เราเป็นคนหนึ่งที่ร่ำรวยบัตรกดเงินสดพอประมาณ เพราะมีมากกว่า 5 ใบ ส่วนบัตรเครดิตมีน้อยหน่อย ซึ่งจะใช้กับการชำระเงินทางออนไลน์ต่างประเทศ เช่น การจดโดเมนเว็บไซต์ การเช่าโฮส หรือซื้อบริการรายเดือนในโปรแกรมต่าง ๆ แต่บัตรที่คล่องมือพอสมควร ก็คือบัตรกดเงินสด เริ่มต้นจากวงเงิน 25,000-30,000 บาท (โดยประมาณ) ผ่านมาเกือบ 10 ปี มี 2 ใบ ที่เรามีวงเงินหลักแสนบาท ส่วนบัตรอื่น ๆ ไม่ค่อยได้ใช้ วงเงินจึงไม่ค่อยขยับเครดิตภาพ : stevepbหากจะถามว่าได้วงเงินเพิ่มเพราะอะไร ส่วนนี้ก็น่าจะมาจากหลายทาง เพราะวิธีการจ่ายชำระคืนของเราหลากหลายมาก ดังนั้นหากเดือนไหน มีรายได้เสริมมากหน่อย ก็จะจ่ายเป็นก้อนไปเลย โดยเลือกบัตรกดเงินสดที่มียอดหนี้รวมน้อยที่สุดก่อน เพราะจะได้ปิดจบไปทีละที่ ส่วนบัตรอื่น ๆ ก็จ่ายขั้นต่ำรอไป ที่ต้องทำเป็นคิวแบบนี้ เพื่อให้ตัวเลขของเจ้าหนี้ลดลงไปได้บ้าง (เห็นจำนวนเจ้าหนี้แล้วลมจะใส่) แต่หลาย ๆ เดือนก็ทำไม่ได้ เพราะรายได้เสริมไม่เข้าเป้า ก็ต้องจ่ายขั้นต่ำไปตามระเบียบ มีบ้างที่จ่ายช้าเพราะลืม แต่ก็ยังไม่เคยถึงขั้นติดเครดิตบูโรเครดิตภาพ : stevepbถามว่า สถาบันการเงิน เพิ่มวงเงินให้ในรูปแบบไหน? เอาจริง ๆ ก็จำไม่ค่อยได้เท่าไร แต่หากจำไม่ผิด แทบจะไม่ต้องส่งเอกสารอะไรเลย ทั้ง 2 บัตรก็ทยอยมียอดวงเงินขึ้นมาเองเรื่อย ๆ เท้าความกลับไปว่า ทำไมไม่เคยขอวงเงินเพิ่ม ก็เพราะคิดว่าเรามีบัตรกดเงินสดหลายใบ เดี๋ยวใบไหนเต็ม ก็ไปกดเอาที่บัตรอื่นมาใช้ก็ได้ ... ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเอาซะเลย ซึ่งทั้ง 5 ใบ จะเต็มวงเงินจริง ๆ อยู่ 2-3 ใบเท่านั้น ส่วนที่เหลือ ก็เก็บไว้นอนนิ่ง ๆ แบบนั้น เพราะพยายามที่จะไม่หยิบมาใช้ วงเงินไม่เพิ่มก็ช่างเหอะ!!...เครดิตภาพ : Mediamodifierแล้ว “ชีวิตดีขึ้นบ้างไหม?” บอกเลยว่าทรง ๆ ... คือทรงไม่ดีเลย เพราะคิดว่ามีเงินสำรองอยู่ตลอด พอเงินขาดมือก็มักจะไปกดบัตรพวกนี้อยู่เสมอ ทำจนติดเป็นนิสัย จนไม่มีความคิดที่จะใช้เฉพาะเงินสดในมือเลย ยิ่งหากอยากได้ของอะไรก็ตาม ก็มักจะติดการผ่อนชำระอย่างมาก แม้ว่าจะมีเงินสดในมือก็ตาม เพราะคิดแค่ว่าจะเอาเงินไปลงตูมเดียวทำไม ทยอยจ่ายเอาก็ได้ เสียดอกเบี้ยนิดหน่อยไม่เห็นเป็นไร เพราะแบบนี้จึงทำให้ระบบการเงินทรงไม่ดีมาตลอด เอาเป็นว่าแค่พอเอาตัวรอดเป็นเดือน ๆ ไปแค่นั้นเองเครดิตภาพ : nattanan23แม้ที่ผ่านมา การใช้บัตรกดเงินสด จะไม่ชนเพดานทุกใบ แต่ก็เสียดอกเบี้ยไปไม่น้อยเหมือนกัน มีครั้งหนึ่งหนักหนาสาหัส ก็เอารถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ กว่าจะเอาตัวรอดได้ก็ปาเข้าไปเกือบ 3 ปี แต่ถ้าหักดิบไม่จ่ายเอาซะดื้อ ๆ ก็ต้องไปลุ้นเรื่องการถูกอายัดเงินเดือนอีก เพราะตอนนั้นยังทำงานประจำอยู่ จึงไม่ขอเสี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น สรุปแล้ว การมีวงเงินเยอะหรือน้อยไม่ใช่ประเด็น แต่การใช้เงินให้เป็น สำคัญที่สุด ...ดังนั้นทุกวันนี้ หากใครก็ตามมีปัญหาเรื่องเงินมาปรึกษา บอกได้เลยว่าไม่มีให้ยืมหรอก ให้ได้แต่คำปรึกษาเท่านั้น เพราะการยืมเป็นการสร้างหนี้เพิ่ม แต่การให้แนวทางปลดหนี้ จะทำให้ปัญหาจบได้ ซึ่งเป็นประโยชน์มากกว่าแน่นอนกดที่รูปโปรไฟล์ แล้วกด “ติดตาม” เอาไว้นะคะ เรามีประสบการณ์เรื่องการจัดการหนี้สินมาแชร์อีกเยอะเลยค่ะ เครดิตภาพปก : lcbบทความน่าอ่าน :- 5 แนวทางปลดหนี้แบบไม่ต้องหนีหนี้ ทำยังไง? ต้องอ่าน!!- จ่ายชำระหนี้ขั้นต่ำไม่ไหว เก็บเงินก้อนไม่ได้ ทำยังไงดี?- ลูกหนี้ควรรู้ 5 ช่องทางการขอส่วนลดจากยอดหนี้ค้างชำระ (นาน)