สะพานมอญสังขละบุรี ทริปนี้เป็นทริปที่ตั้งใจกันว่าอยากนอนกางเต็นท์สักที่หนึ่ง หรือจะเรียกว่าทริปประหยัดก็ได้555 ที่มีในใจก็ เขาค้อ กับ สะพานมอญ สุดท้ายเราเลือก สะพานมอญ ค่ะ ด้วยความที่เราชอบไปเที่ยว ไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน วัฒนธรรมท้องถิ่น และเป็นมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดให้ใครหลายๆคนให้มาที่นี่ สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาว 850 เมตร ตั้งอยู่ที่อำเภอ สังขละบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 300 กว่ากิโลเมตร เวลาเดินทาง 5-6 ชั่วโมง การเดินทางครั้งนี้เดินทางด้วยรถส่วนตัว เส้นทางกรุงเทพฯ-ตัวเมืองกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ-สังขละบุรี พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ เราเดินทางในช่วงวันหยุดยาว ทำให้เจอรถติดเป็นระยะ กว่าเราจะเดินทางถึงสังขละบุรีก็ใช้เวลาร่วม 8-9 ชั่วโมง (เพื่อนในทริปให้ชื่อว่าเที่ยวสะพานมอญเหมือนไปเชียงใหม่) ในที่สุดเราก็เดินทางถึงสังขละบุรีสักที สิ่งแรกคือ เริ่มหาที่ปักมุดกางเต็นท์ ที่แรกที่ไปดูสถานที่คือ จุดชมวิว ที่นี่สามารถกางฟรี มีห้องน้ำบริการ ทุกอย่างฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่พอเรามองไปเราเห็นจุดหนึ่งมีหลายคนกางบ้างแล้วจุดนั้นอยู่ติดแม่น้ำมากๆ วิวสวยกว่า พวกเราตัดสินใจขับรถไปจุดนั้นทันที ซึ่งเป็นที่ส่วนบุคคลชื่อว่า ไร่ชายรีสอร์ต มีค่ากางเต็นท์คนละ 100 บาท มีห้องน้ำบริการ สุดท้ายเราเลือกกางเต็นท์กันที่นี่ค่ะ สามารถมองเห็นสะพานมอญได้เลยจากหน้าเต็นท์ ที่นี่เจ้าของใจดี แจกผลไม้ ขนม ให้ทุกๆเต็นท์ บริการแบบด้วยใจมากๆค่ะ ที่สำคัญคือสามารถปิ้งย่างได้ เราก็ลงมือทำกับข้าวกัน อิ่มกันแล้วเราก็แยกย้ายกันเข้านอน แพลนของวันพรุ่งนี้ คือตื่นแต่เช้าใส่บาตรที่สะพานมอญ เราเดินทางไปสะพานมอญโดยใช้บริการเรือค่าบริการ ไป-กลับ 20 บาทจากจุดกางเต็นท์ของเรา พอถึงฝั่งจะมีชาวบ้านเรียกให้เราแต่งชุดชาวมอญแต่งฟรีค่ะ เราอุดหนุนของใส่บาตร ชุดละ 99 บาท จากนั้นเดินไปที่ตรงข้างสะพานจะมีจุดให้เรารอใส่บาตรพระ จะมีผู้คนมากมายมารอเพราะถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็ว่าได้พอทำบุญเรียบร้อยถึงเวลากินข้าวเช้าร้านดังของที่นี่จะเป็นโจ๊กนั่งยอง แต่คนต่อคิวเยอะมากๆ เราจึงกินที่ร้านข้างๆกันเป็นร้านโจ๊กและก๋วยจั๊บ รสชาติอร่อยถูกปาก พออิ่มกันแล้วเราก็มาเดินเล่นกันที่สะพานมอญ บนสะพานจะมีน้องๆปะแป้งให้ค่ะ น่ารักมากๆ และมีวัฒนธรรมการเทินของไว้ที่หัว เราสามารถขอถ่ายรูปได้นะคะ พอเดินเล่นกันเต็มที่แล้ว ก็นั่งเรือกลับมารีสอร์ตเพื่อเก็บเต็นท์พร้อมกับโบกมือลาสังขละบุรีเมืองสามหมอกดินแดนสามวัฒนธรรมมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ส่วนครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ เครดิตภาพ : จากผู้เขียน