วิกฤติการณ์เรื่องของ โควิด-19 ทำให้มีหลายคนได้รู้จักกับคำว่า Work from Home หรือ “ทำงานจากบ้าน”กันแบบจริงจังไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตามแต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อตอบสนองต่อการแก้ปัญหาโรคระบาดร้ายแรงที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ข้อดีของการทำงานที่บ้านคือไม่มีการเดินทางคุณจึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนแต่งตัวเพื่อออกจากบ้านในเวลาเช้าและไม่ต้องเพลียกับการเดินทางเวลาจะกลับบ้านในช่วงเย็นที่อาจใช้เวลาหลายชั่วโมง ทำให้คุณจะมีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นโดยสามารถทำงานได้ถึงแม้จะใส่ชุดนอนอยู่ก็ตาม แต่ในข้อดีมันก็มีข้อเสียที่น่ากลัวแอบแฝงอยู่อย่างหนึ่งคือคุณจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจจากเป้าหมายได้ง่ายเนื่องจากมีการล่อลวงรอบตัวมากมายไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ โทรศัพท์ อาหารอร่อยๆ ฯลฯ แต่บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่ที่ทำงานที่บ้านสามารถทำได้และบรรลุเป้าหมายของตัวเองที่คุณก็ทำตามได้ไม่ยาก ภาพประกอบจาก pixabay.com 1. สร้างตารางงานเวลาที่ชัดเจน ถึงจะทำงานที่บ้านแต่ก็ควรมีเวลาทำงานที่แน่นอนโดยคุณสามารถสร้างตารางงานเช่นปกติเวลาไปทำงานเริ่ม 8 โมงเช้าถึง 5 โมง ซึ่งการทำงานที่บ้านก็เช่นเดียวกันให้คุณสร้างตารางเวลาที่มีความแน่นอนและทำงานให้ได้ตามเวลาที่วางแผนเอาไว้ อย่างไรก็ตามคุณอาจจะเลือกช่วงเวลาที่รู้สึกสบายที่สุดก็ได้ เช่น ปกติทำงาน 8 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็น แต่เมื่อทำงานที่บ้านคุณอาจจะใช้เป็นการทำงานสายขึ้นมาหน่อยเช่น เริ่มทำงาน 10 โมงเช้า เลิกตอน 1 ทุ่ม เป็นต้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจำเป็นต้องมีการประชุมออนไลน์กับทีมงานหรือเสนองานให้ลูกค้าดูด้วยด้วยหรือไม่ ภาพประกอบจาก pixabay.com 2. มีพื้นที่สำหรับทำงานโดยเฉพาะ เคล็ดลับอีกวิธีในการทำงานจากที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพคือการมีพื้นที่ทำงานซึ่งเป็นที่ที่คุณจะวางพีซีหรือแล็ปท็อปของคุณในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ความรู้สึกของการทำงานอย่างแท้จริงอีกทั้งการทำงานบนเตียงเป็นการดึงดูดให้คุณอยากนอนมากกว่าที่จะทำงาน นอกจากนี้งานบางอย่างที่ต้องติดต่อกับลูกค้าผ่านทางวิดิโอคอลหรืองานที่ต้องการแสงที่ดีหรือพื้นหลังที่น่าสนใจ เช่น การพรีเซนต์งาน ดังนั้น มันจะไม่เป็นมืออาชีพเลยหากว่าจะต้องเห็นฉากหลังเป็นเตียง ภาพประกอบจาก pixabay.com 3. ตั้งเป้าหมายของงานที่มีความแน่นอน เจ้าของกิจการหรือลูกค้าส่วนใหญ่จะให้เป้าหมายรายสัปดาห์หรือรายเดือนแก่คุณ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วคุณจะต้องสร้างเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และตรงตามเวลา