ถ้าพูดถึง "จงอางศึก", "กองพลเสือดำ" หลายๆ คนคงคุ้นหู หรือเคยได้ยินมาบ้าง แต่เชื่อว่าก็ยังมีอีกหลายคน ที่ไม่รู้ว่าคืออะไร (เช่นผู้เขียนเป็นต้น) และทั้งจงอางศึก, กองพลเสือดำ เกี่ยวข้องยังไงกับค่ายสุรสีห์ วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าให้ฟังค่ะกำเนิด "จงอางศึก" ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2484 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง เวียดนามต้องการหลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และมีเอกราชของตนเอง จึงได้ประกาศต่อสู้กับฝรั่งเศส และสู้รบกันอย่างหนักเป็นเวลายาวนานถึง 8 ปี จนกระทั่ง กองกำลังเวียดมินห์ สามารถโจมตีป้อมปราการสำคัญของฝรั่งเศสที่ "เดียนเบียนฟู" ได้สำเร็จ ฝรั่งเศสยอมรับความพ่ายแพ้และต้องการสงบศึกที่มีท่าทีว่าจะลุกลาม จึงได้มีการลงนามใน "อนุสัญญาเจนีวา พ.ศ. 2497" ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีผลให้เวียดนามถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ โดยเส้นขนานที่ 17 องศาเหนือ เป็นเส้นแบ่งเขตเวียดนามเหนือ ปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ภายใต้การนำของ "โฮจิมินต์" ที่พยายามจะรวมเวียดนามทั้ง 2 ส่วนเข้าด้วยกัน ปี พ.ศ. 2498 โฮจิมินต์ ได้ส่งกองโจรเวียดกง แทรกซึมเข้าไปในเวียดนามใต้ โดยแฝงเข้ามาเป็นผู้อพยพและผู้ลี้ภัยอย่างต่อเนื่อง และชักจูงราษฎรเวียดนามใต้ ในช่วงเวลาที่การบริหารประเทศของรัฐบาลเวียดนามใต้อ่อนแอ และตกอยู่ในจุดล่อแหลมที่สุดในปี พ.ศ. 2508 เวียดนามใต้จึงต้องร้องขอความช่วยเหลือจากมิตรประเทศฝ่ายโลกเสรี เพราะมิอาจต่อต้านเวียดนามเหนือได้เพียงลำพัง ปี พ.ศ. 2510 รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ส่งกำลังทหารเข้าไปในเวียดนามใต้ พร้อมด้วยกำลังทหารพันธมิตรอีก 6 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สเปน, ฟิลิปปินส์, เกาหลีใต้ และ ประเทศไทย เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามเวียดนามตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คณะรัฐมนตรีจากรัฐบาลไทยได้ลงมติอนุมัติหลักการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่รัฐบาลสาธารณรัฐเวียดนาม จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นเรียกว่า "กรมทหารอาสาสมัคร" (กรม. อสส.) เป็นกองกำลังทหารไทยหน่วยแรกที่ปฏิบัติการรบในเวียดนาม และได้สมญานามว่า "จงอางศึก" โดยมีภารกิจในการรบเป็นหลัก และปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนเป็นรองจาก "จงอางศึก" สู่ "กองพลเสือดำ" หลังจากที่ "จงอางศึก" จากกรมทหารอาสาสมัคร เดินทางไปปฏิบัติการรบที่เวียดนามเป็นเวลาครบ 1 ปี กองทัพบกได้มอบให้คณะกรรมการพิจารณาเตรียมการส่งกำลังไปผลัดเปลี่ยน กรมทหารอาสาสมัคร โดยให้เพิ่มเติมเป็น 1 กองพลทหารอาสาสมัคร วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2511 จึงมีคำสั่งจัดตั้ง "กองพลทหารอาสาสมัคร" บรรจุมอบเป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก มีที่ตั้งอยู่ที่ ค่ายกาญจนบุรี ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และเดินทางไปปฏิบัติการรบในสาธารณรัฐเวียดนาม มีสมญานามเป็นที่รู้จักกันว่า "กองพลเสือดำ" ต่อมาในปี พ.