ทริปนี้เป็นทริปนั่งรถไฟไปเช้าเย็นกลับ เป็นทัวร์จากการรถไฟแห่งประเทศไทยที่จะพาเราไปเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใคร ๆ ก็ไปได้ ไปง่ายไม่ต้องคิดมาก แถมราคาก็สบายกระเป๋าด้วย เราเลยเลือกเส้นทาง จากกรุงเทพฯไปน้ำตกไทรโยคน้อย ทัวร์กรุงเทพฯไปน้ำตกไทรโยคน้อย เป็นทัวร์เปิดให้บริการ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ส่วนอัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่/เด็ก 120 บาท อยากได้แบบลมธรรมชาติก็ซื้อ ส่วนรถนั่งปรับอากาศชั้น 2 ผู้ใหญ่ / เด็ก คนละ 240 บาท ชอบแบบไหนก็เลือกเอาได้เลยจ้า เริ่มการเดินทางที่สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ เพราะสะดวกที่สุด ซึ่งกำหนดการทัวร์ รถไฟจะออกจากสถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง) เวลา 06.30 น.โดยขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวน้ำตก ขบวนที่ 909 เวลาประมาณ 07.40 ก็ถึงสถานีนครปฐม เขาให้เวลาเรา 40 นาที ไปพักผ่อนตามอัธยาศัย เดินเลือกซื้อของ หรือจะไปกราบไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ก็ได้เดินไปไม่ไกลจากสถานี เดินตรงไปเลย เดินเข้าไปไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ที่วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร สำหรับ พระปฐมเจดีย์ นั้นเดิมเรียกว่า พระธมเจดีย์ ถือเป็นพระสถูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยนะ มีลักษณะเด่นคือ รูปทรงเจดีย์ที่คล้ายรูประฆังคว่ำขนาดใหญ่ นอกจากนี้ภายในตัวเจดีย์ยังเป็นที่ประดิษฐ์ฐานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ใครที่อยากชมความสวยงามที่ยิ่งใหญ่นี้ก็มาแวะชมและไหว้องค์พระปฐมเจดีย์กันได้ ลักษณะของกำแพงสองชั้น เมื่อได้เวลาครบตามกำหนดการ ก็กลับมาขึ้นรถไฟเดินทางออกจากสถานีนครปฐม ระหว่างทางไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว สองข้างเต็มไปด้วยทุ่งนาเขียวขจีและภูเขา ดูแล้วสบายตา เวลาประมาณ 09.35 น. ก็ถึงสะพานข้ามแม่น้ำแคว สามารถชมและถ่ายภาพสะพานข้ามแม่น้ำแควตามอัธยาศัย ในเวลา 25 นาที สำหรับสะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งในอดีตถูกสร้างโดยเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ภายใต้การควบคุมของกองทัพญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีเลยนะ ทั้งยังรับการยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพอีกด้วย ซึ่งจุดนี้มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างล้นหลามเพราะที่นี่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจจนเอาไปทำเป็นภาพยนตร์ เวลา 11.00 น. เดินทางถึงถ้ำกระแช ที่นี่หล่ะที่ขบวนรถจะพาไต่สะพานประวัติศาสตร์ ที่หวาดเสียวที่สุด ผ่านหน้าผาที่ยาวมาก ถ้ำกระแช นี้เป็นทางรถไฟสายมรณะ ถือว่าเป็นที่ที่มีชื่อเสียงมากอีกจุดหนึ่ง จุดนี้ก็มีคนมาเที่ยวชมดูรถไฟไต่หน้าผาเยอะ นอกจากชมความอัศจรรย์ของทางรถไฟที่ลัดเลาะไปตามหน้าผาและป่าโปร่งที่เป็นเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดเส้นหนึ่งแล้ว ยังมีเรื่องราวในอดีตก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะที่นี่ถูกสร้างโดยกองทัพญึ่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่่2 ที่พวกเขาได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายตรงข้าม มาสร้างทางรถไฟสายนี้เพื่อเข้าไปสู่ประเทศพม่า โดยขนส่งอาวุธและกำลังพล เพื่อการเข้าไปโจมตีประเทศที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษในขณะนั้น ซึ่งการสร้างทางรถไฟสายนี้ทำให้เชลยศึกต้องเสียชีวิตลงเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของคำว่าทางรถไฟสายมรณะนั้นเอง ถือได้ว่าเป็นเส้นทางรถไฟประวัติศาสตร์สายสำคัญที่ยังเปิดใช้งานมาจนถึงปัจจุบันที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชมกันได้นะ ไฮไลด์ของเส้นทางนี้อีกที่คือคือป่าที่คล้าย "แม่น้ำอเมซอน" ซึ่งสวยมาก เวลา11.30 น. ก็มาถึงน้ำตกไทรโยคน้อย พักผ่อนประมาณ 3 ชั่วโมง ที่นี่จะมีรถไฟเป็นอนุสรณ์เก่า ที่แสดงให้เห็นว่ารถไฟสายนี้ เชลยศึกเคยสร้างเส้นทางรถไฟผ่านหน้าน้ำตกไปยังประเทศพม่า แต่ปัจจุบันได้รื้อถอนทิ้งจนสุดอยู่แค่สถานีน้ำตกไทรโยคน้อย น้ำตกไทรโยคน้อยที่ไม่มีน้ำ ทำไมมันแห้งแบบนี้น้ำสักหยดก็ไม่มี แต่ผู้คนก็แห่มาถ่ายรูปกันอยู่5555 ก่อนจะกลับกรุงเทพ ก็ได้ไปสถานที่สุดท้ายของวันคือสุสานทหารพันธมิตร ซึ่งจะมาจอดให้ทุกคนลงที่ สถานีรถไฟกาญจนบุรี ใช้เวลา 30 นาที ซึ่งที่นี่สร้างเพื่อที่รำลึกแด่ทหาร ที่นี่มีบรรยากาศที่เงียบสงบและร่มรื่น พื้นที่ภายในได้รับการตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ และประเทศของผู้เสียชีวิตทั้งยังมีธงจิ๋วของคนประเทศนั้นปักอยู่ด้วยบางหลุม สุสานเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ถึงหกพันกว่าหลุม ก่อนจะกลับได้ซื้อก๋วยเตี๋ยวราชบุรีด้วย เป็นอาหารเย็น อร่อยมาก เรียกได้ว่าเป็นทัวร์ที่คุ้มค่ามาก ได้แวะหลายจังหวัดตั้งแต่ที่นครปฐม แล้วมาจังหวัดกาญจนบุรีถ่ายรูปเล่นที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว ย้อนอดีตชมเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์หรือเล่นน้ำที่น้ำตกไทรโยคน้อย ก่อนจะกลับกรุงเทพแวะชมสุสานทหารพันธมิตร ได้พักผ่อนหย่อนใจแถมยังได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์อีกด้วย