ดังนั้น คุณจะรู้ว่าต้องจัดลำดับความสำคัญอย่างไร ตัวอย่างเช่นหากผมถูกขอให้เขียนบทความ 30 บทความภายใน 30 วัน ผมอาจจะเลือกเขียนบทความ 2 ชิ้นต่อวัน ดังนั้น ผมจึงรู้วิธีรับมือกับงานล่วงหน้า การมีเป้าหมายที่ดี (โดยเฉพาะเป้าหมายรายวัน) จะทำให้คุณใกล้ชิดกับเป้าหมายรายสัปดาห์หรือรายเดือนที่กำหนดโดยหัวหน้าหรือเจ้านายได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยคุณจัดลำดับความสำคัญว่าต้องทำอะไรก่อน อะไรหลัง คุณไม่ต้องการให้บริษัทเกิดปัญหาหากว่าคุณไม่ส่งงานตรงตามเวลา การวางเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพเป็นส่วนสำคัญมากของการทำงานที่บ้าน 4. บอกครอบครัวของคุณถึงการทำงานที่บ้าน การอยู่กับครอบครัวเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย? สำหรับการทำงานที่บ้านเพราะคุณอาจถูกรบกวนได้ง่ายแต่ก็จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจกับคนที่บ้านถึงตารางเวลาการทำงานของคุณ ลองนึกภาพว่าการประชุมทางวิดีโอคอลและคุณแม่ของคุณเดินผ่านกล้องมาเอาตะกร้าผ้าไปซักนั่นออกจะเป็นเรื่องตลกไปสักนิดหรือถ้ามีลูกๆมาคอยกวนใจคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ภาพประกอบจาก pixabay.com 5. ให้รางวัลกับตัวเอง หากคุณทำงานประจำวันหรืองานรายเดือนได้สำเร็จลองให้รางวัลกับตัวเองบ้าง อาจเป็นอาหารที่คุณอยากกิน สิ่งของที่อยากได้ เช่น นาฬิกาเรือนใหม่ น้ำหอม เสื้อผ้า ฯลฯ แต่ควรงดเรื่องออกไปเที่ยวนอกบ้านไปก่อน โดยควรเป็นรางวัลที่จะช่วยให้รู้สึกดีไม่ว่าจะเลือกอะไรขอเป็นสิ่งที่สามารถกระตุ้นให้คุณอยากทำงานต่อไป สำหรับตัวผู้เขียนเองใช้เวลาในการทำงานที่บ้านมาโดยตลอดเนื่องจากเป็นฟรีแลนซ์มานานเกือบ 10 ปี และสิ่งที่ได้เรียนรู้คือการที่จะทำให้อยู่รอดได้ในการทำงานที่บ้านถึงแม้บางช่วงจะขี้เกียจหรือต้องการยืดหยุ่นเวลาการทำงานในบางช่วงเวลา คือการต้องมีวินัยในตัวเองนั่นคืองานที่ต้องทำจะต้องให้เสร็จตามเวลาที่กำหนดจะไม่มีการขอเลื่อนส่งงานโดยเฉพาะกับลูกค้าอย่างเด็ดขาดและไม่เพียงแค่นั้นจะต้องเสร็จก่อนกำหนดด้วยสิ่งนี้คือสิ่งที่ตระหนักเอาไว้ในใจเสมอเพราะจะทำให้ลูกค้าให้การยอมรับและเลือกที่จะกลับมาใช้บริการอีกถึงแม้ว่าจะมีคนที่สามารถทำงานให้ในราคาที่ถูกกว่าก็ตาม ต้องไม่ลืมว่างานที่เราทำได้คนอื่นก็ทำได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นองค์ประกอบอื่นๆคือสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างไม่ให้ลูกค้าเปลี่ยนใจนั่นเอง หวังว่าคุณจะพอมองเห็นว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณสามารถทำงานจากที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพจนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยังคงจำเป็นต้องเก็บตัวจนกว่าสถานการณ์ โควิด-19 จะดีขึ้นและสามารถกลับไปทำงานได้เหมือนเดิม ขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจาก pixabay.com