียนขึ้นเขาช้างเผือก และจองเต็นท์ ให้เรียบร้อย จากนั้นก็ยิงยาวไปยังอีต่องเลย เรามาถึงอีต่องก็ประมาณ 16:30 อากาศที่นี่เย็นๆ ต้องใส่เสื้อคลุมกันเลยทีเดียว เพราะอยู่บนหุบเขา คืนนี้เราพักกันที่ “ทางช้างเผือก โฮม ปิล๊อก” ซึ่งทำให้เราเห็นวิวภูเขา และหมู่บ้านด้วยFacebook ที่พัก : https://www.facebook.com/miin166/ ห้องที่เราจองเป็นห้องสำหรับสี่คน แต่เรามากันสามคนเอง ห้องละ 1500 สำหรับ 3 คน รวมอาหารเช้า แต่เนื่องจากว่าวันที่เราพัก ทางที่พักไม่สะดวกในเรื่องอาหารเช้า เค้าเลยคืนเงินให้ คนละ 100 เลยกลายเป็นว่าเราเสียค่าที่พักไป 1200 บาท ที่นี่ นอนสบาย มีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊ส ที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นระบบปั่นไฟ ดังนั้นจะมีปัญหาในเรื่องไฟดับค่อนข้างบ่อย อากาศเย็นๆแบบนี้ แอร์ไม่ต้อง พึ่งแค่แอร์กี่ก็หนาววแล้ววว หลังจากเก็บสัมภาระกันแล้ว พวกเราก็ออกไปสำรวจหมู่บ้านกันดีกว่า หมู่บ้านอีต่องไม่ใหญ่มากนัก อากาศกำลังดีเย็นๆ เดินสบายๆ เราเดินมาถึงสะพานที่มีนักท่องเที่ยวเขียนคำอวยพรแล้วแขวนไว้บนราวสะพาน บ่งบอกได้ว่านักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้มีไม่ใช่น้อยเลย ที่พักโฮมเสตย์ แถวริมน้ำเรียงรายกันรอให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน เนื่องจากหมู่บ้านอีต่องอยู่ใกล้พม่า ห่างจากพม่าแค่ 2 km. เท่านั้นเอง ถือว่าใกล้มากๆๆ ดังนั้นเราจะเห็นว่าขนมที่วางขายในหมู่บ้านก็มาจากพม่า ก็อร่อยอยู่นะ ลองซื้อมาชิมดู ที่ตลาดอีต่อง จะมีขายของกระจุกกระจิก ของกิน ของตกแต่งพวกงานไม้ ในตลาดเราจะผ่านร้านกาแฟไมนิ่ง ที่นี่เป็นที่พักด้วยนะ จากตลาดเราก็เดินออกมาย่านที่เป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านโปสการ์ด ไว้เขียนหาคนทางไกลได้ รึจะเขียนหาตัวเองอย่างเราก็ได้นะ ^_^ มีขายพร้อมแสตมป์ พร้อมหย่อนลงในตู้ได้เลย หรือจะซื้อเสื้อผ้าเป็นที่ระลึกก็ดี ใครขาช้อป ก็ลองเลือกกันดูนะคะ ส่วนเราเดินถ่ายรูปเรื่อยๆ ไปตามทางถนน บรรยากาศเรียบง่าย เป็นธรรมชาติดี เราเดินกันมาจนสุดถนนก็จะเจอป้ายซุ้มทางเข้าบ้านอีต่อง จากป้ายทางเข้าตรงนี้ เดินไปอีกนิดจะเป็นทางเข้าเหมืองปิล๊อก ซึ่งเป็นที่เก็บซากเครื่องมือที่ใช้ทำเหมืองแร่ รถที่ใช้ทำเหมืองแร่ จะถุกนำมาเก็บไว้ที่นี่ อันนี้เป็นเครื่องมือในการทำเหมืองแร่ แต่เราก็ไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร มีบ่อน้ำด้วย ซึ่งน้ำใสมากกก มากจนเห็นลูกอ๊อดในน้ำเลย ตัวใหญ่มว๊ากก เดินชมเหมืองปิล๊อก แล้วเราก็เดินกลับมาแถวย่านที่พักริมน้ำ มาดูบรรยากาศยามเย็น เราเห็นมีสร้างที่พักเพิ่มเติมด้วยเหมือนกัน และเราคือผู้พิชิตปิล๊อก 399 โค้ง 555 หลังจากที่เดินทั่วหมู่บ้านแล้ว ก็ได้เวลาที่เราต้องฝากท้องสำหรับมื้อเย็นกันแล้ว มีหลายร้านให้เลือก สรุปก็จบที่ร้านนี้ "ครัวเจ๊นี" รสชาติอาหารใช้ได้เลย อร่อยดี ปลาตัวใหญ่มว๊ากกกกก มีกุ้งจากพม่าด้วยนะ เป็นกุ้งลายเสือ แต่พวกเราไม่ได้สั่งมา เพราะมีแต่ตัวใหญ่ๆ ตัวเล็กดันหมดซะแล้ว กินเสร็จเราก็เดินกลับที่พัก อาบน้ำอาบท่าก่อน เผื่อดึกๆแล้วไฟดับ ฮ่าๆ ตื่นเช้ามา ตอนเช้าๆที่นี่มีพระเดินบิณฑบาตรด้วยนะ แถวๆตลาดอีต่อง เราก็ซื้อของตักบาตรจากร้านค้าบริเวณนั้นเพื่อมาใส่บาตรยามเช้า จากนั้นก็เตรียมตัว เพื่อขึ้นเขาช้างเผือก ป้ายบอกทางไปยังเขาช้างเผือก จุดที่นักท่องเที่ยวจะมารวมตัวกันตรงนี้ก่อนที่จะเริ่มเดิน อ้อ..ตรงปากทางเข้าสู่หมู่บ้านอีต่องจะมีร้านเค้กในตำนาน คือร้านเค้กที่เคยทำอยู่ที่บ้านป้าเกล็น ใครที่ไม่ได้แวะไปบ้านป้าเกล็น ก็สามารถแวะมากินเค้กที่นี่ได้ ชิ้นละ 70 บาท เนื้อแน่น อร่อยดี เราได้มาลองวันที่ลงจากเขาช้างเผือกแล้ว จัดไปสองชิ้น เค้กช็อคโกแลตกับเค้กกล้วยน้ำว้า ก่อนอำลา บ้านอีต่อง... บ้านอีต่อง..หมู่บ้านเล็กๆที่รอนักท่องเที่ยวมาเยือน มาพักที่นี่ก็เหมือนมาชาร์ตแบตในตัวเอง