ศ. 2514 กองกำลังทหารไทยได้ถอนกำลังออกจากเวียดนามใต้ กลับที่ตั้ง ณ ค่ายกาญจนบุรี นับเป็นเวลาถึง 4 ปี ที่กองกำลังทหารไทยได้ทำการรบอยู่ที่เวียดนามใต้ด้วยความกล้าหาญ ความมีวินัย และด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง ยอมสละแม้กระทั่งเลือดเนื้อ ชีวิต เพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ แสดงถึงความเป็นชาตินักรบ จนเป็นที่ประจักษ์แก่ฝ่ายสัมพันธมิตรและได้รับคำสรรเสริญถึงวีรกรรมการสู้รบของทหารไทยเป็นอันมากการเดินทางของ "กองพลเสือดำ" สู่ความยิ่งใหญ่ของ "กองพลทหารราบที่ 9" วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2514 กองทัพบกได้ออกคำสั่งตั้งกองพลใหม่ขึ้น ณ บริเวณ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยแปรสภาพกองพลทหารอาสาสมัคร "กองพลเสือดำ" เป็นกองพลใหม่ขนานนามว่า "กองพลที่ 9" ด้วยเหตุผลที่ในปีนั้น ครบรอบ 24 ปี แห่งวันรัชดาภิเษกของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 ในขณะนั้น ต่อมาวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2514 กองทัพบกได้ขนานนามค่ายที่ตั้ง "กองพลที่ 9" นี้ว่า "ค่ายกาญจนบุรี" หลังจากนั้น กองทัพบกได้ออกคำสั่งให้เปลี่ยนนามจาก "กองพลที่ 9" เป็น "กองพลทหารราบที่ 9" เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2525 นับเป็นกองพลเดียวในกองทัพบกที่ใหญ่ที่สุด มีหน่วยงานขึ้นตรงอยู่ในพื้นที่เดียวกันถึง 18 กองพัน 5 กรม บนเนื้อที่กว่า 66,752 ไร่จาก "สมรภูมิลาดหญ้า" สู่ "ค่ายสุรสีห์" อย่างเต็มภาคภูมิ สถานที่ตั้งกองพลทหารราบที่ 9 "ค่ายกาญจนบุรี" แห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสมรภูมิสงครามทุ่งลาดหญ้า แห่งสงครามเก้าทัพในอดีต กองทัพไทย นำโดย "สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล" ในรัชกาลที่ 1 (เจ้าพระยาสุรสีห์) ทรงเป็นแม่ทัพนำกำลังพลเพียง 3 หมื่นคน ทำการรบกับพม่าข้าศึกที่ยกกำลังพลมาถึง 9 หมื่นคน แต่ด้วยพระปรีชาอันชาญฉลาดของผู้ทรงเป็นแม่ทัพ ทำการรบจนได้รับชัยชนะแก่ข้าศึก จนต้องถอนทัพกลับไป ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2328 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาสงครามระหว่างไทยกับพม่าที่มีมาอย่างยาวนานเป็นอันยุติลง สมรภูมิลาดหญ้า จึงเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของชาติไทยสืบมา วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 กองทัพบกได้มีประกาศขอพระราชทานเปลี่ยนนามค่ายใหม่ จาก "ค่ายกาญจนบุรี" เป็น "ค่ายสุรสีห์" นับจากนั้นเป็นต้นมา กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นหน่วยทหารอาชีพที่พร้อมรบ สามารถปฏิบัติการทางทหารได้ทุกสภาวะแวดล้อม ตามบทบาทของทหาร รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนด้านตะวันตก รวมระยะทาง 846 กิโลเมตร กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พร้อมปฏิบัติทุกภารกิจที่ได้รับมอบ เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายสูงสุดร่วมกัน คือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 4 เรื่องที่อาจจะยังไม่รู้ เกี่ยวกับค่ายสุรสีห์ ที่ผู้เขียนนำมาฝากกัน พอได้ทราบเรื่องราวความเป็นมาก่อนจะมาเป็นค่ายสุรสีห์อย่างทุกวันนี้ ผู้เขียนรู้สึกภาคภูมิใจ และขอบคุณในความเสียสละของทหารไทย ที่ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อปกป้องแผ่นดินไทยให้รอดพ้นจากข้าศึกศัตรู ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังได้รู้จักค่ายสุรสีห์ ซึ่งมีความสำคัญในแง่มุมที่ผู้เขียนไม่เคยรู้มาก่อน หวังว่าเรื่องราวที่นำมาฝากนี้จะมีประโยชน์กับผู้ที่สนใจและยังไม่รู้จักค่ายสุรสีห์ เหมือนที่ผู้เขียนเองก็เคยไม่รู้จักมาก่อนเช่นกัน คงทำให้หลายๆ คนได้รู้จักค่ายสุรสีห์ที่มีประวัติอันยาวนานนี้มากขึ้นนะคะ :)ขอบคุณรูปสวยๆ จาก : Bert ABขอบคุณแหล่งอ้างอิงข้อมูลจาก www.surasee.com และ https://www.oocities.org/surasri99/hist/hist.htmติดตามแฟนเพจผู้เขียนได้ที่ : facebook.com/angrindiary